เขียนโดย: IronCaptain

เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2558 - 18:33

BMW Series 7 รถซีดานสุดหรูได้ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์สุดหรูหรา

 

BMW Series 7 ได้ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์สุดหรูหราทั่วไทย



          BMW (บีเอ็มดับเบิลยู) เปิดตัวรถซีดานสุดหรูรุ่น BMW Series 7 (บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ย์ 7) นิยามใหม่แห่งความร่วมสมัย และล้ำยุคของสุนทรียภาพแห่งการขับขรายนตกรรมหรู อีกทั้งยังนำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัยใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งได้รับการออกแบบเพื่อยกระดับสมรรถนะ และความปราดเปรียวในการขับขี่ รวมถึงความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน อีกทั้งยังให้ความสะดวกสบาย และความสุขในระหว่างการเดินทางไกล

 

 

          มร. แมทธิอัส พฟาลซ์ ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า “BMW Series 7 โฉมใหม่ นี้เป็นเจเนอเรชั่นที่ 6 ของตระกูลนี้ และถือเป็นที่สุดของ BMW Series 7 เท่าที่เราเคย ผลิตมา และเป็นมาตรฐานใหม่ของนวัตกรรมทางเทคโนโลยีในเซ็กเมนต์นี้ ที่มาพร้อมสมรรถนะและประสิทธิภาพใหม่แห่งการขับขี่”



การออกแบบที่แสดงถึงความล้ำสมัย ความปราดเปรียว ความหรูหราสง่างามที่ไม่เหมือนใคร

          การออกแบบของ BMW Series 7 โฉมใหม่ สะท้อนตัวตนที่แท้จริงของรถรุ่นนี้ได้เป็นอย่างดี ทั้งสัดส่วนที่งดงามลงตัว การออกแบบภายนอกอย่างพิถีพิถัน เส้นสายเฉียบคมที่แสดงถึงความทันสมัย  ปราดเปรียวและสง่างาม ดุลยภาพแห่งสุนทรียะในการขับขี่และความสะดวกสบายในการเดินทางระยะไกล ที่แสดงออกมาผ่านสุดยอดยนตรกรรมหรูอย่างไร้ที่ติ



รถยนต์รุ่นแฟลกชิปที่มาพร้อมสมรรถนะล้ำหน้าและรูปลักษณ์ดึงดูดทุกสายตา

          BMW Series 740Li เป็นรุ่นฐานล้อยาว โดยมีความยาวตัวรถอยู่ที่ 5,238 มม. ความกว้าง 1,902 มม. ความสูง 1,485 มม. ซึ่งนับเป็นรุ่นใหญ่ที่สุดที่ BMW เคยผลิตมา อีกทั้งยังเป็นรุ่นแรกที่ใช้ฟีเจอร์ Air Flap Control ซึ่งจะทำงานเมื่อระบบต้องการระบายความร้อน อีกทั้งยังเพิ่มความโดดเด่นให้กับตัวรถด้วยจำนวนซี่ของไตคู่หน้าที่เพิ่มขึ้น บวกกับไฟหน้า LED ที่ถูกออกแบบให้ขยายไปถึงกระจังหน้าไตคู่ เสริมความล้ำสมัยด้วยไฟเลเซอร์ไลท์สีฟ้าตรงกลางดวงไฟ

 

BMW Efficientweight โครงสร้างแบบ Carbon Core ช่วยลดน้ำหนักรวมของรถได้มากถึง 130 กิโลกรัม

          เทคโนโลยี BMW Efficientweight ช่วยลดน้ำหนักรวมของรถ BMW Series 7 ได้มากถึง 130 กิโลกรัม โดยเป็นรถรุ่นแรกที่ใช้โครงสร้างผลืตจากพลาสติกเสริมเส้นใยคาร์บอน ผสมผสานกับโครงสร้างเหล็ก และอะลูมิเนียม ช่วยเสริมความแข็งแกร่ง และความมั่นคงของห้องโดยสาร

 
 
 
 
 
 


สมรรถนะและความสะดวกสบาย

          เทคโนโลยีช่วงล่างของ BMW Series 7 จะช่วยยกระดับสมรรถนะ และคุณภาพในการขับขี่ ด้วยช่วงล่างถุงลม สำหรับเพลาขับทั้งหน้า และหลัง รวมถึงระบบควบคุมความนุ่มนวลของโช๊กอัพเอาไว้ด้วย นอกาจกนี้ยังมอบความอิสระแห่งการขับขี่ให้กับผู้ขับมาขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโหมดการขับขี่ Sport Mode หรือ Eco Mode นอกจากนี้ยังสามารถเลือกใช้ ADAPTIVE Mode ซึ่งสามารถเรียกใช้งานได้ผ่านสวิทซ์ควบคุมแบบใหม่



การสั่งการด้วยระบบสัมผัส และการเคลื่อนไหวมือ

          BMW Series 740Li จะใช้หน้าจอควบคุม iDrive ในระบบสัมผัสเป็นครั้งแรก ซึ่งระบบนี้ยังเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ผู้ขับขี่ และผู้โดยสารสามารถเลือกสั่งการ และควบคุมจากการสัมผัสหน้าจอได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีระบบ BMW Gesture Control หรือการสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวของมือโดยไม่ต้องสัมผัส ซึ่งจะถูกนำมาใช้งานเป็นครั้งแรก โดยจะมีเซ็นเซอร์ 3 มิติ ทำหน้าที่จับการเคลื่อนไหวของการสั่งงานระบบควบคุมความบันเทิง และการสื่อสาร

 
 


BMW Touch Command เชื่อต่อโลกภายนอกได้อย่างสมบูรณ์

          นวัตกรรมของระบบควบคุมแบบมัลติฟังก์ชั่นใน BMW Series 740Li จะมาในรูปแบบของ BMW Touch Command หรือการควบคุมสั่งการด้วยระบบสัมผัสหน้าจอแท็บเล็ตพกพาขนาด 7 นิ้ว ที่สามารถใช้งานได้จากในรถ และนอกรถ ซึ่งจะสามารถควบคุมระบบต่างๆ ของรถ ไม่ว่าจะเป็นเบาะที่นั่ง แสงไฟในรถ การปรับอุณหภูมิ รวมถึงความบันเทิงต่างๆ และระบบการสื่อสาร



สัมผัสประสบการณ์เหนือระดับแห่งการโดยสารด้วย Ambient Light หลังคากระจกแบบ Sky Lounge Panorama และไฟ Welcome Light Carpet

          ด้วยบรรยากาศที่หรูหราใน BMW Series 740Li ที่ได้รับการออกแบบแสงไฟอย่างพิถีพิถัน โดยเฉพาะไฟ Welcome Light Carpet ที่ให้ความรู้สึกเอ็กซ์คลูซีฟด้วยเส้นนำสายตารอบตัวรถ ต่อด้วยไฟ Ambient Light ที่ช่วยสร้างความหรูหราให้ห้องโดยสาร นอกจากนี้ BMW Series 740Li ยังมาพร้อมหลังคา Sky Lounge Panorama ที่ช่วยสร้างบรรยากาศเสมือนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวหลากสี



BMW Laserlight ความแตกต่างที่เหนือกว่าใครในเซ็กเมนต์รถซีดานหรู

          BMW Series 740Li จะมาพร้อม BMW Laserlight ซึ่งคล้ายกับที่ใช้ใน i8 ด้วยเทคโนโลยี BMW Selective Beam ช่วยลดความพร่ามัว และเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น โดยไฟหน้าแบบเลเซอร์นี้จะมีแสงสีขาว ซึ่งจะให้ความสว่างได้ในระยะ 600 เมตร สำหรับไฟสูง



ช่วงล่างแบบถุงลม และระบบควบคุมความนุ่มของโข๊กอัพ

          BMW Series 740Li ได้ถูกออกแบบช่วงล่างมาเพื่อสร้างความแม่นยำ มั่นคง และสอดประสานอย่างกลมกลืน ด้วยช่วงล่างถุงลมสำหรับเพลาขับหน้าและหลัง รวมถึงระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า โดยช่วงล่างถุงลมจะทำงานด้วยการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่อัดลมเข้าไปเก็บในถังลม ทำให้สามารถรักษาระดับของรถได้ แม้ในเวลาที่เครื่องยนต์หยุดทำงาน ระดับความสูงของรถจะถูกปรับให้คงที่อยู่เสมอ ไม่ว่าจะมีน้ำหนักบรรทุกเท่าไหร่ก็ตาม และเนื่องจากในแต่ละล้อมีตัวจ่ายลมที่ทำงานอย่างเป็นอิสระ จึงสามารถปรับระดับของรถให้เสถียรได้ แม้ว่าน้ำหนักของการบรรทุกในแต่ละล้อไม่เท่ากัน นอกจากนี้ผู้ขับขี่สามารถปรับระดับได้ด้วยตนเองระหว่างขับขี่ได้ ทั้งนี้การปรับระดับจะกลับสู่ค่ามาตรฐานโดยอัตโนมัติที่ความเร็ว 35 กม./ชม. และเมื่ออยู่ในโหมด Sport และใช้ความเร็วสูง ระบบจะทำการปรับระดับความสูงลงมา 10 มม. โดยอัตโนมัติ



เครื่องยนต์

          BMW Series 740Li จะมาพร้อมเครื่องยนต์ 6 สูบ แถวเรียงรุ่นใหม่ โดยมีกระบอกสูบขนาด 3 ลิตร ทวีนเทอร์โบ ให้พละกำลัง 326 แรงม้า ที่ 5,500 – 6,500 รอบ/นาที และสามารถทำอัตราการเร่งจาก 0-100 กม./ชม0 ได้ในเวลา 5.6 วินาที รวถึงยังมีอัตราการเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 14.3 กม./ชม. และมีอัตราการปล่อย CO2 อยู่ที่ 166 กรัม/กม.

 

  

 

 

 

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook