BMW Series 7 2016 รถซีดานระดับหรู ที่ถูกเพิ่มความล้ำสมัยให้มากยิ่งขึ้น
BMW (บีเอ็มดับเบิลยู) ได้เผยโฉมรถซีดานสุดหรูของทางค่ายอย่าง Series 7 (ซีรี่ส์ 7) หลังจากที่มีภาพหลุด และทีเซอร์ออกมาเขย่าวงการก่อนหน้านี้อย่างต่อเนื่อง
BMW Series 7 2016 เป็นการผสมผสานกันระหว่างสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้น และความสะดวกสบายในการขับขี่ทางไกล อีกทั้งยังได้ออกแบบให้ตัวรถมีความล้ำสมัยมากกว่ารุ่นเก่า
รูปลักษณ์ภายนอก BMW Series 7 2016 นั้น ได้ถูกออกแบบให้มีความหรูหรา และทันสมัย โดยเริ่มจากกระจังหน้าคู่ เสริมด้วยไฟหน้า และไฟตัดหมอกเป็นแบบ LED ทั้งคู่ ด้านหลังมาพร้อมไฟท้ายรูปตัว L ที่ให้ความน่าเกรงขาม เพิ่มความหรูหราด้วยการตกแต่งด้วยโครเมี่ยมรอบคัน ไม่ว่าจะเป็นกรอบกระจังหน้า ชายประตู ขอบหน้าต่าง และขอบท่อไอเสียคู่ ปิดท้ายด้วยล้ออัลลอยขนาด 17-21 นิ้ว
ด้านภายในห้องโดยสารได้ถูกตกแต่งให้มีความหรูหรา ด้วยการใช้ลายไม้ อลูมิเนียม และหนัง Dakota กับ Nappa ผสมผสานกัน ไม่ว่าจะเป็นแผงคอนโซลหน้า-กลาง และแผงประตู นอกจากนี้ยังติดตั้งเทคโนโลยีสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวมือ ตามมาด้วยระบบ iDrive และแผงควบคุมระบบสัมผัส
นอกจากนี้ลูกค้าที่ต้องการความสะดวกสบายเพิ่มขึ้น สามารถเลือกแพ็คเกจ Executive Lounge ที่จะติดตั้งเบาะที่นั่งแบบมีระบายอากาศและระบบนวดตัว หน้าจอ Touch Command ขนาด 7 นิ้ว ระบบควบคุมอากาศแบบแยกส่วน 4 โซน อีกทั้งยังมีโต๊ะที่สามารถพับเก็บได้
BMW ยังมีแพ็คเกจ Sky Lounge ที่จะมาพร้อมหลังคาพาโนรามิก และเครื่องเสียง Bowers & Wilkins Diamond ระดับพรีเมี่ยมอีกด้วย
ทางด้านเครื่องยนต์ของ BMW Series 7 2016 นั้นจะมาพร้อมเครื่องยนต์ให้เลือกหลายแบบ โดยเริ่มจาก 750i xDrive / 750Li xDrive ซึ่งจะใช้เครื่องยนต์ V8 TwinPower Turbo ให้พละกำลัง 450 แรงม้า แรงบิด 650 นิวตันเมตร ทำอัตราการเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายในระยะเวลา 4.4 วินาที และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 250 กม./ชม.
ต่อด้วย BMW 740i / 740Li เครื่องยนต์ 6 สูบขนาด 3.0 ลิตร TwinPower Turbo ให้พละกำลัง 326 แรงม้า และแรงบิด 450 นิวตันเมตร ทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 5.5 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 250 กม./ชม.
ในส่วนของ BMW 730d / 730Ld / 730d xDrive / 730Ld xDrive ที่ใช้เครื่องดีเซล 6 สูบ TwinPower Turbo จะให้กำลังสูงสุด 265 แรงม้า แรงบิด 620 นิวตันเมตร ทำอัตราการเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 5.8 วินาที และทำความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม.
ปิดท้ายด้วย BMW 740e / 740Le และ 740Le xDrive plug-in hybrid ที่มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ TwinPower Turbo 2.0 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ซึ่งให้พละกำลัง 326 แรงม้า มีอัตราการเร่งจาก 0-100 กม./ชม.ภายในระยะเวลา 5.5 วินาที และสามารถทำความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม. ที่สำคัญยังมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันได้มากถึง 47.6 กม./ลิตร เลยทีเดียว
BMW Series 7 2016 จะมาพร้อมระบบ Dynamic Damper Control เสริมด้วยระบบยกตัวอัตโนมัติ และช่วงล่างถุงลม รวมถึงยังมีระบบ Executive Drive Pro ที่จะทำหน้าที่ควบคุมแชสซีส์เป็นออพชั่นเสริมอีกด้วย