หลอดไฟหน้าสีไหนดี และค่า K คืออะไร เลือกให้ได้ทั้งความหล่อ และประสิทธิภาพการส่องสว่าง

          การขับรถในเวลากลางคืนนั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงยาก ยิ่งในช่วงฤดูหนาวที่มืดเร็วกว่าปกติ ทำให้แม้จะเป็นช่วง 18.00 น. ก็มืดแล้ว ฉะนั้นแสงจากไฟหน้ารถนั้น ก็เป็นสิ่งที่เรียกได้ว่าสำคัญไม่เป็นอันดับต้นๆ เลยทีเดียว เพราะทำให้เรามีทัศนวิสัยที่ดีขึ้นนั่นเองครับ ซึ่งปัจจุบันหลอดไฟหน้าของรถยนต์นั้น มีให้เลือกซื้อกันง่าย และหลากหลายยี่ห้อมาก โดยที่ความสว่างก็จะแตกต่างกันออกไป แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรล่ะ ว่าหลอดไหนสีอะไร และสว่างแค่ไหน วันนี้ทางทีมงานจะพาเพื่อนๆ มาไขข้อข้องใจกันครับ

          หากเพื่อนๆหยิบกล่องผลิตภัณฑ์ของหลอดไฟมาดู จะเจอกับสเปคตัวเลขหลักพัน เจ้าตัวเลขพวกนี้ นั่นคือ ค่า K หรือ Kevin คือ ค่าที่เอาไว้บอกถึง “อุณหภูมิของแสง” ไม่ใช่อุณหภูมิของหลอดนะครับ อย่าสับสน สำหรับค่า K นั้น ยิ่งตัวเลขยิ่งสูง ไม่ได้หมายถึง ความสว่างที่สูงขึ้นตามแม้แต่น้อยเลยครับ 

          ส่วนคำถามว่า ใส่หลอดค่า K สูงๆ โคมจะละลายไหม ? หรือ ใส่หลอดค่า K สูงๆ โคมผมจะเหลืองไหม ? คำตอบคือ ไม่เหลืองและไม่ละลายครับ เพราะว่าค่า K มันคือ อุณหภูมิของแสง ไม่ใช่อุณหภูมิของความร้อนหลอด ถ้าอยากรู้ว่าหลอดร้อนไหม อันนี้ต้องดูที่ค่า W หรือวัตต์ ของแต่ละหลอดครับ

          ทีนี้เมื่อรู้กันแล้วว่า ค่า K เอาไว้บอกเฉดของสี แล้วความสว่างล่ะจะดูอย่างไร ? สำหรับค่าความสว่างนั้นดูได้จากค่า L หรือค่า Lumen นั่นเองครับ โดยยิ่งค่า K สูงแล้วค่า Lumen ก็จะค่อยๆ ลดหลั่นลงไปเรื่อยๆ อีกด้วย ยกตัวอย่าง หลอดบางรุ่นที่มีค่า K อยู่ที่ 3,000K สีจะออกไปทางโทนเหลือง แต่จะได้ค่า Lumen สว่างถึง 4,200 Lumen ซึ่งหลอดที่สว่างขนาดนี้ แน่นอนครับว่าผิดกฏหมาย ฉะนั้นการเลือกเฉดสีให้เหมาะกับความสว่างด้วยนะครับ ซึ่งด้านล่างนี้เป็นการคำนวนคร่าวที่ทางทีมงานหาข้อมูลมาได้และใกล้เคียงความจริงมากที่สุด

• หลอด 4,300 K = 3,800 Lumen
• หลอด 5,000 K = 3,600 Lumen
• หลอด 6,000 K = 3,400 Lumen
• หลอด 8,000 K = 2,700 Lumen
• หลอด 10,000 K = 2,200 Lumen
• หลอด 12,000 K = 2,000 Lumen
• หลอด 15,000 K = 1,800 Lumen
• หลอด 17,000 K = 1,600 Lumen
• หลอด 20,000 K = 1,400 Lumen

          ส่วนเรื่องการเลือกเฉดสีของหลอดไฟ บางคนชอบที่จะใช้ไฟสีฟ้า ยอมรับครับว่ามันสวยจริง “เวลาเปิด” แต่พอใช้งานจริงแล้ว เชื่อเลยว่าคนที่ใช้อยู่ก็คงจะตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า มันไม่ได้ช่วยอะไรเลย เพราะตามหลักการหักเหของแสงแล้ว สีน้ำเงินหรือฟ้านั้น จะมีความสว่างที่ต่ำมากๆ แถมแสงสีน้ำเงินหรือฟ้าจะไม่สะท้อนกับวัตถุ ทำให้เพื่อนต้องใช้สายตาเพ่งมากกว่าปกติ แถมยิ่งตอนฝนตกๆ ด้วยบอกเลยว่า แทบไม่ต่างจากปิดไฟขับรถเลยครับ นอกจากไฟสีฟ้าจะเสี่ยงอุบัติเหตุแล้ว ยังเสี่ยงโดนพี่ตำรวจเรียกปรับด้วยครับ แล้วจะเลือกสีอะไรดีล่ะ ?

          การเลือกสีของไฟหน้าให้สามารถใช้งานได้ดีและมองเห็นได้ชัดนั้น แนะนำเป็นสีที่ออกโทนขาวหรือเหลืองจะดีที่สุด เพราะมันสะท้อนกับวัตถุได้ดีกว่า และสายตาของมนุษย์จะทำงานได้ดีในแสงที่ออกไปทางโทนร้อนๆ นั่นเองครับ ก็หวังว่าเพื่อนจะเลือกสีไฟและความสว่างได้ถูกต้องหลังจากอ่านคอลัมน์ความรู้เรื่องรถของเรานะครับ