โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส แบงคอก ได้เปิดตัว Rolls-Royce Cullinan Black Badge มาพร้อมภาพลักษณ์เคร่งขรึม และสุขุมลุ่มลึกที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Black Badge โดย Cullinan Black Badgeอ นี้เป็นลำดับที่ 3 ที่เข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยต่อจาก Wraith Black Badge ที่เปิดตัวไปในช่วงปี 2559 และ Ghost Black Badge ในช่วงปี 2560 โดยการมาของ Cullinan Black Badge จัดว่าเป็นการเติมเต็มทัพยนตกรรมหรูในตระกูล Black Badge ในเมืองไทย
Rolls-Royce Cullinan Black Badge ได้ฉายาว่าเป็น ราชันย์แห่งรัตติกาล (The King of the Night) โดย Rolls-Royce นั้นมีสีตัวถังให้ลูกค้าเลือกกว่า 44,000 เฉด หรือจะสั่งผลิตสีพิเศษตามต้องการก็สามารถทำได้ อย่างไรก็ดี ลูกค้ามักเลือกสีดำอันเป็นเอกลักษณ์ของ Black Badge ที่ผ่านการพ่นอย่างประณีตหลายชั้น และขัดด้วยมือถึง 10 รอบ ณ Home of Rolls-Royce ในกู๊ดวูด เวสต์ซัสเซ็กซ์ ความลุ่มลึก และเคร่งขรึมของสีตัวถัง เปรียบดังผืนผ้าใบ ที่รองรับการวาดเส้น Coachline ด้วยมือ โดยใช้สีที่ตัดกัน เพิ่มความโดดเด่นแบบเดียวกับงานศิลปะ
ด้านหน้าเป็นจุดที่อัตลักษณ์แห่ง Black Badge ได้ตั้งอยู่อย่างสง่างาม คือ สัญลักษณ์สปิริต ออฟ เอ็กสตาซี ซึ่งครั้งนี้ถูกรังสรรค์ขึ้นด้วยโครเมียมรมดำเคลือบผิวไฮกลอส และเป็นครั้งแรกที่ฐานของนางฟ้าก็ใช้วัสดุเดียวกัน
รวมไปถึงส่วนอื่นๆ อาทิ โลโก้ ‘RR’ รอบคัน ที่ถูกเปลี่ยนเป็นลายเส้นสีเงินบนพื้นดำ ขณะที่กรอบกระจังหน้า กรอบหน้าต่าง มือจับประตูและฝาท้าย กรอบช่องดักอากาศด้านล่าง รวมถึงท่อไอเสียถูกพ่นสีเข้ม ส่วนกระจังหน้ารถแม้จะเป็นสีดำ แต่ยังคงความเงางาม ทำให้เด่นชัดขึ้นด้วยกรอบสีดำโดยรอบ เพิ่มความเด่นชัดของการเคลื่อนไหว ที่บ่งบอกเป็นนัยถึงเจตคติอันทรงพลัง
ภายในห้องโดยสารของ Rolls-Royce Cullinan Black Badge จัดเป็นที่สุดแห่งความสะดวกสบาย ที่มาพร้อมดีไซน์อันห้าวหาญ โดยผู้เชี่ยวชาญในทีม Colour and Trim บรรจงคัดสรรองค์ประกอบทางวิศวกรรมของ Black Badge มานำเสนอ โดยผสมผสานความสะดวกสบายขั้นสูงสุด สุนทรียภาพ วัสดุที่ล้ำสมัย เข้ากับงานฝีมืออันวิจิตรบรรจง
แนวคิดนี้ถูกนำมาปรับใช้อย่างลงตัวกับแผงวีเนียร์เทคนิคัลคาร์บอน ที่ทำตามหลักปรัชญาของเซอร์ เฮนรี รอยซ์ ที่ว่า ‘หากสิ่งใดไม่มีอยู่ จงออกแบบมันขึ้นมา’ ความร่วมมือระหว่างทีมนักออกแบบ วิศวกร และช่างฝีมือ ก่อให้เกิดชิ้นงานใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ด้วยแรงบันดาลใจจากผลงานชิ้นเอกของสถาปัตยกรรมสมัยใหม่
โดยถักทอคาร์บอนไฟเบอร์ให้เป็นลวดลายเรขาคณิต ก่อเกิดพื้นผิว 3 มิติ อันทรงพลัง เทคนิคัลคาร์บอน 23 ชิ้น เคลือบแลกเกอร์ 6 ชั้น ก่อนถูกพักไว้ 72 ชั่วโมง จากนั้นจึงนำมาขัดด้วยมือ จนเรียบเนียนเหมือนกระจก ขั้นตอนทั้งหมดใช้เวลา 21 วัน และผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียดโดยเหล่าช่างฝีมือ เพื่อให้มั่นใจได้ถึงความเงางามสม่ำเสมอกันทั้งชิ้น
เพดาน Starlight Headliner ช่วยสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร ด้วยแสงเรืองรองที่ส่องลงบนเบาะหนังสุดหรู เพดานที่ผลิตด้วยหนังแท้สีดำคุณภาพสูง ประกอบด้วยแสงสว่างจากเส้นไยไฟเบอร์ออฟติกที่ร้อยด้วยมือจำนวน 1,344 จุด สะท้อนบรรยากาศท้องฟ้ายามราตรี และมีลูกเล่นดาวตกสีขาวจำนวน 8 ดวง ที่พุ่งผ่านเพดานหลากทิศทาง รวมถึงบริเวณเพดานเหนือที่นั่งด้านหน้า สะท้อนถึงเสน่ห์ของยนตรกรรม ที่ให้ความสำคัญกับผู้ขับได้เป็นอย่างดี
Cullinan Black Badge มอบทางเลือกสำหรับการตกแต่งห้องโดยสารแบบไร้ขีดจำกัด โดยรถคันนี้ใช้หนังแท้สีเหลืองสด ฟอร์จ เยลโลว (Forge Yellow) ซึ่งสามารถนำไปใช้ตามจุดต่างๆ ของห้องโดยสารได้ตามชอบ ไม่ว่าจะเป็น ที่นั่งชมวิว (Viewing Suite) หรือบริเวณพื้นที่เก็บสัมภาระ ‘Recreation Module’ ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้า
องค์ประกอบสุดท้ายที่เติมเต็มห้องโดยสาร ได้แก่ สัญลักษณ์อินฟินิตี ที่ปักลงบนที่พักแขนแบบพับได้บริเวณเบาะหลัง สัญลักษณ์อันเรียบง่ายแต่ทรงพลังนี้ ยังถูกใช้สลักบนแผ่นโลหะเรืองแสง และบนกรอบโลหะสีเข้มของนาฬิกา ซึ่งปลายเข็มนาฬิกาสีแดงและหน้าปัด ล้วนสะท้อนถึงพลังอันน่าเกรงขาม
อีกไฮไลท์ของ Cullinan Black Badge ได้แก่สถาปัตยกรรมแห่งความหรูหรา (Architecture of Luxury) เป็นโครงสร้างตัวถังอะลูมิเนียมของ Rolls-Royce ที่เปิดตัวพร้อม Phantom เจเนอเรชัน ล่าสุด จุดเด่นคือ ความแข็งแกร่งแต่ยืดหยุ่น รองรับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และเลี้ยว 4 ล้อ พร้อมปรับแต่งใหม่ เพื่อให้ Cullinan Black Badge มีสมรรถนะไร้เทียมทาน
ด้านพละกำลังของ Cullinan Black Badge ขุมพลังเครื่องยนต์เครื่องยนต์เบนซินทวินเทอร์โบ V12 สูบ 6.75 ลิตร ที่ได้รับการเพิ่มศักยภาพใหม่ ผ่านการปรับแต่งเพิ่มกำลังจากรุ่นปกติ 29 แรงม้า รวมเป็น 592 แรงม้า แรงบิด 900 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ควบคุมผ่านดาวเทียม (Satellite Aided Transmission) พร้อมช่วงล่างถุงลมที่นุ่มนวลดุจพรมวิเศษ (Magic Carpet Ride) และมีการทรงตัวที่ดี ในทุกสภาพเส้นทาง
ท่านผู้สนใจร่วมสัมผัสตัวจริงของยนตกรรมสุดหรูจากประเทศอังกฤษได้ที่ในงาน เอ็มจีซี-เอเชีย ออโต เฟสต์ 2020 โดยภายในงานนี้นอกจากจะได้เจอตัวจริงของ Rolls-Royce Cullinan Black Badge ที่มาพร้อมเสนอสุดพิเศษ ให้กับลูกค้าที่จองรถในงาน และส่งมอบภายในเวลาที่กำหนด โดยร่วมมือกับพันธมิตรยักษ์ใหญ่ สยามพารากอนมอบ Siam Paragon Gift Card มูลค่าสูงสุด 200,000 บาท, ลูกค้าธนาคารไทยพาณิชย์ รับคะแนนสะสม SCB Rewards 40 เท่า, ขับฟรีปีนี้ เริ่มผ่อนปีหน้า ผ่อนเงินดาวน์สูงสุด 4 เดือน นอกจากนั้นยังมีคูปองรถเช่าทั่วไปไทย รวมไปถึง ซิกท์ ลิมูซีน เซอร์วิส อีกด้วย
นอกจากนั้น ยังมีการนำ Rolls-Royce Wraith และ Phantom มาจัดแสดง พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษ อาทิ ดินเนอร์สุดหรู 2 ท่าน ที่ร้าน COTE บริหารโดยเชฟระดับมิชลินสตาร์ 3 ดาว Mauro Colagreco ณ โรงแรม Capella Bangkok ริมแม่น้ำเจ้าพระยา, แพ็กเกจที่พักโรงแรมบันยันทรี ภูเก็ต 4 วัน 3 คืน พร้อมทริปล่องเรือยอทช์ และลิมูซีนรับ-ส่งสนามบิน มูลค่ากว่า 150,000 บาท, เพิ่มมูลค่ารถเทรด-อิน และผ่อนชำระสบายๆ กับ Rolls-Royce Cullinan 392,000 บาท/เดือน และ Wraith 345,000 บาท/เดือน สำหรับลูกค้าที่จองรถภายในงานเท่านั้น โอกาสดีๆ แบบนี้ทราบแล้วอย่ารอช้า แล้วมาพบกันที่งาน MGC-ASIA AUTO FEST 2020 ระหว่างวันที่ 18-28 มิถุนายน ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน
ส่วนราคาจำหน่ายของ Rolls-Royce Cullinan Black Badge จะมีราคาเริ่มต้น 37.8 ล้านบาท