เขียนโดย: Mr Argus

เมื่อ: 15 กันยายน 2560 - 15:04

คัมภีร์น้ำมันเกียร์อัตโนมัติ Valvoline แต่ละประเภทจะเลือกอย่างไรให้หล่อลื่นดี

 

          ภาระของเกียร์อัตโนมัติต้องรองรับการใช้งานหลายด้าน ทั้งการที่ใช้งานในเมืองที่ต้องวิ่งๆหยุดๆ ไปตลอดทาง ทั้งยังต้องรับแรงจากเครื่องยนต์สมัยใหม่ ที่มีพละกำลังและแรงบิดมหาศาล ถ้าผู้ขับรถใช้เกียร์อัตโนมัติไม่เป็น หรือไม่รู้จักทะนุถนอม ก็อาจจะต้องเสียเงินก้อนโต ดังนั้นน้ำมันเกียร์จึงมีความสำคัญกับเกียร์อัตโนมัติ พอๆกับการใช้งานที่ถูกต้อง เพื่อการยืดอายุเกียร์ให้ยาวนาน

          การใช้งานเกียร์อัตโนมัติอย่างถูกวิธี เช่น เหยียบเบรกจนรถหยุดนิ่งเสียก่อนค่อยคันเกียร์ดันจาก D ไป R เมื่อต้องการขับถอยหลัง หลีกเลี่ยงการลดความเร็วด้วยการเชนเกียร์ลงต่ำในรอบสูงๆ เพราะจะทำให้รอบเกียร์สูงเกินขีดจำกัดการทำงาน และก่อให้เกิดความเสียหาย ไม่ควรลากรอบเครื่องยนต์สูง 6000-7000 รอบเป็นประจำ ทำบ่อยๆ ชุดคลัตช์ของเกียร์เสียหายได้ และไม่ควรกดคิกดาวน์เปลี่ยนเกียร์ลดต่ำและเบรครุนแรงต่อเนื่อง นอกจากเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหต ยังส่งผลให้คลัตช์ของเกียร์ทำงานหนัก น้ำมันเกียร์ร้อนจัด จนเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ

 

 

          การตรวจระดับน้ำมันเกียร์ก็ถือเป็นสิ่งจำเป็น การตรวจจะต้องตรวจในขณะที่เครื่องยนต์ทำงานอยู่ โดยสตาร์ตเครื่องยนต์ทิ้งไว้ประมาณ 1-2 นาที ปลดคันเกียร์ให้อยู่ในตำแหน่ง P และดึงเบรกมือให้รถจอดนิ่ง ทำความสะอาดบริเวณก้านวัด พร้อมดึงก้านวัดขึ้นมาเช็ดทำความสะอาด ระดับก้านวัดจะมี 2 หรือ 4 ขีด คือ ขีดล่าง แสดงระดับขณะเครื่องเย็น (C) และ ขีดบน ขณะเครื่องร้อนหรือเครื่องยนต์ทำงาน (H) ระดับน้ำมันเกียร์ที่พอเหมาะจะต้องอยู่ในระดับไม่ต่ำกว่าขีดล่างของเครื่องร้อนหรือไม่ต่ำกว่าขีดที่ 3 นับจากล่างขึ้นบน

 

 

          การเปลี่ยนน้ำมันเกียร์อัตโนมัติ สำหรับรถที่ใช้งานอยู่ในกรุงเทพฯ ประจำ น่าจะอยู่ที่ราวๆ 20,000 กิโลเมตรหรือประมาณปีละครั้ง เพราะสภาพอากาศที่ร้อนจัดเกือบทั้งปี และต้องเจอกับสภาพจราจรที่ติดขัด ออกตัวไปได้หน่อยก็ต้องเบรค ความร้อนสะสม เมื่อมีฝนตก น้ำก็ท่วมขัง ทำให้ความชื้นแทรกตัวเข้าไปในระบบเกียร์ ส่งผลกระทบกับคุณภาพน้ำมันและชิ้นส่วนภายใน ทำให้ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ เร็วกว่าปกติ ต่างกับรถที่ใช้งานตามต่างจังหวัด ก็จะมีระยะเวลาการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์นานออกไป อยู่ที่ประมาณ 30,000-40,000 กิโลเมตร หรืออย่างช้า 2 ปี

          ในการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ตามปกติ แต่ละครั้งประมาณ 3 ถึง 4 ลิตร เป็นเพียงการทำให้น้ำมันเกียร์เดิมเจือจางลง เท่านั้น เพราะน้ำมันเกียร์ใหม่ที่เปลี่ยนถ่าย เข้าไปแทนที่น้ำมันเกียร์เดิมได้เพียง 30 ถึง 40 เปอร์เซนต์โดยประมาณ น้ำมันเกียร์ส่วนที่เหลือยังคงตกค้างอยู่ตามชิ้นส่วนภายใน ทั้งที่ทอร์คคอนเวอร์เตอร์ และระบบเกียร์ภายใน ดังนั้นการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ปีละครั้ง ก็จะช่วยให้ชุดเกียร์สะอาด

 

 

          การจะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์เดิมออกมาจนหมด คงต้องใช้เครื่องมือที่เรียกว่า Automatic Transmission Fluid Flushing เป็นการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ได้มากที่สุด โดยที่ไม่เปิดเกียร์ เป็นการใข้น้ำมันใหม่ไล่น้ำมันเก่าออกจากระบบ ซึ่งต้องใช้น้ำมันเกียร์มากถึง 10 ลิตร ในการเปลี่ยนถ่าย การเปลี่ยนถ่ายแบบนี้ ส่วนใหญ่จะทำ 3-4 ปี/ครั้ง หรือประมาณ 70,000-80,000 กิโลเมตร

          น้ำมันเกียร์อัตโนมัติ ทำหน้าที่ถ่ายกำลังจากปั๊มไปยังกังหันในทอร์คคอนเวอร์เตอร์ ถ่ายเทความร้อน หล่อลื่นแบริ่ง คลัตช์ เฟือง บุช และอุปกรณ์ส่วนอื่นๆ ภายในกระปุกเกียร์ แต่ไม่ทำปฏิกิริยาหรือกัดกร่อนวัสดุในกระปุกเกียร์ เช่น โลหะ ยาง พลาสติกหรือวัสดุอื่นๆ และทนต่อความร้อนได้สูง ป้องกันการเกิดสนิม ป้องกันความชื้น อันเป็นสาเหตุทำให้เกิดฟองตามมา ไม่หนืดมาก ใสที่อุณหภูมิต่ำ ไหลผ่านวาล์วหรือช่องว่างต่างๆ ได้ง่าย

 

 

          การเลือกน้ำมันเกียร์อัตโนมัติอย่างไร ก็ไม่ต้องปวดหัวอีกต่อไป เพราะ Valvoline คัดสรรมาให้เลือกใช้ตามแต่ละเกรด เหมาะสำหรับเกียร์อัตโนมัติประเภททอร์คคอนเวิร์ตเตอร์ ซึ่งดังนี้

 

ATF DEX/MERC

          น้ำมันเกียร์อัตโนมัติสูตรพรีเมี่ยมที่ใช้สารเติมแต่งเทคโนโลยีขั้นสูง ไหลได้ง่ายที่อุณหภูมิต่ำ  ปกป้องชิ้นส่วนภายในของเกียร์ตั้งแต่ สตาร์ท มีสารชะล้าง เหมาะสำหรับเกียร์อัตโนมัติของรถในกลุ่มเจนเนอรัลมอเตอร์ส (รุ่นก่อนปี 2006) และฟอร์ด (รุ่นหลังปี 1981 ถึงปี 2007) ภายใต้มาตรฐาน MERCON® DEXRON®-III , Ford M2C138-CJ , Ford M2C166-H , Allison C-4 , Caterpillar TO-2 และ Allison TES-389

ATF +4

          น้ำมันเกียร์อัตโนมัติสูตรสังเคราะห์ 100 % ทนความร้อนสูง มีอายุการใช้งานยาวนาน ความหนืดคงตัว คลัทช์จับดี ไม่มีสะดุด ช่วยยืดอายุการใช้งาน สำหรับรถในกลุ่มไครสเลอร์ ที่ผลิตตั้งแต่ปี 1998 ตามมาตรฐาน MS-9602 ภายใต้มาตรฐาน Mopar ATF+ MS 7176®,  Mopar ATF+2® , MS 7176 Mopar ATF+3™ และ Mopar ATF+4™

MAX LIFE ATF

          น้ำมันเกียร์อัตโนมัติสูตรสังเคราะห์ 100 % มีส่วนผสมของน้ำมันพื้นฐานที่เหนือกว่าและแพคเกจเติมแต่งที่ไม่ซ้ำกันที่จะช่วยยืดอายุของเกียร์ได้มากกว่า 75,000 ไมล์ พัฒนาขึ้นใหม่ ใช้ได้ทั้งเกียร์อัตโนมัติ แบบ STEP (PLANETARY GEAR SET AT) เหมาะสำหรับเกียร์อัตโนมัติที่มีระบบล็อกของทอร์คคอนเวอร์เตอร์เพื่อป้องกันการลื่นของคลัตช์ เป็นน้ำมันเกียร์ที่เพิ่มประสิทธิภาพทางความฝืดสูง มีสารป้องกันการสึกหรอ ผสมสารฟื้นฟูสภาพซีลสูตรพิเศษ สารลดแรงเสียดทานประเภทลองไลฟ์ และสารคงสภาพความหนืด ทนต่อแรงเฉือน รองรับมาตรฐานใหม่ของผู้ผลิตรถยนต์เกือบทุกแบนด์ ทั้งเอเชีย ยุโรป และอเมริกัน เช่น Ford MERCON®, MERCON®V, MERCON®SP and MERCON®LV applications - GM DEXRON®-II, DEXRON®-III and DEXRON®-VI applications - Nissan/Infiniti Matic D, Matic J, Matic K, and Matic S applications - Mitsubishi Diamond SP-II and SP-III applications - Hyundai/ KIA SP-II, SP-III, SP-IV and SPH-IV applications - Subaru ATF and ATF-HP applications - Toyota/Lexus Type T, T-III, T-IV and WS - Honda/Acura ATF-Z1 (except in CVTs) applications - Allison C4 and TES-389 applications - Mercedes Benz NAG1 applications - Volvo passenger car applications and STD 1273.41 -Volkswagen TL52162

 

          นอกจากเกียร์อัตโนมัติแบบฟันเฟืองทอร์คคอนเวอร์เตอร์ที่เราคุ้นเคย ก็ยังมีเกียร์อัตโนมัติแบบแปรผัน หรือ CVT : CONTINUOUSLY VARIABLE TRANSMISSION เกียร์อัตโนมัติแบบแปรผัน ที่กำลังแพร่หลายเป็นระบบส่งกำลังที่ออกแบบมาให้เปลี่ยนถ่ายอัตราทดได้อย่างนิ่มนวลกว่าระบบเกียร์แบบอื่นๆ ด้วยการหมุนของพูเลย์สายพาน จึงสมควรที่จะต้องขับกันแบบค่อยเป็นค่อยไปทะนุถนอมสักนิด การขับกระชากลากถูแนวรถซิ่งสไตล์สปอร์ต ไม่เป็นผลดีต่ออายุการใช้งานของเกียร์อัตโนมัติแบบแปรผัน เนื่องจากเกียร์อัตโนมัติแบบแปรผัน ส่งกำลังผ่านพูเลย์ด้วยชุดสายพาน หากชอบออกตัวแรงๆ จะทำให้ชุดสายพานเสื่อมสภาพเร็ว

          เกียร์อัตโนมัติแบบแปรผัน ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ทุกๆ 17,000-20,000 กิโลเมตร เนื่องจากระบบการทำงานชิ้นส่วนที่แตกต่างไปจากเกียร์อัตโนมัติแบบฟันเฟืองทอร์คคอนเวอร์เตอร์

Vavoline CVT

          น้ำมันเกียร์อัตโนมัติ CVT สังเคราะห์ 100 % ใช้ได้ทั้งแบบขับเคลื่อนด้วยสายพาน (BELT DRIVEN CVT) และแบบขับเคลื่อนด้วยโซ่ (CHAIN DRIVEN CVT) ทั้งรถ เอเชีย ยุโรป และอเมริกัน ตั้งแต่ เครื่องยนต์เล็ก 500 ซีซี กำลังน้อย ไปถึงเครื่องยนต์ใหญ่มากกว่า 3000 ซีซี เป็นต้นว่า BMW Mini Cooper EZL 799 - Dodge/Jeep NS-2, CVTF+4 - Ford CVT23, CVT30/Motorcraft XT-7-QCFT, Mercon C - GM/ Saturn DEX-CVT - Honda HMMF, HCF-2 - Hyundai/ Kia CVT applications (SP-CVT 1) - Mazda CVTF 3320 - Mercedes Benz 236.20 - Mitsubushi CVTF-J1, CVTF-J4 - Nissan NS-2, NS-3 -Shell Green 1V - Subaru Lineartronic CVTF (P/N K0425Y0710), CV-30, High Torque CVTF, e-CVTF - Suzuki TC, NS-2, CVTF 3320, CVT Green 1, CVT Green 2 -Toyota TC, FE - Volkswagen/Audi TL 52180; G 052 180, G 052 516

 

 

          เกียร์อัตโนมัติอีกตัวที่ได้รับความนิยมมากขึ้น คือ เกียร์อัตโนมัติแบบคลัตช์คู่ หรือ DCT :DUAL CLUTCH TRANSMISSION ที่มีกลไกคลัตช์ทำงานสลับเกียร์ได้อย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับการขับสไตล์สปอร์ต ซึ่งก็ต้องได้รับการดูแลอย่างดีให้สมกับสมรรถนะที่ได้ ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ Valvoline ที่เหมาะสมดังนี้

Valvoline DCT

          น้ำมันเกียร์อัตโนมัติ DCT สังเคราะห์ 100 % สำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ที่ใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ DCT ทั้งญี่ปุ่น ยุโรป และอเมริกัน ไม่ว่าจะเป็นรถสปอร์ตแรง หรือรถครอบครัว มีดังนี้ Audi/Volkswagen VW TL 052182, VW TL 052 529 - BMW (Getrag) 83 22 2 148 578, 83 22 2 148 579, 83 22 0 440 214, 83 22 2 147 477- Mercedes-Benz MB 236.21 (001 989 85 03) - Porsche Oil No.999.917.080.00 - FORD M2C936A - Peugeot/Citroen 9734.S2

 

 

           นอกจากวิธีการใช้เกียร์อย่างถูกต้องแล้ว การดูแลรักษาก็เป็นหัวใจสำคัญ หากเราเลือกน้ำมันเกียร์อัตโนมัติที่ตรงรุ่น ถูกสเปคตามที่ผลิตกำหนด ก็จะทำให้การขับขี่ของเราสนุกและสบายใจไปได้อีกหลายกิโลเมตร ให้ใช้รถสมกับกับความแรงที่เราอุตส่าห์แต่งมานั่นเอง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์น้ำมัน Valvoline ได้ทาง www.facebook.com/valvolinethai หรือ www.valvoline.co.th

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook