เครื่องยนต์เบนซินได้รับความนิยมในหมู่รถเก๋ง ซึ่งมีจุดเด่นที่ความเงียบ กำลังแรงม้าทำได้มาก แต่สู้ความทนทานไม่ได้เท่าเครื่องยนต์ดีเซล โดยการใช้งานทะลุ 100,000 กิโลเมตรขึ้นไป นับว่าเริ่มมีการสึกหรอของหลายชิ้นส่วนแล้ว เรียกว่าเข้าสู่กลางอายุขัยของรถยนต์ก็ว่าได้ ความลื่นและฟิตปั๋ง ก็อาจจะลดลงไป จะมีอะไรที่ช่วยเสกรถเบนซินเกิน 95,000 กิโลเมตรอย่างนี้ได้บ้าง มาทดลองกัน
รถที่อาสามาทดลองให้เราชมครั้งนี้ ทีมงานเลือกรถบ้านๆใช้งานแทบทุกวัน เป็นรถเก๋งเบนซินยี่ห้อ Mazda 2 อายุกว่า 6 ปี ที่ใช้งานมากว่า 130,000 กม. นำมาเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องใหม่พอดี ซึ่งเป็นโอกาสดีที่ได้ลองใช้ Valvoline Maxlife 10W-40 ซึ่งหลายคนคงคิดว่ารถที่เปลี่ยนน้ำมันเครื่องใหม่ ก็ย่อมดีกว่าของเดิม แต่น้ำมันเครื่องตัวนี้พิเศษกว่านั้น
Valvoline Maxlife 10W-40 เป็นน้ำมันเครื่องเกรดกึ่งสังเคราะห์ สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน ที่มีคุณสมบัติไม่ต่างจากน้ำมันเครื่องเกรดสังเคราะห์ ตรงที่มีสารเพิ่มคุณภาพ ที่มีคุณสมบัติพิเศษในการปรับสภาพซีลยางให้กลับมาเหมือนใหม่ ลดการรั่วซึม และลดการกินน้ำมันเครื่อง ยังช่วยลดแรงเสียดทานที่ช่วยให้เครื่องยนต์มีกำลังเร่งที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถทนความร้อนสูงและลดการเกิดคราบสกปรก โดยที่น้ำมันเครื่องไม่กลายเป็นคราบยางเหนียว เมื่อเจอความร้อนสูงจัดในเครื่องยนต์
ผลจากการเปลี่ยนถ่าย นอกจากความลื่นที่ได้รับ จากคุณสมบัติน้ำมันเครื่องใหม่สดแล้ว ยังได้รับความฟิตและเฟิร์มในระยะยาว โดยเราได้ติดตามผลการใช้งานต่อเนื่องไปอีกด้วยหลังจากที่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องไป แล้วใช้งานไปอีกกว่าหมื่นกิโลเมตร เราได้กลับไปสัมภาษณ์เจ้าของรถดังกล่าวอีกครั้ง พบว่าหลังจากที่เปลี่ยนมาใช้น้ำมันเครื่อง Valvoline Maxlife ก็พบว่าการหล่อลื่นยังปกติ เหมือนใหม่เมื่อวันแรกที่เปลี่ยนถ่าย แสดงถึงความทนทานของน้ำมันเครื่อง ที่ยังสามารถทำหน้าที่ของมันได้อย่างดี เสื่อมสภาพช้าลง ไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายบ่อย จ่ายทีเดียวจบ ครบทั้งความคุ้มค่าและคุ้มครองกันยาวๆ
Valvoline Maxlife 10W-40 น้ำมันเครื่องที่เหมาะสำหรับรถเบนซินที่ใช้งานกว่า 95,000 กิโลเมตรที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ และมีน้ำมันเครื่องสำหรับดีเซลเช่นกันกับ Valvoline Maxlife Diesel Fully Synthetic 10W-40 ซึ่งรองรับทั้งดีเซลปั๊มสายและดีเซลคอมมอนเรล ท่านสนใจ อยากคุ้มครองเครื่องยนต์อย่างแท้จริง สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ Valvoline หรือในโซเชียล facebook.com/valvolinethai และพบกับน้ำมันเครื่องคุณภาพนี้ได้ตามอู่ และร้านประดับยนต์ชั้นนำทั่วประเทศ
