Land Rover Defender 90 จัดเป็นหนึ่งในรถออฟโรดที่มีรูปลักษณ์ที่คลาสสิคเป็นอย่างมาก และเป็นที่ต้องการของใครหลายๆ ท่านที่อยากได้มาไว้ครอบครองในสภาพที่สมบูรณ์แบบ แต่ในปัจจุบันในสภาพแบบกริ๊บๆ สวยแบบนางฟ้าคงหาได้ยากอยู่พอสมควร ล่าสุดได้มีผู้เชี่ยชาญด้านการแต่งรถสัญชาติอเมิกันที่ชื่อว่า Twisted Automotive ได้ผุดโครงการชุบชีวิต Defender 90 ให้กลับมาชีวิตชีวา ด้วยรูปร่างที่ดูทันสมัย และแข็งแกร่ง ที่สำคัญมากับขมพลังขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100 % ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยทาง Twisted Automotive จะผลิตขึ้นมาในจำนวนจำกัดเพียง 30 คันเท่านั้น พร้อมกับตั้งชื่ออย่างเป็นทางการว่า Twisted NAS-E 4×4
ชื่อของ Twisted NAS-E 4×4 ออฟโรดแนวซาฟารีรุ่นใหม่นี้ มาจากที่ทาง Twisted Automotive ได้จับเจ้า Land Rover Defender 90 ที่เป็นรุ่นฐานล้อสั้น หรือรุ่น North American Specification (NAS) เป็นแบบหลังคา Soft Top มาปรับแต่งใหม่ ปรับเปลี่ยนจากขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมัน มาเป็นพลังงานไฟฟ้าล้วนๆ โดย Twisted NAS-E 4×4 ถูกสร้าง และผลิตขึ้นด้วยมือ พร้อมกับตีตราหมายเลขบอก่าเป็นรุ่นพิเศษมีจำนวนจำกัดเพียง 30 คันเท่านั้น โดยทุกคันได้ถูกสร้างอย่างถูกต้อง ตามข้อกำหนด และกฎของรถที่ระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าในอเมริกาเหนือ และของทาง California CARB
Twisted NAS-E 4×4 จะมีให้เลือกด้วยกัน 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น NAS-E และ NAS-E Plus โดยทุกรุ่นจะมากับมอเตอร์ไฟฟ้า Remy BorgWarner แต่ให้กำลังที่ต่างกันในรุ่น NAS-E จะให้กำลังสูงสุดอยู่ที่ 214 แรงม้า แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 380 นิวตัน-เมตร ส่วนในรุ่น NAS-E Plus ที่เป็นรุ่นแรงกว่าจะให้กำลังแรงม้าอยู่ที่ 320 แรงม้า มาพร้อมกับแรงบิด 420 นิวตัน-เมตร ซึ่งทุกรุ่นจะเป็นแบบระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD ด้านแบตเตอรี่จะมีขนาด 60 kWh โดยทาง Twisted Automotive เคลมว่าจะสามารถวิ่งได้ไกล 322 กม. ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง
นอกจากได้ปรับเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนใหม่ทั้งหมดแล้วทาง Twisted Automotive ก็ได้ปรับเปลี่ยนในส่วนระบบช่วงล่างใหม่เป็นแบบปรับระดับได้ ด้านระบบเบรคก็ปรับใหม่เช่นกันโดยติดตั้งชุดเบรค Twisted Performance ของทางค่าย ที่เป็นชุดเบรคหน้าจะเป็นแบบ 6 พอต ด้านหลังเป็นแบบ 4 POD พร้อกับเปลี่ยนมาใช้ผ้าเบรค PAGID RS 29 คุณภาพสูงที่เบรคห้ามล้อแบบมั่นใจ อีกทั้งยังเสริมความปลอดภัยด้วยการคิดตั้ระบบเบรค ABS และระบบ TCS ที่เป็นระบบป้องกันล้อหมุนฟรี อีกด้วย
Twisted NAS-E 4×4 จะมีให้เลือกด้วยกัน 3 สี โดยแต่ละสีจะถูกตั้งชื่อตามสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ในรัฐ California (แคลิฟอร์เนีย)
ไม่ว่าจะเป็นชายหาด Malibu, อุทยานแห่งชาติ Yosemite และทะเลสาบ Tahoe ซึ่งแต่ละรุ่นจะถูกผลิตออกมารุ่นละ 10 คัน โดยทุกรุ่นจะได้รับล้ออัลลอยทรง 5 ก้านสีเงิน Twisted Sport Wheels, เติมเต็มภาพลักษณ์รถสไตล์ซาฟารีด้วย NAS Roll Cage รอบคัน และหลังคาผ้า
ส่วนในรุ่น NAS-E Plus จะได้รับเพิ่มเติมในส่วนโครงเหล็กที่ติดตั้งอยู่หน้ากระจังหน้า, บันไดด้านข้าง, ชุดสปอร์ตไลท์ 4 ดวง ที่ติดอยู่บนโครงเหล็กด้านหน้าบนกระจกบานหน้า, สติกเกอร์ตกแต่งด้านข้างตัวถัง, ชุดตกแต่งกาบประตูที่เป็นสีดำ
ภายในห้องโดยสารนั้นก็ได้รับการอัพเกรดด้วยเช่นกัน ให้ดูทันสมัยมากยิ่งขึ้น เริ่มจากเบาะนั่งหุ้มด้วยหนังสีครีม เสริมความหรูหราด้วยการตกแต่งและหุ้มด้วยหนัง Alcantara ในบางส่วน, เบาะนั่งแถวที่ 2 และ 3 เป็นแบบหันเข้ากัน และสามารถพับเก็บได้, ระบบ Infotainment มากับหน้าจอแบบสัมผัส ที่จะเป็นหน้าจอแสดงการทำงานของระบบไฟฟ้า มาพร้อมระบบนำทาง ระบบเครื่องเสียงจะมากับลำโพงถึง 8 ทิศทาง, กล้องมองหลังแบบ Wide Angle เน้นมุมมองที่กว้างขวาง, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ เป็นต้น
Twisted NAS-E 4×4 ออฟโรดสายลุยพลังไฟฟ้า จะมีให้เลือก 2 รุ่น NAS-E และ NAS-E Plus โดยจะมีราคาอยู่ที่ 185,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 5.82 ล้านบาท สำหรับรุ่น NAS-E ส่วนในรุ่นตกแต่งอุกปรณ์เพิ่ม NAS-E Plus จะอยู่ที่ 210,000 เหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยจะอยู่ที่ราว 6.61 ล้านบาท โดยทั้ง 2 รุ่นย่อยนี้ จะถูกผลิตออกมาในจำนวนจำกัดเพียง 30 คันเท่านั้น