สำหรับในคอลัมน์ Knowledge ในครั้งนี้ ทางทีมงาน Boxzaracing.com ของเรามาทำความรู้จักกับชุดแข่งรถ หรือ Racing Suit ที่ไม่ได้มีหน้าที่แค่บอกสังกัดทีม หรือใส่แล้วเท่อย่างเดียว ถ้าเพื่อนๆ อยากรู้ว่ามันมีประโยชน์อะไรบ้าง ไปดูกันเลยครับ
สำหรับการแข่งขันรถยนต์ทุกรายการไม่ว่าจะเป็น Circuit, Drift, Drag แม้กระทั่ง Rally สิ่งที่ผู้จัดการแข่งขันคำนึงถึงเป็นอันดับแรก นั่นคือความปลอดภัย ทั้งตัวนักแข่งเอง, ทีมเซอร์วิส และผู้เข้าชมการแข่งรถ เพราะอุบัติเหตุไม่สามารถระบุเวลา หรือระบุตัวบุคคลได้ ฉะนั้นอะไรที่สามารถป้องกันอุบัติเหตุ หรือลดอาการบาดเจ็บได้ก็ควรป้องกันไว้ก่อน อย่างเช่นในรายการแข่งขันระดับโลกบังคับให้นักแข่งทุกคนใส่ชุดแข่งที่ผ่านมาตรฐาน FIA เท่านั้น และที่ทราบมากว่าชุดแข่ง 1 ชุดจะผ่านมาตรฐานของ FIA จะถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวด
คราวนี้เรามาดูกันที่วัตถุดิบที่ใช้ทำชุดแข่ง ชุดแข่งรถส่วนใหญ่นั้นเนื้อผ้าจะทำจากวัตถุดิบที่มีความสามารถในการทนไฟได้มีชื่อว่า Nomex ซึ่งวัตถุดิบชนิดนี้ถูกพัฒนา และคิดค้นในช่วง ค.ศ. 1960 โดยบริษัท Dupont เริ่มแรกผ้าชนิดนี้ถูกนำไปใช้ในวงดับเพลิงเช่นชุดกันไฟของเจ้าหน้าที่ เพราะมีอัตราเสี่ยงต่อการถูกไฟไหม้มากกว่างานประเภทอื่นๆจะเห็นได้ว่าชุดของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมีความหนาเป็นพิเศษ เพราะการผจญเข้าไปในเพลิงอาจจะต้องใช้เวลานานดังนั้นเนื้อผ้าหนาจะทำให้อัตราเสี่ยงที่จะถูกไฟไหม้ผิวหนังลดลง หลังจากนั้นกีฬาความเร็วเริ่มมีอันตรายมากขึ้น จึงมีการนำผ้า Nomex เข้ามาใช้กับวงการมอเตอร์สปอร์ต ในการผลิตอุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกับชุดแข่ง เช่น หมวกกันน็อค, ถุงมือ, หน้ากากกันไฟ, รวมไปถึงรองเท้าแข่งรถ
นอกเหนือจากการใช้วัสดุชั้นดีในการผลิตแล้วนั้น ยังต้องแบ่งอีกว่ามีเนื้อผ้ากี่ชั้น ซึ่งมาตรฐานสำหรับชุดแข่ง นั้นโดยทั่วไปแล้วทั่วโลกจะมี 2 มาตรฐาน คือ FIA (Federation Internationale de Automobile) และ SFI (Standards For Specialty/Performance Automotive And Racing Equipment) สำหรับชุดแข่งที่ใช้ในการแข่งแทบจะทุกรายการในประเทศไทย จะใช้มาตรฐานของ FIA ทั้งนั้นครับ
สำหรับชุดแข่งรถที่อยู่ในการควบคุมของ FIA นั้นก็คงยกตัวอย่างชุดแข่งของรายการ Formula1 เนื่องการแข่งรถสูตร1 หรือ F1 ต้องใช้ความเร็วสูงเมื่อเกิดอุบัติเหตุคนขับจะออกจากรถแข่งได้ยากหากมีเหตุไม่คาดฝันอย่างเช่น ไฟลุกไหม้รถทั้งคันผู้จัดการแข่งขันก็จะมีรถทีมพยาบาลคอย ให้ความช่วยเหลืออยู่รอบๆ สนามอยู่แล้วโดยมีการระบุว่าหากเกิดอุบัติเหตุจุดใดจุดหนึ่งในสนามทีมพยาบาลจะต้องถึงจุดเกิดเหตุภายใน 30 วินาที เพราะชุดแข่งของนักแข่งรถ F1 นั้น จะใช้ผ้า NOMEX วัตถุดิบที่ทนความร้อนได้ถึง 840 องศาเซลเซียส และกันความร้อนที่จะมาถึงผิวหนังได้ถึง 11 วินาทีเลยทีเดียว ส่วนชุดแข่งที่ผ่าน มาตราฐานของ SFI ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยของประเทศสหรัฐอเมริกา (USA) นั้นจะมีการปักสัญลักษณ์ SFI MANUFACTURER CERTIFIED 3-2A/1 อยู่ที่แขนด้านซ้าย สำหรับชุดแข่ง มาตรฐานของ SFI นั้น จะมีการแบ่งการให้คะแนนเป็น TPP (Thermal Protective Performance) คือ ค่าที่ระบุถึงความสามารถของชุดแข่งในการทนไฟได้นานเท่าไหร่ จะอธิบายกันแบบง่ายๆ เลยนะครับ หากค่า TPP น้อยเวลาที่ไฟจะไหม้ถึงผิวหนังจะหนังน้อยตามไปด้วย ตัวอย่างชุดแข่งชุดหนึ่งได้ค่า TPP อยู่ที่ระดับ 6 เวลาที่ไฟไหม้ถึงผิวหนังอยู่ที่ 3 วินาทีโดยประมาณ ส่วนชุดแข่งอีก 1 ชุดขยับค่า TPP ขึ้นเป็นระดับ 19 เวลาที่ไฟไหม้ถึงผิวหนังอยู่ที่ 10 วินาที ฉะนั้นค่า TPP มากเท่าไรยิ่งดีครับ ส่วนเรื่องของราคาก็สูงขึ้นเป็นเงาตามตัวเช่นกัน เมื่อพูดถึงชุดนอกที่กันไฟแล้วชุดซับใน และหน้ากากกันไฟ (โม่งที่ใส่ก่อนสวมหมวกกันน็อค) ก็ต้องทนไฟได้เช่นกัน สำหรับเนื้อผ้าชนิดเดียวกับที่ผลิตชุดแข่งแต่จะมีความบางน้อยกว่าครับเพราะเผื่อกรณีฉุกเฉิน ทีมพยาบาลมาถึงล่าช้าชุดซับในก็จะช่วยลดอาการบาดเจ็บอีกชั้นหนึ่ง
เรื่องของเทคโนโลยีความปลอดภัยมักจะพัฒนาไปพร้อมกับความเร็วที่มากขึ้น กีฬามอเตอร์สปอร์ต (Motorsport) ในปัจจุบันเริ่มเล็งเห็นแล้วว่านักขับบางคนอาจจะรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน จึงมีข้อกำหนดต่างๆ เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ และทั้งนั้นก็เพื่อความปลอดภัยของตัวนักแข่งและทีมเซอร์วิส หากเพื่อนๆคนไหนมีโอกาสได้ลงแข่งก็ควรเตรียมเรื่องชุดแข่ง และอุปกรณ์ความปลอดภัย ซึ่ง ณ ตอนนี้ก็ได้มีการผลิตชุดแข่งรถมากมายหลายยี่ห้อ อาทิเช่น OMP, Simpson, Sparco, Recaro และอื่นๆ อีกมากมาย ส่วนในครั้งหน้าทีมงาน Boxzaracing.com ของเรา จะนำความรู้เกี่ยวกับรถเรื่องใดมาฝาก คอยติดตามกันได้นะครับ