ถ้าพูดถึงเครื่องยนต์ยอดนิยมกับสำหรับคอ Isuzu ที่นิยมนำมาโมดิฟายกันในยุคนี้ รหัสเครื่องยนต์ 4J Series ก็คงจะเป็นเครื่องยนต์ที่ผุดมาในใจหลายๆคนเลยใช่ไหมครับ ซึ่งสำหรับในรหัสของ 4J Series ก็จะสามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ ซึ่งนั่นก็คือ 4JK ที่เป็นเครื่องยนต์ขนาด 2,500 cc. (ปัจจุบันไม่มีผลิตแล้ว) และ 4JJ ที่เป็นเครื่องยนต์ในพิกัด 3,000 cc. โดยในวันนี้ทาง BoxzaRacing จะมาเจาะลึกเครื่องยนต์ในรหัสของ 4JJ กันว่าทำไมอู่โมดิฟายเครื่องยนต์ดีเซลถึงเลือกเครื่องยนต์ตัวนี้มาทำการโมดิฟาย จนสามารถวิ่งควอเตอร์ไมล์กันที่ระดับ 7 วินาทีต้นๆกันเลยทีเดียว
4JJ1-TCX 3.0 L VGS Turbo
ก่อนที่เราจะไปดูกันในเรื่องของการโมดิฟายเครื่องยนต์ 4JJ เราก็ต้องมาดูในเรื่องพื้นฐานของเครื่องยนต์ตัวนี้กันก่อนดีกว่าครับ สำหรับเครื่องยนต์ 4JJ นั้นเป็นเครื่องยนต์ขนาดความจุ 3,000 cc. มาตั้งแต่กำเนิด โดยจะว่ากันตามตรงแล้ว เจ้าเครื่องตัวนี้จะอยู่ในบอดี้ของ Isuzu ตัวยกสูงซะเป็นส่วนมาก ทำให้มีราคาค่อนข้างที่จะแพง ซึ่งในสมัยที่ทาง Isuzu ยังมีเครื่องยนต์ 4JK ขนาด 2,500 cc.ที่ประจำการอยู่ใน Isuzu ตัวเตี้ย ขาซิ่งทั้งหลาย ก็มักจะนำเครื่องยนต์ 4JK มาเปลี่ยนข้อใหม่ ขยายเป็น 3,000 cc. เพื่อให้มีcc. ที่เท่ากันในงบที่ถูกกว่า ก่อนที่ภายหลังทาง Isuzu จะออกเครื่องยนต์ในรหัส 1.9 BLUE POWER ออกมาทดแทนเครื่องยนต์ 4JK ทำให้ในตอนนี้ ใครที่อยากจะโมดิฟายเครื่องยนต์ในพิกัด 3,000 cc. ก็ต้องหันไปคบกับเจ้า 4JJ แทน และทำให้กระแสการนำเครื่องยนต์ตัวนี้ที่เป็นเครื่องยนต์ 3,000 มาตั้งแต่กำเนิดมาโมดิฟายเริ่มแพร่หลายเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆนั่นเอง
เครื่องยนต์ 4JJ ที่ได้รับการโมดิฟายมาอย่างเต็มพิกัด
สำหรับอีกเหตุผลหนึ่งที่อู่ชั้นนำเลือกเครื่องยนต์ 4JJ มาโมดิฟายก็เพราะว่า พื้นฐานเครื่องยนต์ตัวนี้ถูกออกแบบมาอย่างเรียบง่าย ไม่มีอะไรซับซ้อนมาก ทำให้ “ง่ายต่อการโมดิฟาย” ไม่ว่าจะเป็นตัวเครื่องยนต์ที่มีพืนฐานใกล้เคียงกับเครื่องยนต์รุ่นก่อนๆหน้า ทำให้ช่างที่เคยโมดิฟายเครื่องยนต์ในรหัสก่อนหน้านี้สามารถโมดิฟายเครื่องยนต์ 4JJ ได้ไม่ยากเย็นนัก อีกทั้งยังมีเหล่าบรรดาของแต่งที่ผลิตออกมารองรับ จนทำให้จากเดิมเครื่องยนต์ที่มีเพียง 177 แรงม้า สามารถพุ่งทะลุไปแตะที่ระดับ 1,000 แรงม้าเลยทีเดียว
ชุดขยายความจุ ของแต่งตรงรุ่นเครื่องยนต์ 4JJ
แน่นอนครับว่าการที่จะโมดิฟายเครื่องยนต์ 4JJ ไม่ว่าจะให้วิ่งในระดับ 7 วินาทีต้นๆ(ที่คาดว่ากำลังจะลง 6 วินาทีในไม่ช้า) หรือโมดิฟายตามสูตรหลังถนน 400-500 ม้า พื้นฐานตัวเครื่องยนต์จะต้องสามารถรองรับการโมดิฟายความแรง โดยของแต่งเครื่องยนต์สำหรับเครื่องยนต์ 4JJ ก็เรียกได้ว่ามีให้ได้เลือกใช้กันหลายแบบ หลายสเต็ป ไม่ว่าจะเป็นลูกสูบ ก้านสูบ แคมชาร์พ รวมไปถึงข้อเหวี่ยงที่มีให้เลือกกันตั้งแต่ความจุ 3,000 cc. ตามเดิม แต่ได้ความแข็งแรงคงทนมากขึ้น ไปจนถึงการขยายความจุไปถึงขนาด 3,200 cc. เพื่อการแข่งขันโดยเฉพาะ
ปั๊มน้ำมันดีเซลและหัวฉีดซิ่ง สเต็ปการโมดิฟายขั้นพื้นฐานที่ช่างดีเซลทุกคนต้องทำ
เมื่อเครื่องยนต์พร้อมและรองรับการโมดิฟายกับแรงม้าที่เพิ่มมากขึ้นได้แล้ว ระบบน้ำมันก็ต้องมีการโมดิฟายตามไปด้วย ซึ่งปั๊มน้ำมันดีเซลของทาง 4JJ ก็เป็นอะไรที่ช่างไทยนั้นคุ้นเคยเป็นอย่างดี จนกลายเป็นพื้นฐานในการโมดิฟายเครื่องยนต์ดีเซลเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้หัวฉีดและรางหัวฉีดก็สามารถอัพเกรดใหม่ได้อย่างไม่ยากเย็น เพื่อให้สามารถฉีดน้ำมันได้เพียงพอต่อความต้องการของเครื่องยนต์ที่ได้มีการโมดิฟายมา
กล่อง ECU เดิมของเครื่องยนต์ 4J Series ที่สามารถ Remap ใหม่ได้เลย
กล่อง ECU แต่ง ที่สามารถใส่แทนที่หรือพ่วงกล่อง ECU เดิม ได้อย่างไม่มีปัญหา
มาถึงหัวใจหลักที่คอยควบคุมเครื่องยนต์หรือ กล่อง ECU กันบ้าง ซึ่งสำหรับกล่อง ECU ของเครื่องยนต์ 4JJ ที่แตกต่างจากเครื่องยนต์ตัวอื่นก็คือ สามารถทำได้ตั้งแต่การ Remap กล่องเดิม การใส่กล่องพ่วงต่างๆ ยาวไปจนถึงการใช้กล่องแต่ง Standalone ใบเดียว ซึ่งตรงนี้ถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างมาก เพราะว่าการโมดิฟายที่หลากหลายเช่นนี้ ถือเป็นอีกทางเลือกของเหล่าขาแรงทั้งหลาย ที่สามารถโมดิฟายกล่อง ECU ได้ตามงบตามความต้องการของตัวเอง
ซึ่งทั้ง 3 ข้อที่กล่าวมาก็คือ หนึ่งในหลายเหตุผลที่อู่โมดิฟายเครื่องยนต์ดีเซลชื่อดังของเมืองไทย เลือกเครื่องยนต์ 4JJ มาโมดิฟายทั้งรถแบบ Steet Use ไปจนถึงรถแข่ง Dragster พิกัดเลขตัวเดียว แต่การที่จะโมดิฟายเครื่องยนต์ออกมาสักหนึ่งตัว ให้วิ่งระดับ 7 วินาทีนั้น มันก็ต้องมีองค์ประกอบหลายๆอย่างรวมเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้เทอร์โบ การเซ็ทอัพช่วงล่าง ระบบส่งกำลัง บอดี้ตัวรถต่างๆ ซึ่งตรงนี้ถ้าหากจะให้พูดกันจริงๆแล้วละก็ น่าจะใช้เวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์เลยก็ว่าได้ แต่สิ่งที่เป็นพื้นฐานของการโมดิฟายรถแข่งทุกคันให้ประสบความสำเร็จก็คือ “เครื่องยนต์” และนี่ก็เป็นการการันตีได้ว่า เครื่องยนต์ 4JJ ของทาง Isuzu นั้นผ่านการทดสอบในข้อนี้อย่างไม่มีข้อสงสัย
สุดท้ายนี้ถ้าหากใครอยากสัมผัสความแรงของเครื่องยนต์ 4JJ จากอู่โมดิฟายชื่อดังระดับประเทศแล้วละก็ สามารถไปชมความมันส์แบบติดขอบสนามกันได้ ในรายการ Isuzu Race Spirit 2018 สนามสุดท้าย ชิงเงินรางวัลรวมในรายการกว่า 1,200,000 บาท ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2561 ณ สนาม Bangkok Drag Avenue คลอง 5 รับรองว่างานนี้ มันส์ครบตั้งแต่รุ่นเล็กยันรุ่นใหญ่อย่าง Dragster แน่นอนครับ