ฮุนได โมบิลิตี้ ประเทศไทย (HMT) เขย่าวงการยานยนต์ไทยใน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40” (Motor Expo 2023) ระเบิดความยิ่งใหญ่ด้วยธีมบูธสุดล้ำ “PIXEL CLOUD” ภายใต้แนวคิด “Exploring the Future” เผยโฉมในงานนี้เป็นครั้งแรกของโลก พร้อมยกขบวนโมเดลใหม่เจ้าของรางวัลมาเปิดตัวกันอย่างคับคั่ง ชูไฮไลต์ทั้งรถยนต์ไฟฟ้า IONIQ 5 และเอสยูวีอย่าง Hyundai Santa Fe รวมถึงสุดยอดยานยนต์สมรรถนะสูง Hyundai N เสริมทัพด้วยยนตรกรรมยอดนิยมครบทุก Line-up และ Segment อาทิ Staria S พร้อม Body Kit เฉพาะรุ่น, Stargazer รถ MINI-MPV ยอดนิยมซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบ 6 และ 7 ที่นั่ง รวมถึงรุ่น Stargazer X ที่เหนือกว่าด้วยอุปกรณ์พิเศษหลายรายการ, Creta รถ B-SUV อันโดดเด่นด้วยออปชั่นครบครัน และ H-1 Elite FE ลิมิเต็ดอิดิชันผลิตจำนวนจำกัด และอีกหลากหลายรุ่น ตอกย้ำวิสัยทัศน์บริษัทแม่เดินเกมรุกตลาดไทยสู่การเป็น Premium Lifestyle Brand เต็มรูปแบบ พร้อมเซอร์ไพรส์ใหญ่ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษส่งท้ายปี สำหรับลูกค้าที่สั่งจองรถยนต์ที่บูธฮุนไดหมายเลข A07 อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันนี้ถึง 11 ธันวาคม 2566
นายเจ กิว จอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “เราเล็งเห็นถึงศักยภาพของไทยในการเป็นตลาดหลักของภูมิภาคเอเชีย และมุ่งมั่นมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม ปีนี้เราจึงได้นำเสนอแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าของฮุนไดอย่าง “IONIQ” ประเดิมด้วยรุ่น IONIQ 5 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นล่าสุดที่คว้ารางวัลมาแล้วจากนานาประเทศ รวมถึงเวที World Car Awards สู่ตลาดเมืองไทย และอีกหนึ่งไฮไลต์อย่าง Hyundai Santa Fe เอสยูวีครอบครัว 7 ที่นั่งเจ้าของรางวัลระดับโลก เพียบพร้อมด้วยความหรูหราสะดวกสบาย และความปลอดภัยเพื่อการขับขี่ทางไกลอย่างยอดเยี่ยม นอกจากนี้ เรายังนำ SUV และ MPV หลากหลายรุ่นมานำเสนอในงาน ตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทในการพัฒนา “ความก้าวหน้าเพื่อมวลมนุษยชาติ (Progress for Humanity)” ซึ่งเป็นปรัชญาการออกผลิตภัณฑ์ใหม่พร้อมเทคโนโลยีอันล้ำสมัย เพื่อมอบโซลูชันของการเดินทางแห่งอนาคตที่ยั่งยืน”
นายเจ ฮยุน กวาง หัวหน้าทีมกลยุทธ์ของแบรนด์ N จากสำนักงานใหญ่ บริษัท ฮุนได มอเตอร์ กล่าวว่า “ปัจจุบัน นอกจากการเป็นแบรนด์รถ MPV และ SUV ชั้นนำของตลาด ฮุนไดยังมีศักยภาพในด้านนวัตกรรมยานยนต์สมรรถนะสูง ซึ่งเปิดตัวสู่ตลาดโลกแล้วภายใต้ แบรนด์ ‘N Performance’ ยานยนต์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากกีฬามอเตอร์สปอร์ต ผสานความสะดวกสบายเพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่ครอบคลุม โดยเราเลือกนำ Elantra N มาเปิดตัวในงานนี้ เป็นครั้งแรกของเมืองไทยและตลาดต่างประเทศ เพราะเป็นยานยนต์ตระกูล N ที่ทันสมัยและสมดุลที่สุด สมบูรณ์แบบทั้งการขับขี่ในชีวิตประจำวันและในสนามแข่ง ซึ่งเรายังมีแผนเปิดตัวยานยนต์สมรรถนะสูงรุ่นใหม่ สู่เมืองไทยต่อไปอย่างต่อเนื่อง”
นายวัลลภ เฉลิมวงศาเวช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ในปีนี้ ฮุนไดเปิดเกมรุกตลาดยานยนต์อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ขับขี่ในทุกเซกเมนต์ และตอกย้ำความเชื่อมั่นแก่ลูกค้าชาวไทย หลังบริษัทแม่ของฮุนไดเข้ามาทำการตลาดในประเทศไทยด้วยตัวเอง เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยเราได้ยกระดับการนำเสนอทั้งบริการและผลิตภัณฑ์ เพื่อมอบประสบการณ์แก่ผู้ขับขี่ ด้วยนวัตกรรมและโซลูชันแบบบูรณาการใหม่ ๆ ได้อย่างครบถ้วนและยั่งยืน รวมถึงการขยายเครือข่ายดีลเลอร์ให้ครอบคลุมขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปีนี้เพิ่มดีลเลอร์รายใหญ่อีกเกือบ 10 ราย เพื่อให้ฮุนไดสามารถมอบบริการแก่ลูกค้าชาวไทยอย่างทั่วถึงในระยะยาว รวมถึงงานในครั้งนี้ เราได้จัดเตรียมหลากหลายข้อเสนอพิเศษ จึงขอเชิญชวนสายรถยนต์ทุกท่านมาร่วมสัมผัสนวัตกรรมยานยนต์ และรับสิทธิประโยชน์มากมายจากฮุนไดได้ที่ งานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2023 ตั้งแต่วันนี้ถึง 11 ธันวาคม ครับ”
IONIQ 5 – ผสานเสน่ห์รถคลาสสิกเข้ากับนวัตกรรมรถไฟฟ้าแห่งอนาคต
IONIQ 5 รถยนต์ไฟฟ้าอีวี 100% ชูคอนเซ็ปต์การผสมผสานดีไซน์ยานยนต์คลาสสิกอย่าง Hyundai Pony เข้ากับ Parametric Pixels Design ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ พร้อมเส้นสายที่สะอาดตาและเฉียบคม เน้นเส้นเหลี่ยมสันสร้างรูปลักษณ์ที่เพรียวบาง นับเป็นการผสานความล้ำสมัยเข้ากับความคลาสสิกอย่างลงตัว ด้านหน้ารถออกแบบเป็นรูปตัว V กระจังหน้าทรงปิดทึบ ฝากระโปรงหน้าแบบ Clamshell Bonnet มือเปิดประตูด้านข้างแบบซ่อนเก็บได้ในตัว ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือการออกแบบของ จิออเกตโต จูเจียโร่ (Giorgetto Giugiaro) นักออกแบบชื่อดังชาวอิตาลี ซึ่งกลับมาร่วมมือกับฮุนไดอีกครั้ง เพื่อปลุกตำนานอันโด่งดังให้กลับมาโลดแล่นอีกครั้งในวันนี้
IONIQ 5 สมบูรณ์แบบด้วยระบบวิศวกรรมและฟีเจอร์อัจฉริยะอันล้ำสมัย มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 2 ล้อที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า Permanent magnet พลังงานจากแบตเตอรี่ Lithium-Ion ติดตั้งระบบชาร์จเร็ว 350 kW Ultra-fast Charging สามารถชาร์จไฟจาก 10-80% ได้ภายใน 17 นาทีเท่านั้น มอบความสะดวกสบายได้มากกว่ารถไฟฟ้าแบรนด์อื่น ๆ พร้อมฟีเจอร์ไฮเทคครบครันทั้ง ระบบเครื่องเสียงชั้นนำระดับโลกจาก BOSE และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ Hyundai SmartSense ท้งยังพร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการด้วยสองทางเลือก
แบตเตอรี่แรงดันสูงสุด 58 กิโลวัตต์-ชั่วโมง กำลังสูงสุด 170 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 8.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 185 กม./ชม. ระยะทางขับเคลื่อนไฟฟ้าสูงสุด 384 กม. ตามมาตรฐาน WLTP
แบตเตอรี่แรงดันสูงสุด 72.6 กิโลวัตต์-ชั่วโมง กำลังสูงสุด 217 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 7.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 185 กม./ชม. ระยะทางขับเคลื่อนไฟฟ้าสูงสุด 481 กม. ตามมาตรฐาน WLTP
การันตีคุณภาพ IONIQ 5 ด้วยการคว้ารางวัลจากเวทีนานาชาติทั่วโลกรวมทั้ง World Car of the Year, World EV of the Year และ World Car Design of the Year จากเวที World Car Awards
โปรโมชัน IONIQ 5 เฉพาะในงาน MOTOR EXPO 2023
พบข้อเสนอทางการเงินสุดพิเศษและสิทธิประโยชน์อื่น ๆ อาทิ ฟรีค่าแรงเช็คระยะครั้งที่ 1-10 (นาน 10 ปี หรือ 150,000 กม.) รับประกันแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงดันสูง (High Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กม. รับประกันตัวรถ (Warranty) 5 ปี หรือ 150,000 กม. สิทธิประโยชน์รับบริการ V2V จำนวน 2 ครั้งต่อปี ระยะเวลา 5 ปี (ภายในกรุงเทพฯ) บริการยก/ลากไม่จำกัดจำนวนครั้งและระยะทาง ในระยะเวลา 5 ปี ฟรีโฮมชาร์จเจอร์พร้อมค่าแรงติดตั้ง และรับประกันการติดตั้ง 1 ปี
Hyundai Santa Fe –เอสยูวี 7 ที่นั่ง อีกระดับของประสิทธิภาพและความหรูหรา
Hyundai Santa Fe เอสยูวีพร้อมเบาะแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง ใน Segment D-SUV เจ้าของรางวัลรถยนต์ระดับโลกหลายเวที เปิดตัวในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2023 เป็นครั้งแรกของประเทศไทย นำเสนอยานยนต์ที่เหนือระดับของประสิทธิภาพและปรับสไตล์ใหม่หมดจด มอบความหรูหราที่แตกต่าง และตอบโจทย์การเป็นรถสำหรับครอบครัวอย่างลงตัว ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Hybrid ที่ผสานมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ ขนาด 1.6 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 230 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดแบบ Combined System 350 นิวตันเมตร ที่ 1,000 - 4,500 รอบต่อนาที พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Active On-demand โดยใช้ล้อ Aero type alloy ขนาด 19 นิ้ว ส่วนกระจังหน้าเป็นโครเมียมแบบ Cascade ที่สอดรับกับมือจับประตููที่ตกแต่งด้วยโครเมียมเช่นกัน หลังคาพาโนรามิกซันรูฟ โดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบ Dual LED Projector T-design และไฟ LED ส่องสว่างเวลากลางวัน Daytime Running Lights ด้านหลังสง่างามด้วยการตกแต่งสปอยเลอร์หลังพร้อมเสริมไฟท้าย LED ด้วยไฟเบรก LED ดวงที่ 3 เพิ่มความสว่างและการมองเห็นที่ชัดเจน
ห้องโดยสารภูมิฐานสง่างาม จากการตกแต่งด้วยหนังแท้ทั้งเบาะและพวงมาลัย และใช้วัสดุอลูมิเนียมเกรดสูง สมบูรณ์แบบทั้งในแง่สุนทรียภาพแห่งความงาม เบาะนั่่งคู่หน้าเป็นระบบปรับไฟฟ้าแบบ Ventilated seat พร้อมระบบความบันเทิงครบครัน สั่งการได้ง่ายด้วยหน้าจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงพรีเมียม Harman Kardon™ ที่มากับลำโพงคุณภาพสูงกว่า 10 ตำแหน่ง รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto ได้อย่างสะดวกสบาย รองรับการชาร์จมือถือแบบไร้สาย Wireless Charger และไฟเรืองแสงรอบห้องโดยสาร (Ambient Mood Light) ที่เพิ่มความหรูหราแก่ห้องโดยสารในทุกตารางนิ้ว
Hyundai Santa Fe ติดตั้งเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่อันล้ำสมัย ทั้งปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์แบบ Push Start Button ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control พร้อมปุ่มเลือกโหมดการขับขี่ทั้งแบบ Eco, Sport และ Smart และแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shifter ตลอดจนเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะครบครันที่ทำให้ Santa Fe เป็นสุดยอด D-SUV ที่ตอบโจทย์การเดินทางทุกรูปแบบทั้งการขับขี่ในเมืองใหญ่ และการขับขี่ทางไกลเพื่อพักผ่อนในวันหยุดได้อย่างสมบูรณ์แบบ ครบครันกับระบบความปลอดภัยเหนือชั้นอย่าง Hyundai SmartSense
Elantra N – ดีเอ็นเอจากสนามแข่งขันสู่ยานยนต์บนท้องถนน
Hyundai N แบรนด์รถยนต์สมรรถนะสูงล่าสุดจากฮุนได พัฒนาขึ้นด้วยความหลงใหลในสมรรถนะขั้นสูงของกีฬามอเตอร์สปอร์ตบนพื้นฐานแนวคิด “Never Just Drive” โดยรถยนต์ N ทุกรุ่น ผ่านการออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญของศูนย์วิจัยและพัฒนา Hyundai Motor Namyang R&D Center ก่อนจะส่งรถยนต์ N ไปทดสอบที่สนาม Nürburgring ในเยอรมนี ซึ่งได้รับการขนานนามเป็นหนึ่งในสนามแข่งที่โหดที่สุดในโลก จนเป็นที่มาของแบรนด์ N ซึ่งตั้งตามชื่อเมือง Namyang และสนามแข่ง Nürburgring นั่นเอง ส่วนเส้นสายของโลโก้ N นั้นได้แรงบันดาลใจมาจากโค้งสนามแข่งขันในตำนานเช่นกัน
Elantra N มอบศักยภาพแห่งการขับขี่ที่เปี่ยมพลังด้วยเครื่องยนต์ Theta-II 2.0 T-GDi เทอร์โบ กำลังสูงสุด 280 แรงม้า ที่ 5,500 - 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 392 นิวตันเมตร ที่ 2,100 - 4,700 รอบต่อนาที ใช้ระบบส่งกำลังแบบ N 8-speed Wet Dual Clutch Transmission (DCT) ทั้งยังมีระบบผู้ขับขี่เปลี่ยนเกียร์ได้เอง ขับเคลื่อนล้อคู่หน้า มาพร้อมเทคโนโลยีระบบวาล์วท่อไอเสียแบบแปรผันที่สร้างเสียง Pop-corn Sound และระบบกันสะเทือนแบบ Adaptive ใช้ระบบบังคับเลี้ยวแบบ Rack-mounted Motor Driven Power Steering (R-MDPS) และเบรกอย่างแม่นยำ ด้วยระบบดิสก์เบรกประสิทธิภาพสูงพร้อมช่องระบายความร้อนขนาด 360 x 30 มม. (ล้อหน้า) และขนาด 314 x 20 มม. (ล้อหลัง)
ทุกองค์ประกอบของ Elantra N ถือเป็นดีไซน์ใหม่ในทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้า สเกิร์ตข้าง สปอยเลอร์หลัง ไปจนถึงดิฟฟิวเซอร์และท่อไอเสียที่ดูโฉบเฉี่ยวด้วยดีไซน์สปอร์ตใหม่หมดจด ภายในยังมอบความหรูหราด้วยหลังคา Sunroof พร้อมกระจกกันความร้อน Solar Glass ปลุกทุกประสาทสัมผัสไปกับโหมดการขับขี่อัจฉริยะทั้ง N, N Custom 1 และ N Custom 2 พร้อมระบบเฟืองท้าย e-LSD (electronic-Limited Slip Differential) ที่ทำงานร่วมกับะบบช่วงล่างไฟฟ้า ECS (Electronically Controlled Suspension) และระบบปรับเสียงท่อไอเสียแบบ Active Variable Exhaust ที่ให้เสียงเร้าใจเสมือนโลดแล่นในสนามแข่ง นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยขั้นสูง ตามมาตรฐานรถยนต์ระดับพรีเมียมและ Hyundai SmartSense ที่มีทั้งระบบเตือนและเบรกฉุุกเฉินอัตโนมัติ FCA (Forward Collision-avoidance Assist), ระบบควบคุุมรถในเลน LKA (Lane Keeping Assist), ระบบเตือนและคุุมพวงมาลัยเมื่อมีรถในจุดอับสายตา BCA (Blind-spot Collision-avoidance Assist), ระบบเตือนและเบรกอัตโนมัติขณะถอยรถ RCCA (Rear Cross-traffic Collision-avoidance Assist) และอีกมากมาย
Elantra N เปิดตัวครั้งแรกในไทย นับเป็นประเทศแรกในตลาดต่างประเทศของโลกที่จำหน่ายรถยนต์รุ่นนี้ ทั้งยังเป็นยานยนต์ตระกูล N รุ่นที่ทันสมัยและสมดุลที่สุด สมบูรณ์แบบทั้งการขับขี่ใช้งานในชีวิตประจำวันและในสนามแข่ง ให้ผู้ขับสัมผัสประสบการณ์แห่งความแรงสุดเร้าใจ พร้อมฟีเจอร์ความปลอดภัยและอุปกรณ์อื่นอันเหนือชั้น Elantra N จึงเป็นสัญลักษณ์แห่งประสบการณ์กีฬามอเตอร์สปอร์ต บนท้องถนนที่แท้จริง
ผู้เยี่ยมชมบูธฮุนไดยังจะได้สัมผัสกับนวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคตรุ่นอื่นอีกมากมาย ทั้งจากแบรนด์ IONIQ อาทิ IONIQ 6 รถยนต์ไฟฟ้าที่พัฒนาต่อจาก Prophecy Concept EV สวยงามด้วยรูปทรงเพรียวบาง พร้อมติดตั้งระบบความปลอดภัยและการเชื่อมต่อเทคโนโลยีขั้นสูงครบครันด้วยนวัตกรรมอัจฉริยะ จนได้รับรางวัล 2023 World Car of the Year รวมถึงยานยนต์สมรรถนะสูงจาก N Brand ทั้งรถยนต์ต้นแบบ N Vision 74 สมดุลที่สมบูรณ์แบบระหว่างเทคโนโลยีล้ำสมัยและการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ เพื่อการขับขี่ที่รื่นรมย์, รถแข่งแรลลี่ดีกรีเจ้าสนาม I20 WRC ซึ่งคว้าตำแหน่งผู้ผลิต WRC ยอดเยี่ยมเป็นปีที่ 2 ติดกัน จากชัยชนะ 3 สนาม ทั้งมอนติคาร์โล เอสโทเนีย และซาร์ดิเนีย
พิเศษ! ฮุนได โมบิลิตี้ ประเทศไทย มอบข้อพิเศษแก่ผู้จองรถยนต์รุ่นต่าง ๆ ในงาน ด้วยแคมเปญข้อเสนอพิเศษแห่งปี อาทิ ดอกเบี้ย 0% ผ่อนนานสูงสุด 48 เดือน และฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง พร้อม พ.ร.บ. นาน 1 ปี1 ทั้งยังมอบความมั่นใจในทุกการเดินทางด้วยการรับประคุณภาพรถยนต์นาน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร2 (ข้อเสนอและสิทธิประโยชน์อาจมีความแตกต่างกันตามรุ่นรถยนต์และแพ็กเกจบริการ ลูกค้าสามารถสอบถามรายละเอียดได้จากพนักงานฮุนได)
อีกหนึ่งความพิเศษนอกเหนือจากรถยนต์หลากหลายโมเดล ฮุนไดยังสร้างปรากฏการณ์ด้วยการเปิดตัวธีมบูธใหม่ล่าสุดครั้งแรกในโลก “PIXEL CLOUD” ซึ่งนำแรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ “Pixel by Pixel” แคมเปญโฆษณาที่ชูความล้ำสมัยของนวัตกรรมไฟส่องสว่าง Parametric Pixel ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีเฉพาะในรถยนต์ไฟฟ้าของฮุนได สื่อสารผ่านเทคโนโลยี “พิกเซล” ที่เชื่อมโยงระหว่างอดีต (ระบบอนาล็อก) มาจนถึงปัจจุบัน และมุ่งสู่อนาคต (ระบบดิจิทัล) พร้อมนำเสนอปรัชญาการออกแบบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของฮุนได นั่นคือ “การสร้างสรรค์ยานยนต์แห่งอนาคต ผ่านแรงบันดาลใจจากมรดกตกทอดอันล้ำค่าของบริษัท”
ผู้เข้าชมงานสามารถร่วมเดินทาง และสัมผัสกับประวัติศาสตร์ของการพัฒนายานยนต์ฮุนได ในทุกรายละเอียดได้ที่บูธหมายเลข A07 ทั้งยังเพลิดเพลินไปกับการเลือกชมยานยนต์ สินค้าไลฟ์สไตล์ และของที่ระลึกจากฮุนได โมบิลิตี้ ประเทศไทย พร้อมร่วมสนุกกับกิจกรรมมากมาย และลุ้นรับของรางวัลสุดพิเศษในงาน โดยมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลและให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด นอกจากนั้น ยังสามารถแวะพักได้ที่ Staria Premium Lounge ซึ่งพร้อมต้อนรับทุกท่านอย่างอบอุ่นตลอดงาน
ผู้สนใจสามารถเยี่ยมชมบูธรถยนต์ฮุนไดที่บูธหมายเลข A07 งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 40 ณ อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน - 11 ธันวาคม 2566 พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษที่แตกต่างกัน สำหรับรถยนต์แต่ละรุ่นได้ตลอดงาน โดยท่านสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารผ่านเว็บไซต์ http://worldwide.hyundai.com หรือ http://globalpr.hyundai.com