เขียนโดย: ART 4G

เมื่อ: 15 กรกฏาคม 2557 - 18:32

Dual Clutch คือ

Nissan Skyline GTR R35 ก็ได้มีการหยิบเอาระบบ Dual Clutch มาใช้เช่นกัน

 

          จะว่าไปแล้วเทคโนโลยีของรถในเมืองไทย ก้าวไปไวขึ้นทุกวัน รถทั้งคันถูกควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์เกือบจะทั้งหมด สังเกตุง่ายๆ เลยเมื่อ 4-5 ปีที่แล้วคนไทยยังไม่คุ้นเคยกับ GPS หรืออุปกรณ์นำทางด้วยดาวเทียม แต่พอมาช่วงสองปีที่ผ่านมาค่ายรถต่างๆ เริ่มนำ GPS มาติดในรถระดับกลาง จนลามไปถึงรถกระบะก็ได้รับอานิงสงค์นี้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ก็มีการใส่ Paddle Shift หรือ ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย ไว้ให้เล่นสนุกกันบ้างในบางรุ่น รวมไปถึงกล้องมองหลังก็เริ่มมีเป็นออฟชั่นเสริมของรถหลายรุ่นเช่นกันครับ 

          มองออฟชั่นรอบคันแล้วลองมาดูระบบส่งกำลัง หรือเกียร์ ซึ่งมีความสำคัญไม่แพ้เครื่องยนต์ กันเลยทีเดียว สำหรับในวันนี้ทางทีมงาน Boxzaracing.com ของเราจะพาไปทำความรู้จักกับระบบเกียร์ที่กำลังอยู่ในความสนใจของใครหลายๆ คนอยู่ในขณะนี้  นั่นก็คือ ระบบเกียร์แบบ (ดูอัลคลัทช์ เกียร์บ๊อกซ์)Dual Clutch Gearbox ซึ่งจะเข้ามาอยู่ในรถบ้าน ใช้งานทั่วไปมากขึ้นเรื่อยๆ โดยรถที่มีการนำเจ้าระบบนี้มาใช้ก็มีมากมายหลายรุ่นไม่ว่าจะเป็น Ferrari 355, Mitsubishi Lancer Evolution X, Nissan Skyline GTR R35, Audi TT, Ford Focus, Ford Fiesta เป็นต้น   

 

ลักษณะภายในของเกียร์แบบ Dual Clutch

 

          เจ้า Dual Clutch มันเป็นยังไง และทำงานอย่างไรไปดูพร้อมๆ กันเลยครับ หลักๆ แล้วภายในระบบเกียร์แบบ Dual Clutch นั้นออกแบบห้องเกียร์เหมือนเกียร์ธรรมดา  เพราะโดยทั่วไปแล้วเกียร์รถยนต์ ณ ปัจจุบันจะเป็นเกียร์ 6 จังหวะเดินหน้าและเกียร์ถอยหลัง แต่ละเกียร์แบบ Dual Clutch จะมีอัตราคงที่เหมือนเกียร์ธรรมดา ไม่ต้องใช้ Torque converter ตัดต่อกำลัง และไม่ใช้สายพานเหมือน เกียร์แบบ CVT ซึ่งจะแบ่งการทำงานเป็น 2 ชุด

          โดยชุดแรกจะเป็นการรวมชุดของเกียร์เลขคี่  มีเกียร์1, เกียร์3, เกียร์5 และเกียร์ถอยหลัง ส่วนเกียร์ชุดที่สองเป็นการรวมชุดของเกียร์เลขคู่จะมีเกียร์2, เกียร์4 และเกียร์6 และมีชุดคลัชต์คอยจับแรงม้าที่คุมด้วยกล่องอิเล็คทรอนิคส์ ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ให้สั้นลง เมื่อออกตัวด้วยเกียร์1 กล่องควบคุมเกียร์จะนำเกียร์2 จ่อรอทันทีและเมื่อเปลี่ยนไปยังเกียร์2 รอบเครื่องยนต์จะตกลงน้อยมากในขณะที่เกียร์3 ก็รอพร้อมอยู่แล้วเช่นกัน เกียร์แบบ Dual Clutch ใช้เวลาเปลี่ยนเกียร์น้อยกว่าเกียร์ออโตเมติก(Automatic) และเซมิออโตเมติก(Semi Automatic) ซึ่ง Ferrari รุ่น 458 Italia นั้นใช้เกียร์ Dual Clutch ของ Getrag ถือว่าเป็นรถที่เปลี่ยนเกียร์ได้เร็วที่สุด ณ ปัจจุบัน

          จะลองยกตัวอย่างรถที่ใช้เกียร์แบบ Dual Clutch ดูกันครับ ระบบนี้เริ่มปรากฏเมื่อปี 1997 ในรถ Ferrari รุ่น 355 ซึ่ง Ferrari พัฒนาเกียร์ Dual Clutch เข้ามาแทนที่ระบบเกียร์แบบเดิมที่เคยใช้แบบ Semi Auto ซึ่งมีช่วงระยะการเปลี่ยนเกียร์อยู่ที่ประมาณ 0.25 วินาที เมื่อนำเกียร์ Dual Clutch เข้าใช้งาน ทำให้มีรอยต่อการเปลี่ยนเกียร์เหลือเพียง 0.06 วินาที ซึ่งเร็วกว่าเดิมและมีผลทำให้ การเปลี่ยนเกียร์ราบเรียบไม่มีอาการกระตุกเพราะช่วงเกียร์สั้นลง

  

Ferrari รุ่น 458 Italia เป็นรถอีกหนึ่งรุ่นที่นำระบบเกียร์แบบ Dual Clutch มาใช้

 

          ไหนๆก็เกริ่นถึง Ferari 458 Italia มาแล้วก็มาดูสเป็กกันคร่าวๆ ดีกว่าครับ อย่างที่กล่าวไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่าเจ้า 458 Italia ลำนี้ถูกบรรจุเกียร์ Dual Clutch ที่ทำงานได้เร็วที่สุดของ Getrag เอาไว้ช่วยเสริมสมรรถนะ ในการส่งถ่ายแรงบิดทั้งหมดไปตามจังหวะของความเร็วและช่วยเพิ่มเติมความสะดวกสบายในการขับรถสปอร์ตสมรรถนะสูงให้สามารถควบคุมทั้งในเรื่องของอัตราเร่ง การเปลี่ยนจังหวะของเกียร์ที่มีความรวดเร็วในทุกสภาวะของการขับขี่ เกียร์ของ Ferrari 458 Italia วางตามยาวอยู่ด้านหลังของตัวรถตามลักษณะการวางเครื่องยนต์เอาไว้กลางลำ เพื่อการกระจายน้ำหนักที่ดีพร้อมกับระบบขับเคลื่อนที่ล้อคู่หลังซึ่งเป็นรูปแบบที่สำคัญของรถยนต์ในสไตล์ซุปเปอร์คาร์(Supercarให้เจ้า 458 Italia โดดเด่นมากยิ่ง 

          สำหรับตลาดรถเมืองไทยก็มีรถที่ใช้เกียร์ Dual Clutch ประเดิมโดยรถยนต์จากค่าย Ford ในรุ่น Focus โดยจะเรียกเกียร์แบบ Dual Clutch ว่า เกียร์ Powershift จากนั้นก็ตามมาด้วยน้องเล็กร่วมค่ายอย่าง Fiesta ก็ใช้เกียร์แบบ Powershift เช่นกันครับ แล้วก็มี Volvo S40 และ S60 ที่มีวิ่งบนท้องถนนเมืองไทย ในอนาคตอาจเป็นไปได้ว่าเกียร์ Dual Clutch นั้นจะมาทดแทนเกียร์ธรรมดาก็เป็นไปได้ ส่วนในครั้งหน้าทางทีมงานของเราจะนำความรู้เกี่ยวกับเรื่องอะไรมาให้ได้ชมกันอีก คอยติดตามกันได้ที่เว็ปไซต์ Boxzaracing.com ของเราได้เลยนะครับ

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook