หลังจากดวลความเร็วทั้งสิ้น 8 สนามตลอดทั้งฤดูกาล 2023 ภายใต้สังเวียนมอเตอร์สปอร์ต 3 แห่งในประเทศไทย เริ่มต้นจาก สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ใน 4 สนามแรก จากนั้นไปต่อกันที่ พีระ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต (พัทยา) ในสนามที่ 5-6 โดยไปปิดฉาก 2 สนามสุดท้ายใน สตรีท เซอร์กิต ใหม่ถอดด้ามของไทยอย่าง "สงขลา สตรีท เซอร์กิต" เมื่อกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
ชัยชนะทั้ง 2 สนามสุดท้ายที่ สงขลา ตกเป็นของ "บิ๊ก" ฐิติพงศ์ อาจิณภัทรา ยอดนักขับดาวรุ่งจาก พีที แม็กซ์นิตรอน มอเตอร์สปอร์ต ที่สร้างผลงานอย่างร้อนแรง ขณะที่ "มินนี่" สิตาวีร์ ลิ้มนันทรักษ์ นักขับสาวดาวรุ่งจาก Nexzter rest Club Singha Sittipol จบเรซในอันดับ 2 และ 3 จากสุดสัปดาห์ดังกล่าว ส่วนอีกคนที่ร้อนแรงในสนามสุดท้ายคือ "เบส" กันตเมศฐ์ จิระโชคชัยวงศ์ นักขับฟอร์มดุจาก AAS Motorsport 9ELEMENT Pakelo Racing Team ที่ทำผลงานยอดเยี่ยมตลอดทั้งสุดสัปดาห์ ก่อนจะปลดล็อคทะยานคว้าโพเดียมในอันดับ 2 ได้สำเร็จ
ขณะที่แชมป์ประจำปีในคลาส C ตกเป็นของนักขับดาวรุ่งสาวแห่งยุคอย่าง "มินนี่" สิตาวีร์ ลิ้มนันทรักษ์ นักขับสาวดาวรุ่งจาก Nexzter rest Club Singha Sittipol หลังเก็บไปได้ทั้งสิ้น 68 คะแนน เหนือ "วี" ธนาศิวณัฐ พงสินณัฐอาชัญ คู่แข่งคนสำคัญจาก พีที แม็กซ์นิตรอน มอเตอร์สปอร์ต เพียง 6 คะแนนเท่านั้น ส่วนอันดับ 3 เป็นของ เกรียงไกร ศุภวาณิชยานนท์ จาก NetWelth ที่ยกระดับผลงานอย่างร้อนแรงในปีนี้ เก็บไปทั้งสิ้น 44 คะแนน
นายอโณทัย เอี่ยมลำเนา ประธานจัดการแข่งขัน กล่าวว่า "ฤดูกาล 2023 นับเป็นอีกปีที่เราประสบความสำเร็จอย่างมากในแง่ของรุปแบบการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นในทุกๆ เรซ รวมถึงความนิยมที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากแฟนความเร็วชาวไทย ผมขอแสดงความยินดีกับนักแข่งทุกคนที่คว้าแชมป์ได้ในทุกคลาส รวมถึงนักแข่งทุกคนที่ยกระดับผลงานขึ้นอย่างชัดเจน ที่ถือเป็นบทพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นและตั้งใจของทุกคน ในปี 2024 เราจะยังคงเดินหน้าจัดการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง โดยจะยกระดับความมันส์ขึ้นไปอีก จากรูปแบบการแข่งขันที่สดใหม่ขึ้น ซึ่งในขณะนี้ กรังด์ปรีซ์ มอเตอร์สปอร์ต อยู่ระหว่างดำเนินการแผนสำหรับ ฮอนด้า วันเมคเรซ ในฤดูกาลหน้า เพื่อมอบประสบการณ์มอเตอร์สปอร์ตที่ดีที่สุดให้กับแฟนชาวไทย"