ตลาดรถยนต์เดือนมีนาคม 2567 มีปริมาณการขาย 56,099 คัน ลดลง 29.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งยอดขายที่ลดลง เป็นผลมาจากการชะลอตัวอย่างต่อเนื่องของภาคเศรษฐกิจโดยรวม ส่งผลให้กำลังซื้อยังคงจำกัด และควบคู่ไปกับความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน ทั้งนี้ ตลาดรถยนต์นั่ง มีอัตราการเติบโตลดลงที่ 25.1% และตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ มีอัตราการเติบโตลดลงที่ 32.6% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะเดียวกัน HEV มียอดขาย 12,689 คัน เพิ่มขึ้น 68.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ดันตลาด xEV เดือนมีนาคมเติบโตขึ้น 19.5% ในส่วนของ BEVยอดขายเดือนมีนาคมอยู่ที่ 5,167 คัน เติบโตลดลง 25.6% และ PHEV ยอดขาย 897 คันเติบโตลดลง 27.1%
ตลาดรถยนต์ในเดือนเมษายนมีแนวโน้มที่จะดีขึ้น เนื่องจากกระแสการท่องเที่ยวในประเทศมีแนวโน้มดีขึ้น จากช่วงเทศกาลสงกรานต์ สามารถเพิ่มเม็ดเงินหมุนเวียนภายในประเทศ และถือเป็นหนึ่งในปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจในภาพรวม และรวมถึงการเริ่มส่งมอบรถยนต์ใหม่ที่จองในงาน บางกอก มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 เป็นปัจจัยบวกและเริ่มส่งผลดีต่อตลาดรถยนต์
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมีนาคม 2567
1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย56,099 คัน ลดลง 29.8%
อันดับที่ 1 โตโยต้า21,582คันลดลง16.1%ส่วนแบ่งตลาด 38.5%
อันดับที่ 2 อีซูซุ8,861คันลดลง48.3 %ส่วนแบ่งตลาด 15.8%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า8,219คันลดลง19.3%ส่วนแบ่งตลาด 14.7%
2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 22,342คัน ลดลง 25.1%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 6,606คันลดลง33.6%ส่วนแบ่งตลาด 29.6%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 4,869คันลดลง31%ส่วนแบ่งตลาด 21.8%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 2,039คันเพิ่มขึ้น14%ส่วนแบ่งตลาด 9.1%
3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 33,757 คัน ลดลง 32.6%
อันดับที่ 1 โตโยต้า14,976คันลดลง5%ส่วนแบ่งตลาด 44.4%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 8,861 คันลดลง48.3%ส่วนแบ่งตลาด 26.2%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 3,350คันเพิ่มขึ้น7%ส่วนแบ่งตลาด 9.9%
4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)
ปริมาณการขาย 19,648 คัน ลดลง45.5%
อันดับที่ 1 โตโยต้า8,629คันลดลง34.1%ส่วนแบ่งตลาด 43.9%
อันดับที่ 2 อีซูซุ7,865 คันลดลง50.4%ส่วนแบ่งตลาด 40%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด1,744 คันลดลง57.2%ส่วนแบ่งตลาด8.9%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 3,436 คัน
โตโยต้า 1,262 คัน - อีซูซุ 1,160 คัน –ฟอร์ด 682 คัน –มิตซูบิชิ 298 คัน – นิสสัน 34 คัน
5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 16,212 คัน ลดลง 45.3%
อันดับที่ 1 โตโยต้า7,367คันลดลง31.5%ส่วนแบ่งตลาด 45.4%
อันดับที่ 2 อีซูซุ6,705 คันลดลง50.4%ส่วนแบ่งตลาด 41.4%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด1,062 คันลดลง63.3%ส่วนแบ่งตลาด 6.6%
สถิติการจำหน่ายรถยนต์เดือนมกราคม – มีนาคม 2567
1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย163,756 คัน ลดลง 24.6%
อันดับที่ 1 โตโยต้า58,810 คันลดลง 21.7%ส่วนแบ่งตลาด 35.9%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า25,104คันลดลง3.3% ส่วนแบ่งตลาด 15.3%
อันดับที่ 3 อีซูซุ 24,444คันลดลง 48.2%ส่วนแบ่งตลาด 14.9%
2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 65,615คัน ลดลง 15.4%
อันดับที่ 1 โตโยต้า16,631 คันลดลง 40.8%ส่วนแบ่งตลาด 25.3%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า14,198คันลดลง 20.2%ส่วนแบ่งตลาด 21.6%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 4,954 คันลดลง 5.1%ส่วนแบ่งตลาด 7.6%
3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 98,141 คัน ลดลง 29.7%
อันดับที่ 1 โตโยต้า42,179คันลดลง 10.3%ส่วนแบ่งตลาด43%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 24,444 คันลดลง 48.2%ส่วนแบ่งตลาด 24.9%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า10,906คันเพิ่มขึ้น 33.4%ส่วนแบ่งตลาด 11.1%
4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)
ปริมาณการขาย 56,425 คัน ลดลง44.4%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 25,248 คันลดลง 35.7%ส่วนแบ่งตลาด 44.7%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 21,481 คันลดลง 50.6% ส่วนแบ่งตลาด38.1%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 5,931 คันลดลง 46.3%ส่วนแบ่งตลาด 10.5%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 9,814 คัน
โตโยต้า 3,648 คัน - อีซูซุ 3,168 คัน – ฟอร์ด 2,139 คัน – มิตซูบิชิ 732 คัน – นิสสัน 127 คัน
5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 46,611 คัน ลดลง 44%
อันดับที่ 1 โตโยต้า21,600คันลดลง 33.6%ส่วนแบ่งตลาด 46.3%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 18,313 คันลดลง 50.9%ส่วนแบ่งตลาด 39.3%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 3,792คันลดลง 49.3%ส่วนแบ่งตลาด 8.1%