หลังจากที่ข่าวผู้สูงอายุขับขี่รถยนต์เกิดอุบัติเหตุหลายครั้ง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยบ่อยๆ ดังนั้นทางกรมขนส่งจีงเตรียมมาตราการณ์เรียกผู้ที่ถือใบอนุญาตแบบตลอดชีพ หรือเรียกภาษาชาวบ้านว่าใบขับขี่ตลอดชีพ เพราะส่วนใหญ่ผู้ที่ถือใบขับขี่ตลอดชีพ ในปัจจุบันนั้นส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ ดังน้้นเพื่อยับยั่้งการเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดทางกรมขนส่งทางบกจึงมีแนวคิดจัดโครงการ “Recall” เรียกผู้ถือใบอนุญาตขับขี่แบบตลอดชีพ กลับมาแสดงตัวที่ขนส่งทางบกทั่วประเทศ และทำการทดสอบสมรรถภาพความพร้อมในการขับขี่ เพราะเมื่ออายุมากขึ้น แต่สภาพร่างกาย เช่น การมองเห็น และการได้ยิน อาจไม่สมบูรณ์เหมือนเก่า ซึ่งก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ โดยถ้าไม่ผ่านเกณฑ์ ก็มีสิทธิ์โดยยึดใบขับขี่คืนได้
โดยทางคุณ จิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยถึงกรณีอุบัติเหตุบนท้องถนน ที่หลายครั้งเกิดจากผู้ขับขี่ที่ไม่พร้อม เช่น อายุมาก และผู้ขับขี่กลุ่มนี้มักมีใบขับขี่ชนิดตลอดชีพนั้น กรมขนส่งมีแนวคิดที่จะมีการเรียกให้ผู้ขับขี่รถยนต์แบบตลอดชีพกลับมาทดสอบสมรรถนะในการขับรถใหม่อีกครั้ง เพราะเมื่ออายุมากขึ้น แต่สภาพร่างกาย เช่น การมองเห็น และการได้ยิน อาจไม่สมบูรณ์เหมือนเก่า ซึ่งก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ สัปดาห์หน้า จะมีการหารือร่วมกับ คุณ จันทิรา บุรุษพัฒน์ รองอธิบดีฝ่ายปฏิบัติการ กรมการขนส่งทางบก จึงมีแนวคิดที่จะจัดโครงการเรียกผู้ขับขี่รถ และมีใบอนุญาตแบบตลอดชีพกลับมาทดสอบสมรรถนะการขับรถใหม่อีกครั้งกับขนส่งทางบก หรือเรียกว่า “Recall” เพื่อให้ผู้ถือใบอนุญาตขับขี่แบบตลอดชีพ กลับมาแสดงตัวที่ขนส่งทางบกทั่วประเทศ และทำการทดสอบสมรรถภาพความพร้อมในการขับขี่ เพื่อใช้ใบอนุญาตขับขี่ฉบับนั้นต่อไป
แต่หากผู้ถือใบอนุญาตรายใด สภาพร่างกายไม่สามารถขับรถได้แล้ว และอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุในการขับขี่บนท้องถนน ก่อให้เกิดอันตรายทั้งกับตัวเองและผู้ใช้รถคนอื่น ก็จะพิจารณาว่า จะต้องมีการยกเลิกใบอนุญาตของบุคคลนั้นหรือไม่ต่อไป ทั้งนี้ ยอมรับว่ามาตรการดังกล่าวอาจจะกระทบสิทธิของผู้ใช้รถที่ถือใบอนุญาตขับขี่ตลอดชีพบ้าง แต่ก็เป็นไปเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้รถส่วนรวม ปัจจุบันคาดว่ามีผู้ถือใบขับขี่ประเภทดังกล่าวประมาณล้านใบ หลังจากยกเลิกไปเมื่อปี 2546
การยกเลิกไม่ออกใบอนุญาตขับขี่แบบตลอดชีพ ได้นำมาใช้ตั้งแต่ปี 2546 อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันยังมีผู้ถือใบอนุญาตขับขี่ตลอดชีพอีกจำนวนมาก คาดว่าอาจเป็นล้านใบ ซึ่งก็เชื่อว่าจะสามารถตรวจสอบตัวเลขได้ชัดเจนจากโครงการ Recall ดังกล่าวด้วย โดยโครงการจะสามารถเริ่มต้นได้เมื่อใดนั้น จะพิจารณาช่วงเวลาที่เหมาะสมอีกครั้ง