All New Isuzu D-Max 2020 1.9 Turbo STD
เริ่มรุ่นแรก All New Isuzu 1.9 Turbo STD กับ 8 คัน ที่ได้คะแนนสะสมสูงสุดจากการแข่ง 4 สนามที่ผ่านมา สำหรับการแข่งรอบชิงเป็นการวิ่งแบบม้วนเดียวจบในรุ่น งานนี้รถและคนต้องพร้อมทุกด้าน และการแข่งในคู่แรกเป็นการแข่งระหว่างรถหมายเลข 115 ที่ ขับโดยณัฐพงศ์ ทรัพย์มานพพันธุ์ ทีมอู่เอสเอสการาจ ปิงเทอร์โบ กับรถหมายเลข 119 ขับโดย ณัฐวุฒิ กลิ่นหอม จากบูมการาจ จันทบุรี และเป็นทางฝ่ายแรก ที่สามารถผ่านเข้ารอบไปก่อนด้วยเวลา 11.696 ส่วนอีกฝ่ายกดดันตัวเอง ออกดตัวฟาล์วไปอย่างน่าเสียดาย ต่อมาเป็นคู่ที่สอง เป็นการลงวิ่งแข่งกันหว่างรถหมายเลข 131 ขับโดย ปฎิพล ไชยบุตร กับรถหมายเลข 111 ที่ขับโดย นัฐพงษ์ กาบแก้ว ปรากฎกว่าฝ่าย หลังเอาชนะไปด้วยเวลา 12.053 ต่อ 12.226 วินาที
ต่อมาเป็นคู่ที่สาม เป็นการแข่งของรถหมายเลข 103 ที่ขับโดย เทพพิทักษ์ ไชยรัตน์ ทีมอู่เบีย การาจ และหมายเลข 112 ที่ขับโดย ไพศาล ตันแต๋ว ผลปรากฎว่า ฝ่ายแรกชนะไปแบบไม่ต้องออกแรงมากเพระคู่แข่งออกตัวฟาล์วไปอย่างน่าเสียดาย และคู่สุดท้ายของรอบแรกเป็นการแข่งกันระหว่างรถหมายเลข 124 ที่ขับโดย มานพ ศรีวิลัย ทีมแบงค์บ้านนา กับรถหมายเลข 123 ขับโดย รชตะ ราศีเกตุ ซึ่งผู้ที่สามารถเข้าไปวิ่งแข่งในรอบต่อไปเป็นคันสุดท้ายคือ รถหมายเลข 124
ในรอบที่สอง หรือรอบ 4 คัน คู่แรกเป็นการแข่งกันระหว่างรถหมายเลข 115 และหมายเลข 111 ผลปรากฎว่าฝ่ายแรกเอาชนะคู่แข่งเข้าไปรอชิงเป็นคันแรก ต่อมาเป็นการแข่งของรถหมายเลข 103 และหมายเลข 124 และผู้ที่เข้าไปชิงเป็นรถหมายเลข 124
และสุดท้ายเป็นการวิ่งชิงระหว่างรถหมายเลข 124 ที่ขับโดย มานพ ศรีวิลัย และหมายเลข 115 ที่ขับโดย ณัฐพงศ์ ทรัพย์มานพพันธุ์ และผู้ที่สามารถคว้าแชมป์ในรุ่นนี้มาครองได้สำเร็จ เป็นรถหมายเลข 124 ที่ขับโดย มานพ ศรีวิลัย ส่วน อันดับที่สามเป็นของหมายเลข 103 ที่ขับโดย เทพพิทักษ์ ไชยรัตน์ ซึ่งสามารถเอาชนะรถหมายเลข 111 ที่ขับโดย นัฐพงษ์ กาบแก้ว ได้สำเร็จ
1 มานพ ศรีวิลัย ทีมแบงค์บ้านนา 11.784 วินาที
2 ณัฐพงศ์ ทรัพย์มานพพันธุ์ ทีมอู่เอสเอสการาจ ปิงเทอร์โบ 11.839 วินาที
3 เทพพิทักษ์ ไชยรัตน์ ทีมอู่เบีย การาจ 11.723 วินาที
Isuzu D-Max Pro 1.9
ขยับมาดูการแข่งของยอดนิยมของรายการนี้กับ All New Isuzu Pro 1.9 โดยคู่แรกของการแข่งเป็นการวิ่งชิงไฟ ระหว่างรถหมายเลข 209 ที่ขับโดย ศุภเวช อชิระกุนทร จาก เอ้เรซซิ่ง การาจ และหมายเลข 207 ที่ขับโดย ยงยุทธ บัวเสถียร จากโอ๊ตอู่ช่างขวัญ และเป็นทางฝ่ายแรก ที่สามารถเอาชนะผ่านเข้ารอบสี่คันสุดท้ายได้เป็นคันแรก ต่อด้วยคู่ที่สองเป็นการวิ่งระหว่างรถหมายเลข 211 ที่ขับโดย จาตุรนต์ เอี่ยมรอด จากแบ่งปันเรซซิ่งช็อป และหมายเลข 214 ที่ขับโดย พิสิทธิ์อนันต์ ตันจตุรงค์ และเป็นทาง พิสิทธิ์สามารถเอาชนะคู่แข่งผ่านเข้าไปได้อีกคันแบบไม่ต้องลุ้นเพราะฝ่ายหลังออกตัวฟาล์วไปอย่างน่าเสียดาย
คู่ที่สาม เป็นการแข่งของรถหมายเลข 213 ที่ขับโดย ไพศาล ตันแต๋ว และหมายเลข 217 ที่ขับโดยวรวุฒิ สุชิตา จากช่างแจ็คบางหญ้าแพรก ผลปรากฎว่า ฝ่ายแรกเอาชนะมาด้วยเวลา 10.211 ต่อ 12.631 วินาที และคู่สุดท้ายของรุ่น All New Isuzu Pro 1.9 Blue Power ในรอบแรกเป็นการแข่งกันระหว่างรถหมายเลข 216 ที่ขับโดย สุเมธ เวียงจันทร์ กับรถหมายเลข 203 ขับโดย มานพ ศรีวิลัย ซึ่งผู้ที่สามารถเข้าไปวิ่งแข่งในรอบต่อไปเป็นคันสุดท้ายคือรถหมายเลข 203 ที่ทำเวลาไว้ 9.972 ต่อ 10.046 วินาที
รอบ 4 คันสุดท้าย คู่แรกเป็นการแข่งกันระหว่าง รถหมายเลข 209 ที่ขับโดย ศุภเวช อชิระกุนทร และหมายเลข 214 ที่ขับโดย พิสิทธิ์อนันต์ ตันจตุรงค์ ผลปรากฎว่าฝ่ายหลัง เอาชนะเข้าไปรอชิงเป็นคันแรก และอีกหนึ่งคู่เป็นการแข่งของรถหมายเลข 213 ที่ขับโดย ไพศาล ตันแต๋ว และหมายเลข 203 ที่ขับโดย มานพ ศรีวิลัย ผลปรากฎว่า มานพ เอาชนะคู่แข่งเข้าไปชิงได้สำเร็ว
และในรอบชิงของรุ่นนี้ปรากฎว่า รถหมายเลข 203 ที่ขับโดย มานพ ศรีวิลัย ทีมแบงค์บ้านนา เอาชนะ พิสิทธิ์อนันต์ ตันจตุรงค์ ในรถหมายเลข 214 ได้สำเร็จ คว้าแชมป์ในรุ่นนี้ไปครองด้วยเวลา 9.976 ต่อ 10.184 วินาที และอันดับที่สามตกเป็นของ ไพศาล ตันแต๋วใน รถหมายเลข 213 ที่สามารถเอาชนะคู่แข่งอย่าง ศุภเวช อชิระกุนทร ได้สำเร็จ ด้วยเวลา 10.128 ต่อ 10.164 วินาที
1 มานพ ศรีวิลัย ทีมแบงค์บ้านนา 9.976 วินาที
2 พิสิทธิ์อนันต์ ตันจตุรงค์ณัฐพงศ์ ทีมอั้ม มะพร้าวอ่อน อู่เอ้แม่กลอง 10.184 วินาที
3 เทพพิทักษ์ ไชยรัตน์ ทีมอู่เบีย การาจ 10.128 วินาที
Isuzu D-Max Pro 3.0
รุ่นนี้ถือว่าเป็นรุ่นอมตะที่อยู่คู่กับรายการ Isuzu Race Spirit มาอย่างยาวนาน และเป็นรุ่นที่มีนักแข่ง ทีมแข่งส่งรถลงสนามมากที่สุด สำหรับสนามชิงชนะเลิศเป็นการแข่งของรถทั้ง 8 คันที่ได้คะแนนสะสมสูงสุดจาก 4 สนาม และคู่แรกเป็นการแข่งกันระหว่าง รถหมายเลข 312 ที่ขับโดย สรายุทธ แพงพันธ์ และหมายเลข 335 ที่ขับโดย มงคลชัย แก้วสับ ผลปรากฎว่า ฝ่ายแรกชนะไป ต่อด้วยคู่ที่สองเป็นการแข่งระหว่างรถหมายเลข 301 ที่ขับโดย สุวรรณ กุสลางกูลวัฒ และหมายเลข 302 ที่ขับโดย เจษฎา ลี้ยง และเป็นทางฝ่ายแรก ที่ผ่านเข้าไปในรอบ 4 คันได้สำเร็จ โดยฝ่ายหลัง Bye
คู่ที่สามเป็นเป็นการแข่งระหว่างรถหมายเลข 319 ที่ขับโดย ฐาปกร เข็มกลัด และหมายเลข 304 ที่ขับโดย ประสิทธิ์ สุวรรณพัตร ผลปรากฎว่า ฝ่ายแรก DNF และคู่สุดท้ายเป็นการแข่งกันระหว่างรถหมายเลข 316 ที่ขับโดย สาวิต เดียวพิทักษ์ศีล และหมายเลข 313 ที่ขับโดย เอกชาติ มีพร้อม ผลปรากฎว่า ฝ่ายแรก DNF ไปเช่นกันกับคู่ก่อน ทำให้ รถหมายเลข 313ผ่านเข้าไปได้เป็นคันสุดท้าย
ในรอบ 4 คัน คู่แรกเป็นการแข่งระหว่างรถหมายเลข 312 ที่ขับโดย สรายุทธ แพงพันธ์ และหมายเลข 301 ที่ขับโดยสุวรรณ กุสลางกูลวัฒ ผลปรากฎว่า ฝ่ายแรก เอาชนะไปด้วยเวลา 8.996 ต่อ 9.236 วินาที เข้าไปรอชิงเป็นคันแรก ส่วนคู่ที่สองในรอบนี้เป็นการแข่งระหว่างรถหมายเลข 304 และหมายเลข 313 ที่ Bye ไปอย่างน่าเสียดาย
และในรอบชิงของรุ่น All New Isuzu Pro Turbo 3000 ปรากฎว่า รถหมายเลข 312 ที่ขับโดย สรายุทธ แพงพันธ์ สามารถเอาชนะคู่แข่งในรถหมายเลข 304 ได้สำเร็จ ซึ่งฝ่ายหลังออกตัวฟาล์วไปอย่างน่าเสียดาย คว้าแชมป์ในรุ่นนี้ไปครอง และอันดับที่สามตกเป็นของรถหมายเลข 301 โดยคู่แข่งขอ Bye ในรอบนี้ไป
1 สรายุทธ แพงพันธ์ ทีมหนุ่ย เป๋อ สุพรรณ 8.976 วินาที
2 ประสิทธิ์ สุวรรณพัตร ทีมดี๋ดี๋ อะไหลแต่งคลองห้า เป้คลอง 9 F
3 สุวรรณ กุสลางกูลวัฒ ทีมอู่ช่างวัฒน์ ชลบุรี 0.000 วินาที
Isuzu D-Max Pro F55
ต่อกับรุ่นใหญ่อีกรุ่นที่แข่งขันอย่างต่อเนื่องกับรุ่น Isuzu D-Max Pro F55 น่าจะเรียกว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ ก็ว่าได้เพราะรุ่นนี้ยังอยู่บนพื้นฐานรถบ้านมากที่สุดก่อนขยับไปรุ่นใหญ่ และงานนี้มีรถลงแข่งชิงชัยกันทั้งหมด 8 คัน ตามกติกาวิ่งคู่ โดยคู่แรกเป็นการแข่งของรถหมายเลข 407 ขับโดย เป็นเอก เพ็งวัน และรถหมายเลข 408 ของ ศุภชัย คงมั่ง ผลปรากฎว่าฝ่ายแรก ฟาล์วไปอย่างน่าเสียดาย ส่วนคู่ที่สอง เป็นการแข่งระหว่างรถหมายเลข 406 ของ พิสิทธ์อนันต์ ตันจัตุรงค์ ผลปรากฎว่าฝ่ายแรกผ่านเข้ารอบไป มาถึงคู่ที่สาม เป็นการแข่งระหว่างรถหมายเลข 404 ของ อนุรักษ์ โตมร กับ ธนพล ชูเจริญผล ในรถหมายเลข 405 ซึ่งเป็นทาง ธนพล ผ่านเข้ารอบไปเพราะ คู่แข่ง Bye ในรอบนี้ มาถึงคู่สุดท้ายในรอบ 8 คัน เป็นการวิ่งของรถหมายเลข 403 ของ อนุวัฒน์ มณีอินทร์ กับรถหมายเลข 402 ของ อิสระพงษ์ อบอุ่น และเป็นทางฝ่าย อนุวัฒน์ ที่ผ่านเข้าไปรอบสี่คัน
ในรอบสี่คันคู่แรกเป็นการแข่งของรถหมายเลข 408 กับรถหมายเลข 406 และเป็นทาง พิสิทธ์อนันต์ ที่ Bye ส่งผลให้ ศุภชัย ผ่านเข้าไปรอชิงเป็นคันแรก คู่ต่อมาเป็นการแข่งระหว่างรถหมายเลข 405 กับ 403 และเป็นทางฝ่ายหลังที่ออกตัวฟาล์วไปอย่างน่าเสียดายทำให้ ธนพล ในรถหมายเลข 405 เข้าไปชิงกับ ศุภชัยในรถหมายเลข 408
และผู้ที่สามารถคว้าแชมป์ในรุ่นนี้มาครองได้สำเร็จเป็นรถหมายเลข 405 ธนพล ชูเจริญผล จากเอ้ เรซซิ่ง การาจเอาชนะคู่แข่งอย่าง ศุภชัย ในรถหมายเลข 408 ไปแบบไม่ต้องออกแรงมากนักเพราะอีกฝ่ายออกตัวฟาล์ว ส่วนอันดับที่สามตกเป็นของ อนุวัฒน์ มณีอินทร์ โดยคู่แข่ง Bye ในรอบนี้
1 ธนพล ชูเจริญผล ทีมเอ้ เรซซิ่ง การาจ 10.237 วินาที
2 ศุภชัย คงมั่ง ทีมต้นคอมมอลเรล F
3 อนุวัฒน์ มณีอินทร์ ทีมหนุ่ย เป๋อสุพรรณ ดา อะไหล่สด 0.000 วินาที
Isuzu D-Max Pro Modify
การแข่งในค่ำคืนนี้ยังไม่จบ ต่อด้วยรุ่น Isuzu D-Max Pro Modify ต้องบอกว่ารุ่นนี้น่าจะเป็นการวิ่งโชว์ก็ว่าได้ เพราะรถหมายเลข 501 ของ วุฒิกร บัวล้ำเลิศ นั้นทำคะแนนสะสมทิ้งห่างอันดับสองไปแบบไม่ต้องแข่ง แต่งานนี้ต้องออกมาวิ่ง เอาเวลา 2 Run โดยคันที่ออกมาวิ่งเป็นคันแรก รันแรก คือรถหมายเลข 503 ขับโดย ธนพล ชูเจริญพล ทำเวลาไว้ 7.984 วินาที คันที่สองเป็นรถหมายเลข 505 ขับโดย อนุวัฒน์ มณีอินทร์ ทำเวลาในรันนี้ไว้ 7.890 วินาที คันที่สาม เป็นรถหมายเลข 501 ขับโดย วุฒิกร บัวล้ำเลิศ ทำเวลาในรันนี้ไว้ที่ 9.204 วินาที และคันสุดท้าย หมายเลข 504 ของ เป็นเอก เพ็งวัน DNF ไม่มีเวลา
ส่วนในรันที่สอง ธนพล ชูเจริญพล ทำเวลาไว้ 7.502 วินาที คันที่สอง อนุวัฒน์ มณีอินทร์ ทำเวลาในรันนี้ไว้ 8.663 วินาที และคันที่สามของ วุฒิกร บัวล้ำเลิศ ทำเวลาดีขึ้นเป็น 8.221 วินาที ซึ่งจากการวิ่งทั้งสองรัน ส่งผลให้ ธนพล ชูเจริญพล ที่ทำเวลาไว้ 7.502 วินาที ในรันที่สองรับแชมป์ไปครองได้
1 ธนพล ชูเจริญผล ทีมกุ๊ก จันทรบุรี อู๊ดอ๋อง ระยอง 10.237 วินาที
2 อนุวัฒน์ มณีอินทร์ ทีมหนุ่ย เป๋อ สุพรรณ จ๊ะผักสด ต้นคอมมอลเรล 7.890 วินาที
3 วุฒิกร บัวล้ำเลิศ ทีมเอ๋ เทอร์โบ 8.221 วินาที
All New Isuzu D-Max Open Unlimited
เปลี่ยนอารมย์มาดูรุ่นใหญ่สุดในคราบรถบ้าน แต่จริงแล้วรถทุกคันเป็นสเปรซเฟรมทั้งหมด แถมยังวิ่งในพิกัด 7 วินาที แถมรุ่นนี้ยังมีเซอร์ไพรส์ให้เห็นแทบทุกครั้งที่ลงวิ่งทำเวลา สามารถเรียกเสียงฮือฮาได้ทุกครั้ง และในรอบชิงชนะเลิศมีรถที่ผ่านเข้ามาวิ่งในรอบชิงทั้งหมด 4 คัน ซึ่งแน่นอนว่ารถที่จะเข้ามาวิ่งในรอบนี้ต้องวิ่งอย่างน้อย 1 สนามตามกฎที่วางไว้ และในรอบชิงชนะเลิศนี้ต้องวิ่ง 2 Run เอาเวลาดีที่สุด และ รันแรกเป็นการวิ่งของรถหมายเลข 608 ขับโดย ธนพล ชูเจริญผล ทำเวลาไว้ที่ 7.388 วินาที ตามด้วยรถหมายเลข 602 ของมนตรี ดีเซล ทำเวลาในรันนี้ไว้ที่ 8.834 วินาที คันที่สาม เป็นรถหมายเลข 604 ขับโดย ชูเกียรติ ปล่อยเข้าเส้นไป 45.683 วินาที คันสุดท้ายเป็นรถหมายเลข 609 ของเจี๊ยบ เซอร์วิส ทำเวลาไว้ 8.838 วินาที
รันที่สอง ธนพล ชูเจริญผล ไม่วิ่งซึ่งจะเอาเวลาที่ทำไว้เท่านั้น ตามด้วยรถหมายเลข 602 ของมนตรี ดีเซล ทำเวลาในรันนี้ไว้ที่ 7.726 วินาที คันที่สาม เป็นรถหมายเลข 604 ขับโดย ชูเกียรติ รอบนี้เอาเวลาที่ 8.409 วินาที คันสุดท้ายเป็นรถหมายเลข 609 ของเจี๊ยบ เซอร์วิส รันนี้ Bye เมื่อดูจากเวลาที่ทำไว้ ทำให้ ธนพล ชูเจริญผล รับแชมป์ในรุ่นไปครองได้สำเร็จ
1 ธนพล ชูเจริญผล ทีมโน๊ตนัท ออโต้คาร์ระยอง 7.388 วินาที
2 ทีมมนตรี ดีเซล 7.726 วินาที
3 ชูเกียรติ ทีมวราศักดิ์ อะไหล่ยนต์ โปรสปีด 8.409 วินาที
Isuzu Dragster Diesel
ปิดท้ายกับรุ่นใหญ่สุดแรงสุด Isuzu Dragster Diesel เรียกว่าเป็นไฮไลต์ใหญ่ที่สร้างความเร้าใจได้ทุกครั้งที่ลงแทร็ก และเป็นอีกรุ่นที่ใช้กฎการวิ่งอย่างน้อย 1 สนาม เพื่อมีสิทธิเข้ามาวิ่งในรอบชิงชนะเลิศครั้งนี้ และในรอบนี้ต้องวิ่งเพียง 1 Run โดยรถที่ลงวิ่งเป็นคันแรก คือ รถหมายเลข 701 ของ วุฒิกร บัวล้ำเลิศ ทีมเอ๋ เทอร์โบ ทำเวลาไว้ที่ 7.823 วินาที ทว่างานนี้ รถหมายเลข 702 ขับโดย ธนพล ชูเจริญผล จาก เบิร์ดหลักห้า ทำผลงานได้ดีกว่า กับเวลา 7.668 วินาที รับแชมป์ในรุ่นสุดท้าย ปิดท้าย การแข่งขันรถกระบะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเซียรายการ Isuzu Race Spirit 2022 ไปอย่างสุดมันส์
1 ธนพล ชูเจริญผล ทีมเบิร์ด หลักห้า 7.668 วินาที
2 วุฒิกร บัวล้ำเลิศ ทีมเอ๋ เทอร์โบ 7.823 วินาที