ถ้าให้พูดถึงเสต็ปการโมดิฟายรถกระบะในยุคนี้ คงไม่มีเสต็ปไหน ฮิตไปกว่าเสต็ปการโมดิฟายในรุ่นเทอร์โบ 3,000 กันแล้วหล่ะครับ ยิ่งในรายการแข่งขันใหญ่ของปีอย่าง Isuzu Race Spirit 2019 ในรุ่นการแข่งขัน All-New Isuzu Turbo 46 mm. ก็ถือเป็นอีกหนึ่งการแข่งขันที่ได้รับความสนใจมากที่สุดอีกหนึ่งรุ่น ด้วยจำนวนรถที่เข้าร่วมการแข่งขันเกินกว่า 20 คันในทุกๆสนาม แถมล่าสุดได้มีการสร้างสถิติใหม่ในรุ่นนี้ ด้วยการวิ่งควอเตอร์ไมล์ 402 เมตร ด้วยเวลาเพียง 9 วินาทีกันอีกด้วย ดังนั้นในวันนี้ เราจะมาไขข้อสงสัยกันว่า ทำไมเจ้าเทอร์โบ 3,000 ที่มีขนาดลูกเล็กเพียงนิดเดียว ถึงสามารถวิ่งได้เร็วกันขนาดนี้
โดยสำหรับเทอร์โบ 3,000 ที่เราเรียกกันติดปากนั้นจริงๆแล้ว มันคือเทอร์โบ IHI RHF4H เทอร์โบเดิมที่ติดเครื่องยนต์ในรหัส 4JJ พิกัด 3,000 cc. ของทาง Isuzu ซึ่งสำหรับขาซิ่งทั้งหลายที่ซื้อกระบะตัวเตี้ย ที่เครื่องยนต์นั้นมี cc. น้อยกว่า แต่อยากเพิ่มความแรง การหันไปคบค้าสมาคมกับเทอร์โบจากเครื่อง 3,000 ก็ดูจะเป็นหนทางที่ทำได้ง่าย แรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และที่สำคัญยังมีราคาไม่แพง จึงทำให้การโมดิฟายในสเต็ปเทอร์โบ 3,000 นั้นดูจะเป็นที่นิยมและแพร่หลายมาจนถึงปัจจุบัน แต่เป็นเรื่องปกติสำหรับสายแรงดีเซลทั้งหลาย เมื่อเริ่มมีการเพิ่มบูสต์ที่มากขึ้น ปริมาณทั้งแรงดันทั้งไอดีและไอเสีย ก็ย่อมเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย จนบางทีอาจสร้างความเสียดายแก่ตัวเทอร์โบได้ ดังนั้น การโมดิฟายเทอร์โบ 3,000 ก็เข้ามามีบทบาททั้งในส่วนของความแรงและความคงทนของตัวเทอร์โบนั่นเอง
ซึ่งในส่วนของการโมดิฟายเทอร์โบ 3,000 นั้นก็มีมากมายหลายสูตร หลายเสต็ป ซึ่งการอัพเกรดนั้นก็จะไล่เปลี่ยนกันตั้งแต่การขยายปากทางเข้า เปลี่ยนใบเทอร์โบ แกนไอเสีย โข่งหลัง รวมไปถึงชุดกันรุนต่างๆ ที่เพิ่มความแข็งแรงคงทนเมื่อมีการใช้อัตราบูสต์หนัก โดยในเสต็ปเริ่มต้น เริ่มแรกหลักๆมักจะเริ่มจากการก็จะเป็นเปลี่ยนในส่วนของใบเทอร์โบ โดยใบเทอร์โบเดิมที่มากับเทอร์โบ IHI RHF4H นั้นจะเป็นใบพัดแบบหล่อ ซึ่งแม้ว่าของเดิมนั้นจะสามารถรองรับบูสต์ได้ถึง 16-17 ปอนด์ แต่เมื่อเรามีการเพิ่มบูสต์เข้าไปเพื่อต้องการแรงม้าที่มากขึ้น อุณหภูมิภายในเทอร์โบนั้นจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก จนอาจทำใบพัดนั้นเกิดอาการบิดเบี้ยว เสียรูป หรือร้ายแรงกว่านั้นถึงนั้นใบเทอร์โบเกิดอาการแตกหัก ดังนั้นการหันไปใช้ใบพัด Billet Wheel ที่ผลิตขึ้นจาก Aluminum Alloy ที่ทนความร้อนได้สูงกว่า ซึ่งการใช้ใบ Billet นั้นก็จะมีตั้งแต่การเปลี่ยนไปใช้ใบ Billet จากเทอร์โบ TD04 แบบยกชุด ไปจนถึงการเปลี่ยนใบ Billet แบบ Custom เองตามสูตรแต่ละสำนัก ไม่ว่าจะเป็น 6 ใบ, 9 ใบ, 11 ใบ, ใบเดียว หรือ ใบคู่ ซึงตรงนี้ก็ต้องขึ้นอยู่ที่การโมดิฟายของเครื่องยนต์แต่ละตัวและการไล่รถตามสูตรของแต่ละสำนักด้วยว่าจะใช้กันในสูตรไหน
ถัดมาขยายปากทางเข้าเทอร์โบ ซึ่งเทอร์โบเดิมๆรถติดมาจากโรงงานนั้นจะมีปากทางเข้าของเทอร์โบหน้ากว้างเพียง 41.5 มม. เท่านั้น ดังนั้นการขยายปากทางเข้าเพิ่มเป็น 44 มม. หรือ 46 มม. ก็จะช่วยเปิดทางลมให้สามารถเข้าเทอร์โบได้มากยิ่งขึ้น และเมื่อสามารถรับลมได้มากขึ้น ก็สามารถทำให้เทอร์โบนั้นปั่นแรงม้าออกมาได้มากกว่าเดิม ตามหลักการปกติทั่วไป ทั้งนี้ทั้งนั้น การขยายทางเข้าปากเทอร์โบก็ต้องมีการเลือกใช้ให้เข้ากับชุดใบเทอร์โบ เพื่อรีดประสิทธิภาพออกมาได้มากที่สุดนั่นเอง
ส่วนสุดท้ายที่ต้องให้ความสำคัญก็คือการไล่โข่งหลังเทอร์โบให้มีความสัมพันธ์และพอดีกับเสต็ปของรถและการโมดิฟายเทอร์โบแต่ละลูกที่ทำไป ซึ่งถ้าหากว่ารถคันไหนเลือกใช้โข่งหลังที่มีขนาดเล็กแล้วเกิดปัญหา ความเร็วปลายไม่เดิน ก็ต้องทำการเปลี่ยนโข่งหลังให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่สามารถฟันธงและชี้ชัดเจาะจงไปเลยว่า ควรจะใช้แบบไหนดีกว่ากัน
โดยที่กล่าวมาข้างต้นนั้นเป็นเพียงเสต็ปการโมดิฟายเทอร์โบ 3,000 กันแบบคร่าวๆในฉบับเริ่มต้นของรถบ้านใช้งาน หรือรถหลังถนนที่ต้องการเพิ่มสมรรถนะเท่านั้น ซึ่งในส่วนของรถแข่งที่ได้เกริ่นไปข้างต้นว่ามีการสร้างสถิติที่สามารถวิ่งได้ในพิกัด 9 วินาที ยังมีองค์ประกอบอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นตัวเครื่องยนต์ที่โมดิฟายแบบเต็มพิกัด บอดี้ตัวถังต่างๆที่ได้มีการลดน้ำหนักลงไป รวมไปถึงระบบช่วงล่างต่างๆ ที่ต่างก็ต้องใช้เวลาเซ็ทอัพตัวรถกันแรมเดือน แรมปี กว่าจะลงตัวเข้าที่ ทั้งนี้ถ้าหากอยากร่วมพิสูจน์ความเร็วของรถแข่งที่ใช้เทอร์โบ 3,000 ในรุ่นการแข่งขัน All-New Isuzu Turbo 46 mm. แล้วละก็ สามารถไปร่วมชม ร่วมลุ้นแบบติดขอบสนามในรายการ Isuzu Race Spirit 2019 ที่จัดแข่งขันถึง 5 สนาม ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 1,200,000 บาท งานนี้สิบปากว่าก็ไม่เท่าเห็นด้วยตาตนเองแน่นอนครับ
