Drifter นามว่า Ahmad Daham ชาว จอร์แดน กับ Lexus RC F Slide Machine ระดับ 1,200 ม้า
รูปลักษณ์ภายนอกเรียกว่าสุดในรุ่น แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีให้เห็นแล้วก็ตาม สำหรับ Lexus RC F Slide Machine คันนี้มีเปลือก Custom เป็นวัสดุ Carbon Kevlar แท้ๆ ทรง Rocket Bunny ส่วนภายในประกอบด้วยอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการใช้งานลักษณะนี้ โดดเด่นด้วยงานสร้างบริเวณคอนโซลหน้าด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ ที่นั่งทรงกระชับวัสดุ คาร์บอนเคฟล่าร์จริงของ Sparco เช่นเดียวกับพวงมาลัย รัดคนขับให้แน่นด้วยเข้มขัดนิรภัยแบบ 6 จุดของ Schroth จบด้วย แป้นเหยียบยกชุดของ Tilton
เปลือก Custom วัสดุ Carbon Kevlar แท้ๆ ทรง Rocket Bunny
งานนี้สเตปเทพกับการอัพเกรดเครื่องยนต์ 2JZ-GTE VVFT-i เพื่อรองรับการขับอันดุดันของ Drifter นามว่า Ahmad Daham ชาว จอร์แดน ที่ต้องลงฟาดฟันกับเหล่าบรรดา Drifter ใน Formula Drift ผลงานการสร้างนี้จาก NMK Performance ตามสเปคที่เปิดเผย ในส่วนของระบบอัดอากาศก่อนเข้าห้องเผ้าไหม้ใช้เทอร์โบ Garrett GTX3584RS ต่อกับไอเสียงานสร้างใหม่ทั้งหมด กับท่อทางเดินขนาด 3.5 นิ้ว ส่วนการคุมแรงดันบูสต์ด้วยเวสเกทขนาด 60 มิลลิเมตร ของ TiAL ลดอุณหภูมิก่อนด้วยอินเตอร์คูลเลอร์ 3.5 นิ้ว อากาศที่ได้ไหลผ่านไปยังท่อรวมขนาดใหญ่ของ Hypertune ก่อนเข้าห้องเผาไหม้
ในส่วนของ ฝาสูบหรือท่อนบน มีชุดวาล์ว สปริงวาล์ว รีเทนเนอร์ ของ GSC Power Division แคมชาร์ฟ 272 ผลิตภัณฑ์จากแบรนด์เดียวกัน งานนี้ต้องแรงหล่อ เลยจัดฝาครอบวาล์วแบบชุบ Anodized มาตกแต่งเพิ่มความลงตัว ท่อนล่างมาพร้อมลูกสูบขนาด 87 มิลลิเมตรของ CP สร้างกำลังอัดที่ 10:1 พร้อมก้านสูบ และเพลาข้อเหวียงของ BC
ลูกสูบขนาด 87 มิลลิเมตรของ CP สร้างกำลังอัดที่ 10:1 พร้อมก้านสูบ
ระบบเชื้อเพลิงต้องมาควบคู่กับอากาศที่เริ่มมากกว่าปกติ หัวฉีดขนาด 1,700 ซีซี. ของ Injector Dynamics ถูกนำมาใช้งานในครั้งนี้ ป้อนเชื้อเพลิงด้วยปั๊มแรงดันสูงแบบอิเล็กทรอนิก 3 ตัวในถังนิรภัยขนาด 40 ลิตร รวมไปถึง Surge Tank หรือที่เรานิยมเรียกถัง A รวมอยู่ในชุดเดียวกันซึ่งเป็นของ Radium Engineering ระดับความแรงไม่ใช่ว่าคันอื่นจะไม่มีงานนี้ต้องเสริมด้วยสารเย็น Nitrous Express kit งานนี้จำเป็นต้องมีตัวช่วยระบายความร้อนของเหลวภายใน Oil Coolers ของ Mocal แบบ 25 แถวจึงถูกนำมาใช้ รวมถึงชุดไหลเวียนน้ำมันเครื่องแบบ Dry Sump ที่ไว้ใจของ Titan Motorsports stage 5 และแน่นอนว่า ระบบควบคุมการสั่งจ่ายเชื่อเพลิง รวมถึงไฟจุดระเบิดจะต้องมีคถุณภาพสูง โดยศึกนี้ได้เลือกใช้กล่อง ECU ของ Link Thunder ECU แสดงผลผ่านจอที่ติดตั้งไว้ที่คอลโซนสร้างใหม่
เฟืองท้าย Winters Performance แบบถอดประกอบได้เร็วเหมาะกับการแข่งขัน
ระบบส่งกำลังเป็นการทำงานร่วมกับเกียร์ Sequentia แบบ 4 Speed ตัดต่อกำลังแรงบิดกว่า 1,470 นิวตัน-เมตร กับครัทช์ 215 Victory Series ของ Competition กำลังที่ได้ถูกส่งผ่านเพลากลางคาร์บอนไฟเบอร์ ไปที่เฟืองท้าย Winters Performance แบบถอดประกอบได้เร็วเหมาะกับการแข่งขัน งานนี้ไปได้สุดทุกโค้งแบบไม่ต้องกังวล มาพร้อมล้อของ RAYS Gram Lights 57 CR ขนาด 18 นิ้ว กว้าง 9.5 นิ้ว ส่วนด้านหลังขนาด 19 นิ้ว กว้าง 10 นิ้ว ส่วนยางที่ใช้เป็นของ TOYO รุ่น Proxes R888 R ด้านหน้าขนาด 255/35 R18 ส่วนด้านหลังเป็นขนาด 285/35 R19
ชุดอาร์ม FIGS Engineering
RAYS Gram Lights 57 CR
ส่วนช่วงล่างเป็นของ BC Racing ที่เป็นช็อคอับแบบ 3 ทางกับสปริงคุณภาพสูง ทำงานร่วมกับชุดอาร์ม FIGS Engineering สุดท้ายกับ ชุดเบรกคุณภาพสูงจาก Wilwood คาลิเปอร์หน้าแบบ 6 สูบที่ด้านหน้า ส่วนด้านหลังเป็นแบบ 4 สูบ ทำงานร่วมกับเบรกมือไฮดราลิกของ ASD
สำหรับ Lexus RC F Slide Machine ความดุร้ายระดับ 1,200 ม้า ที่แฝงกายในดินแดนปลายกริช จอร์แดนคันนี้สามารถสร้างพละกำลังในการขับเคลื่อนได้มากถึง 1,200 แรงม้ากับแรงบิด 1,470 นิวตัน-เมตร สูงกว่ารถบรรทุกคันโต และสามารถลากรอบไปแตะที่ 9,000 ได้อย่างสบาย งานนี้เราคงต้องจับตาดูว่าผลงานจะออกมาเป็นอย่างไร แต่อย่าลืมว่าอสูรกายตัวอื่นก็พร้อมออกมาสู้ด้วยกำลังเกิดพันม้าด้วยเช่นกัน
