เขียนโดย: ART 4G

เมื่อ: 21 สิงหาคม 2557 - 15:40

ชุดแข่งรถ สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม สำหรับนักแข่งรถ

          สำหรับในคอลัมน์ Knowledge ในครั้งนี้ ทางทีมงาน Boxzaracing.com ของเรามาทำความรู้จักกับชุดแข่งรถ หรือ Racing Suit ที่ไม่ได้มีหน้าที่แค่บอกสังกัดทีม หรือใส่แล้วเท่อย่างเดียว ถ้าเพื่อนๆ อยากรู้ว่ามันมีประโยชน์อะไรบ้าง ไปดูกันเลยครับ

 

ตัวอย่างชุดแข่งรถที่ได้มาตรฐานตามหลักสากล

 

          สำหรับการแข่งขันรถยนต์ทุกรายการไม่ว่าจะเป็น Circuit, Drift, Drag แม้กระทั่ง Rally สิ่งที่ผู้จัดการแข่งขันคำนึงถึงเป็นอันดับแรก นั่นคือความปลอดภัย ทั้งตัวนักแข่งเอง, ทีมเซอร์วิส และผู้เข้าชมการแข่งรถ เพราะอุบัติเหตุไม่สามารถระบุเวลา หรือระบุตัวบุคคลได้ ฉะนั้นอะไรที่สามารถป้องกันอุบัติเหตุ หรือลดอาการบาดเจ็บได้ก็ควรป้องกันไว้ก่อน อย่างเช่นในรายการแข่งขันระดับโลกบังคับให้นักแข่งทุกคนใส่ชุดแข่งที่ผ่านมาตรฐาน FIA เท่านั้น และที่ทราบมากว่าชุดแข่ง 1 ชุดจะผ่านมาตรฐานของ FIA จะถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวด 

          คราวนี้เรามาดูกันที่วัตถุดิบที่ใช้ทำชุดแข่ง ชุดแข่งรถส่วนใหญ่นั้นเนื้อผ้าจะทำจากวัตถุดิบที่มีความสามารถในการทนไฟได้มีชื่อว่า Nomex ซึ่งวัตถุดิบชนิดนี้ถูกพัฒนา และคิดค้นในช่วง ค.ศ. 1960 โดยบริษัท Dupont เริ่มแรกผ้าชนิดนี้ถูกนำไปใช้ในวงดับเพลิงเช่นชุดกันไฟของเจ้าหน้าที่ เพราะมีอัตราเสี่ยงต่อการถูกไฟไหม้มากกว่างานประเภทอื่นๆจะเห็นได้ว่าชุดของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมีความหนาเป็นพิเศษ เพราะการผจญเข้าไปในเพลิงอาจจะต้องใช้เวลานานดังนั้นเนื้อผ้าหนาจะทำให้อัตราเสี่ยงที่จะถูกไฟไหม้ผิวหนังลดลง  หลังจากนั้นกีฬาความเร็วเริ่มมีอันตรายมากขึ้น จึงมีการนำผ้า Nomex เข้ามาใช้กับวงการมอเตอร์สปอร์ต ในการผลิตอุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกับชุดแข่ง เช่น หมวกกันน็อค, ถุงมือ, หน้ากากกันไฟ, รวมไปถึงรองเท้าแข่งรถ 

 

ถุงมือแข่งรถ ก็ต้องใช้เนื้อผ้าวัสดุเดียวกันเพื่อความปลอดภัย

 

          นอกเหนือจากการใช้วัสดุชั้นดีในการผลิตแล้วนั้น ยังต้องแบ่งอีกว่ามีเนื้อผ้ากี่ชั้น ซึ่งมาตรฐานสำหรับชุดแข่ง นั้นโดยทั่วไปแล้วทั่วโลกจะมี 2 มาตรฐาน คือ FIA (Federation Internationale de Automobile) และ SFI (Standards For Specialty/Performance Automotive And Racing Equipment) สำหรับชุดแข่งที่ใช้ในการแข่งแทบจะทุกรายการในประเทศไทย จะใช้มาตรฐานของ FIA ทั้งนั้นครับ 

          สำหรับชุดแข่งรถที่อยู่ในการควบคุมของ FIA นั้นก็คงยกตัวอย่างชุดแข่งของรายการ Formula1 เนื่องการแข่งรถสูตร1 หรือ F1 ต้องใช้ความเร็วสูงเมื่อเกิดอุบัติเหตุคนขับจะออกจากรถแข่งได้ยากหากมีเหตุไม่คาดฝันอย่างเช่น ไฟลุกไหม้รถทั้งคันผู้จัดการแข่งขันก็จะมีรถทีมพยาบาลคอย ให้ความช่วยเหลืออยู่รอบๆ สนามอยู่แล้วโดยมีการระบุว่าหากเกิดอุบัติเหตุจุดใดจุดหนึ่งในสนามทีมพยาบาลจะต้องถึงจุดเกิดเหตุภายใน 30 วินาที เพราะชุดแข่งของนักแข่งรถ F1 นั้น จะใช้ผ้า NOMEX วัตถุดิบที่ทนความร้อนได้ถึง 840 องศาเซลเซียส และกันความร้อนที่จะมาถึงผิวหนังได้ถึง 11 วินาทีเลยทีเดียว ส่วนชุดแข่งที่ผ่าน มาตราฐานของ SFI ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยของประเทศสหรัฐอเมริกา (USA) นั้นจะมีการปักสัญลักษณ์ SFI MANUFACTURER CERTIFIED 3-2A/1 อยู่ที่แขนด้านซ้าย สำหรับชุดแข่ง มาตรฐานของ SFI นั้น จะมีการแบ่งการให้คะแนนเป็น TPP (Thermal Protective Performance) คือ ค่าที่ระบุถึงความสามารถของชุดแข่งในการทนไฟได้นานเท่าไหร่ จะอธิบายกันแบบง่ายๆ เลยนะครับ หากค่า TPP น้อยเวลาที่ไฟจะไหม้ถึงผิวหนังจะหนังน้อยตามไปด้วย ตัวอย่างชุดแข่งชุดหนึ่งได้ค่า TPP อยู่ที่ระดับ 6 เวลาที่ไฟไหม้ถึงผิวหนังอยู่ที่ 3 วินาทีโดยประมาณ ส่วนชุดแข่งอีก 1 ชุดขยับค่า TPP ขึ้นเป็นระดับ 19 เวลาที่ไฟไหม้ถึงผิวหนังอยู่ที่ 10 วินาที ฉะนั้นค่า TPP มากเท่าไรยิ่งดีครับ ส่วนเรื่องของราคาก็สูงขึ้นเป็นเงาตามตัวเช่นกัน เมื่อพูดถึงชุดนอกที่กันไฟแล้วชุดซับใน และหน้ากากกันไฟ (โม่งที่ใส่ก่อนสวมหมวกกันน็อค) ก็ต้องทนไฟได้เช่นกัน สำหรับเนื้อผ้าชนิดเดียวกับที่ผลิตชุดแข่งแต่จะมีความบางน้อยกว่าครับเพราะเผื่อกรณีฉุกเฉิน ทีมพยาบาลมาถึงล่าช้าชุดซับในก็จะช่วยลดอาการบาดเจ็บอีกชั้นหนึ่ง 

 

ในการแข่งรถนั้นอุบัติเหตุย่อมเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ดังนั้นเรื่องชุดแข่งจึงต้องได้มาตรฐานที่ดี

 

          เรื่องของเทคโนโลยีความปลอดภัยมักจะพัฒนาไปพร้อมกับความเร็วที่มากขึ้น กีฬามอเตอร์สปอร์ต (Motorsport) ในปัจจุบันเริ่มเล็งเห็นแล้วว่านักขับบางคนอาจจะรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน จึงมีข้อกำหนดต่างๆ เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ และทั้งนั้นก็เพื่อความปลอดภัยของตัวนักแข่งและทีมเซอร์วิส หากเพื่อนๆคนไหนมีโอกาสได้ลงแข่งก็ควรเตรียมเรื่องชุดแข่ง และอุปกรณ์ความปลอดภัย ซึ่ง ณ ตอนนี้ก็ได้มีการผลิตชุดแข่งรถมากมายหลายยี่ห้อ อาทิเช่น OMP, Simpson, Sparco, Recaro และอื่นๆ อีกมากมาย ส่วนในครั้งหน้าทีมงาน Boxzaracing.com ของเรา จะนำความรู้เกี่ยวกับรถเรื่องใดมาฝาก คอยติดตามกันได้นะครับ

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook