เชื่อว่า ณ ชั่วโมงนี้ คงไม่มีภาพยนต์เรื่องใดจะดังไปกว่า ภาคต่อของกลุ่มรถซิ่งที่ รวมทีมปล้นมาตั้งแต่ Civic EG9 3 ลำ ไล่ปล้นรถบรรทุก มาจนถึงรวมพลเหล่า SuperCars วิ่งไล่เรือดำน้ำ...ถูกต้องแล้วครับ นั่นคือ ภาพยนตร์ The Fast and The Furious นั่นเอง หากเพื่อนที่ได้เข้าไปชมภาพยนตร์นั้น คงจะทึ่งไปกับฉากขับรถผาดโผนที่บางฉากนั้นเป็นอะไรที่ไม่น่าเชื่อ แต่ฉากหนึ่งที่ผมต้องร้อง เฮ้ย ! นั่นคือ ฉากแข่งรถที่คิวบา กับการที่ตัวเอกอย่าง พี่ดอม เอาฝาโค้กมาทำอะไรสักอย่างกับสายยางที่พี่ดอมเราเรียกว่า Vacuum Line เพื่อนๆ หลายๆ คน ก็คงดูผ่านๆ เพราะคิดว่ามันเป็นมายาการแสดงซึ่งของจริงมันไม่มีแบบนั้นแน่นอน รวมไปถึงฉากสุดระห่ำที่พี่ดอม ของเราถอยรถเข้าเส้นชัยหลายๆ คนก็คงร้องเฮ้ย ! มันทำได้ขนาดนั้นเลยเหรอ เอาล่ะครับ...วันนี้เราจะมาไขกันให้ฟังว่า ทั่งคู่นั้นมันคือ ของจริง สามารถทำได้ !
เริ่มที่อันแรกกับเคล็ดลับฝากระป๋องหน้าหงาย ซึ่งอันนี้จะเป็นการเล่นกับบูสต์ของเทอร์โบนั่นเองครับ ซึ่งเรื่องนี้ต้องให้เพื่อนๆ เข้าใจกับการทำงานของเทอร์โบกันก่อนว่า มันคือ อุปกรณ์อัดอากาศเข้าไปในห้องเผาไหม้ โดยการใช้กำลังของไอเสียจากเครื่องยนต์ เพื่อปั่นใบพัดของเทอร์โบให้มีการดูดอากาศเข้ามาภายในห้องเผาไหม้ ซึ่งจะเรียกอากาศเหล่านั้นว่าบูสต์ และเพื่อที่จะควมคุมบูสต์ให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานก็ต้องพึ่งสิ่งที่เรียกว่า Waste Gate เพื่อคายไอเสียส่วนเกินออกไปสู่ภายนอกนั่นเองครับ ยิ่งมีกำลังบูสต์มาก เครื่องยนต์ก็จะยิ่งแรงมากตามไปด้วย แต่หัวใจจริงๆ ของการดึงฝากกระป๋องก็คือ การตัดวงจรที่เรียกว่า Vacuum Line ระหว่าง ไอดี และ Waste Gate ซึ่งจะทำได้เฉพาะในรถรุ่นเก่าๆ เพราะปัจจุบันจะเป็นการคุมบูสต์โดยใช้ระบบไฟฟ้ากันเกือบหมดแล้ว แต่ทว่าสมัยก่อนนั้น จะควบคุมบูสต์ด้วย ไอดี โดยที่จะให้ Waste Gate ต่อท่อเข้ากับเทอร์โบฝั่งของ ไอดี เพื่อควบคุมระดับของบูสต์ให้เหมาะสม โดยการใช้แรงดันอากาศจากไอดีมากดตัวปริงภายใน Waste Gate เพื่อดันวาล์วให้เปิดเมื่อมีบูสต์ตามต้องการ เมื่อวาล์วเปิดไอเสียจะถูกคายทิ้งออกไปภายนอกทำให้การปั่นบูสต์ ไปไปอย่างราบรื่น แต่หากต้องการบูสต์มากขึ้น ก็เพียงเปลี่ยนสปริงภายใน Waste Gate ให้แข็ง เพื่อที่วาล์วจะเปิดยากขึ้น ทำให้ได้บูสต์มากขึ้นนั่นเองครับ
แต่สิ่งสิ่งที่ พี่ดอม ทำคือ ดึงฝากระป๋องที่เกี่ยวอยู่กับสายยางของเวสเกท เพื่อตัดวงจรควบคุมบูสต์ของไอดีออกไป ทำให้อากาศไม่เข้าไปดันวาล์วคายไอเสียของเวสเกท ส่งผลให้ไม่มีแรงกดเข้าไปที่ตัวของวาล์ว นั่นหมายความว่า ไอเสียสามารถเข้าไปปั่นใบเทอร์โบโดยตรง แบบไม่มีการคายออกแม้แต่น้อย ซึ่งตามคลิปให้สัมภาษณ์ของ Dennis McCarthy ผู้ที่รับผิดชอบสร้างรถของ Fast and Furious บอกไว้ว่าในขณะนั้น บูสต์อาจสูงมากถึง 30 Psi ซึ่งในรถบางคันใช้บูสต์มากสุดๆ เพียง 12 Psi เท่านั้น และแน่นอนครับผลลัพธ์ที่เห็นในหนัง คือ ไฟลุกท่วม หากเป็นของจริง เครื่องคงแหลกไปในชั่วพริบตาไปแล้ว
อันที่ 2 คือ การถอยหลังเข้าเส้นชัย หลายๆ คนก็คงเงิบ ว่ามันได้ขนาดนั้นเลยเหรอ เกียร์ถอยหลังมันจะปรูดปราดอะไรขนาดนั้น ต่อให้ใช้ไนตรัสช่วย มันก็คงเป็นไปไม่ได้แน่นอน ตอนแรกผมก็คิดแบบนั้น จนกระทั่งได้มาหาข้อมมูลเพื่อเกลาสมองตัวเอง จนมาเจอกับ Spec ของรถที่ดอมขับในหนัง นั่นคือ Chevrolet Fleetline และเคล็ดลับ คือ รถคันนี้ ไม่ได้ใช้เกียร์แบบรถทั่วไป เพราะมันใช้เกียร์ของรถ Tractor นั่นเองครับ นั่นหมายความว่า เกียร์ของรถจำพวกนี้ จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ชุด ทั้งเดินหน้า และถอยหลัง นั่นหมายถึง ไม่ได้มีเกียร์ถอยหลังเพียง Speed เดียว อย่างรถทั่วๆ ไป เช่น หากเกียร์เดินหน้ามี 1-2-3-4 เกียร์ถอยหลังก็มี 1-2-3-4 เช่นเดียวกันครับ
เอาละครับ...นี่ก็เป็นเพียงเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อย ที่หลายๆ คนไม่ทราบหรืออาจมองข้ามไป เราจึงรวมรวมเอาข้อมูล และเรียบเรียงให้เพื่อนเข้าใจได้ง่ายที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ สำหรับครั้งหน้าอย่าลืมติดตามความรู้ดีๆ จากทีมงาน BoxzaRacing กันนะครับ สำหรับวันนี้...สวัสดีครับ
