Shell V-Power น้ำมันคุณภาพที่เหมาะกับทุกการใช้งาน
ปี 2015 ถือเป็นปีที่ 2 ของยุคสมัยแห่งเครื่องยนต์พลังเทอร์โบในการแข่งขันฟอร์มูล่า-วัน ซึ่งทาง ฟอร์มูล่า-วันได้กําหนดให้ทุกทีมที่เข้าแข่งขันต้องปฏิบัติตามกติกาใหม่ และพัฒนาสูตรน้ำมันให้มีประสิทธิภาพสูงยิ่งขึ้น ซึ่งทางเชลล์ได้ใช้เทคโนโลยีจากสนามแข่งขันฟอร์มูล่า-วัน เพื่อมาทดสอบ และพัฒนาน้ำมัน เชลล์ วี-เพาเวอร์ ไนโตร+ ที่จะใช้งานบนท้องถนนทั่วไป ซึ่งจะมีส่วนผสมเหมือนกับน้ำมัน เชลล์วี-เพาเวอร์ ที่ใช้กับเครื่องยนต์ V6 ของรถแข่งทีม สคูเดอเรีย เฟอร์รารี่ ในการแข่งขันฟอร์มูล่า-วันถึงร้อยละ 99
โดยกฏกติกาใหม่ของการแข่งขันนั้น ได้กําหนดให้ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงให้น้อยลงถึงร้อยละ 30-40 เมื่อเทียบกับการแข่งขันฟอร์มูล่า-วัน ในปี 2013 ทําให้รถแข่งของทีม สคูเดอเรีย เฟอร์รารี่ ที่ใส่เครื่องยนต์เทอร์โบ V6 ขนาด 1.6 ลิตร และเพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีไฮบริด และระบบ Energy Recovery Systems (ERS) จําเป็นต้องโลดแล่นอยู่ในสนามแข่งด้วยน้ำมันเชื้อเพลิงในปริมาณที่น้อยลงพอสมควร แต่ต้องยังคงสมรรถนะที่สูงสุดไว้ ทําให้นักวิทยาศาสตร์ของเชลล์ต้องทํางานอย่างหนัก เพื่อคิดค้นน้ำมันที่ให้พลังสมรรถนะที่สมดุล และประสิทธิภาพด้านพลังงานที่สมบูรณ์แบบ ด้วยเหตุนี้รถแข่งรุ่น SF15-T ของทีมสคูเดอเรีย เฟอร์รารี่ จึงได้รับน้ำมันเชลล์ วี-เพาเวอร์ รุ่นใหม่ที่มีคุณภาพสูงที่สุด และเมื่อทํางานร่วมกับเทคโนโลยี ERS จึงทําให้รถแข่งฟอร์มูล่า-วัน รุ่นนี้ มีประสิทธิภาพสูงที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา นอกจากนี้ข้อกําหนดที่ให้น้ำมันทุกชนิดที่ใช้กับรถแข่งฟอร์มูล่า-วัน ต้องมีส่วนประกอบของเชื้อเพลิงชีวภาพ (Biofuel) ในปริมาณร้อยละ 5.75 ต่อมวล จึงกลายเป็นจุดหลักที่นักวิทยาศาสตร์ของเชลล์ได้ใช้ในการมุ่งเน้นเพื่อการวิจัยและพัฒนาน้ำมันเชลล์ วี-เพาเวอร์ ในปัจจุบัน
นอกจากนี้น้ำมันเชื้อเพลิงของเชลล์ยังถูกออกแบบมาเพื่อช่วยลดแรงเสียดทานได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากเทคโนโลยี Friction Modification Technology สูตรเฉพาะของเชลล์ที่มีอยู่ในน้ำมันหล่อลื่นเชลล์ เฮลิกซ์ อัลตร้า และเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มพลังสมรรถนะให้กับทีมสคูเดอเรีย เฟอรารี่ จนสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศการแข่งขันฟอร์มูล่า-วันประเภททีมผู้ผลิตได้ถึง 10 ครั้ง และรางวัลชนะเลิศประเภทนักแข่งรวมอีก 12 ครั้ง
เชลล์ไม่ได้เป็นเพียงผู้พัฒนาน้ำมันเชื้อเพลิง และน้ำมันเครื่องให้กับทีมฟอร์มูล่า-วัน ชั้นนํา แต่ยังให้การสนับสนุนทางด้านการวิเคราะห์อย่างเต็มที่แก่ทีมนักแข่งในภาคสนามด้วยเช่นกัน โดยจะมีนักวิทยาศาสตร์ของเชลล์เข้าร่วมสังเกตุการณ์การแข่งขันทุกสนาม เพราะเป็นส่วนสําคัญในการเก็บข้อมูลเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่นำไปสู่ชัยชนะของทีม และเพื่อให้มั่นใจว่าน้ำมันมีคุณภาพสม่ำเสมอ และมีคุณสมบัติตามข้อกําหนดของ FIA