หลายคนสงสัยว่าทำไม Mitsubishi Eclipse ถึงไม่ได้มี Logo สามเพชร นั่นเป็นเพราะ Mitsubishi Eclipse หรือ Eagle Talon ไม่ได้เกิดจาก ค่าย Mitsubishi แต่เป็นรถยนต์ที่ได้รับความร่วมมือสองค่ายใหญ่ ระหว่าง Mitsubishi กับ Daimler ตอนนี้คงหายสงสัยกันไปบ้าง
แล้วถ้ารถที่เห็นอยู่นี้ถูกชาวต่างชาติเรียกว่า DSM Car งานนี้คงต้องหาคำตอบกันอีกครั้ง DSM ย่อมาจาก Diamond-Star Motors ซึ่งเป็น บริษัท ร่วมทุนระหว่าง Chrysler และ Mitsubishi ก่อตั้งขึ้นในปี พ. ศ. 2528 หรือ ปี ค.ศ. 1985 โดยมีหน้าที่รับผิดชอบในการผลิตรถยนต์สามคันรวมกัน ได้แก่ Mitsubishi Eclipse, Eagle Talon และ Plymouth Laser ทั้งสามมีรายละเอียดที่แตกต่างกันเล็กน้อย แต่สิ่งที่ทั้งสามรุ่นเหมือนกันคือ ต้นกำเนิดพลังที่ได้จากเครื่องยนต์ 4 สูบเทอร์โบ ที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในยุค 90’s นั่นคือ 4G63 ขับเคลื่อนสี่ล้อ แน่นอนว่า รถยนต์ DSM เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยเพราะราคาที่ย่อมเยา อีกทั้งยังเป็นการเริ่มต้นก่อนจะก้าวข้ามไปเล่นรถสปอร์ตจากญี่ปุ่นเต็มตัว และได้รับความนิยมก่อนที่ Honda จะเข้าไปมีอิทธิพลในภายหลัง
กลับมาเข้าเรื่องของตัวโชว์อย่าง Eagle Talon TSi 1995 ของ อเล็กซ์ ที่เป็นรถคันแรกของเขา และเป็นรถที่สร้างความท้าทายระหว่างเขา กับเพื่อนของเขา เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าใครสามารถสร้างรถในบอดี้นี้ได้เร็วที่สุด โดยเพื่อนของอเล็กซ์ใช้ Eclipse เป็นรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าเครื่องยนต์ไร้เทอร์โบ แน่นอนว่าไม่สามารถเอาชนะรถของเขาได้ เบื้องหลังการปรับแต่ง Eagle Talon TSi 1995 ของ อเล็กซ์เป็นการปรับแต่งภายใต้งบประมาณที่ จำกัด และวิธีการทำคือ เดินทางไปตามที่ขายอะไหล่เก่าหรือที่เราคุ้นเคยในชื่อ เชียงกง ตลอดจนถึงปั๊มน้ำมันที่มีชิ้นส่วนวางขาย เป้าหมายคือการทำเวลาในพิกัด 10 วินาที ในระยะทาง 402 เมตร ซึ่งผลงานที่ทำได้ในขณะนี้อยู่ที่ 10.7 วินาที ความเร็วปลายที่ 127 ไมล์/ชั่วโมง
แต่นั้นเป็นผลงานในช่วงแรก เมื่อรสนิยมของเขาเปลี่ยนไป และเขามองเรื่องความสมบูรณ์แบบมากขึ้น การเลือกหาของแต่งในแบบเดิมเปลี่ยนไป การซื้อของลดราคาจาก eBay เป็นวิธีที่เร็วกว่า งานนี้ชิ้นส่วนและอะไหล่ที่ใช้ร่วมกันกับ Lancer Evo III ได้จึงเป็นทางเลือกที่ดี งานนี้ เครื่องและเกียร์ห้าสปีด พร้อมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบดั้งเดิมถูกนำมาใช้ สำหรับชิ้นส่วนเครื่องยนต์ และระบบส่งกำลังของ JDM มีความแตกต่างกันกับของ DSM กำลังอัดของเครื่องแตกต่างกัน, ลูกเบี้ยว, ท่อร่วมไอดี, รวมถึงเกียร์ แต่ส่วนใหญ่แล้วสามารถสับเปลี่ยนเข้าไปได้เลย และง่ายกว่า 4G63 ที่ผลิตในประเทศ นอกจากนี้ยังเพิ่มฮาร์ดแวร์ของ ARP รวมไปถึงการใช้เทอร์โบขนาด 60 มิลลิเมตร รวมถึงการใช้หัวฉีดที่ใหญ่กว่า ทำงานร่วมกับปั๊มเชื้อเพลิงแรงดันสูง และการจูนจาก D Tuned Performance เพื่อสร้างกำลัง 642 แรงม้า และแรงบิด 578 ปอนด์ฟุต หรือประมาณ 783 นิวตัน-เมตร โดยใช้น้ำมันเชื้อเพลิง E85
เจ้าของรถบอกว่า ในการปรับแต่งโดยการใช้ E85 เพื่อเพิ่มกำลังของเครื่องยนต์นั้นค่อนข้างง่าย ทว่า Talon ส่วนใหญ่แล้ว จะสร้างกำลังสูงสุดไว้ที่เพียง 400 แรงม้า กับการใช้ ออกเทน 91 แม้จะบูสท์สูงสุด แต่ก็ป้องกันความเสียหายได้ดีกว่า อเล็กซ์ ยังบอกอีกว่า ส่วนประกอบหลายอย่างยังคงถูกเก็ยไว้ในสต็อก โดยเฉพาะเพลาขับ เพลาท้าย สิ่งเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะแตกหักหลังจากมีกำลังสูงผ่าน 450 แรงม้า ก่อนหน้านี้เคยใช้ แผ่นคลัชท์สองแผ่น และสามแผ่น แต่ว่าเครื่องยนต์มีพลังมากขึ้นการใช้ของเดิมอาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้ วิธีแก้ปัญหาของอเล็กซ์คือแผ่นดิสก์เคฟล่าร์เซาท์เบนด์เดียวและแผ่นดัน Exedy Stage 3 ในส่วนของ crank walk ซึ่งเป็นจุดอ่อนที่สามารถพบได้บ่อยในเครื่องยนต์ 4G63 ก็ถูกเปลี่ยน
งานนี้นอกจากจะทำให้ตัวโชว์มีพละกำลังพอออกไปวัดพลังได้แล้ว ยังมีการปรับภาพลักษณ์ให้ดูน่าเกรงขาม เช่นนั้นเจ้าของรถได้ขอความช่วยเหลือจาก Sergio Amezcua ผู้ก่อตั้ง Carbonetics เพื่อนำ Talon ก้าวไปสู่อีกระดับในเรื่องของภาพลักษณ์ที่ทันยุค สิ่งแรกเราจะเห็นด้านหน้า และด้านหลังของ fascias ถูกสลับกับชิ้นส่วนระหว่างรถ Eclipse ปี 97 เป็นปี 99 คล้ายกับการทำหน้าใหม่ของบ้านเรา จากนั้นจึงเพิ่มคาร์บอนไฟเบอร์จำนวนมากเข้าไปในหลายจุด ตั้งแต่ลิ้นด้านหน้า, กระโปรงหน้ารถ, คลอบหลังคา, แก้มข้างทั้งด้านหน้าและด้านหลังกระโปรงข้างทั้งหมดเป็นผลงานการสร้าง Carbonetics
ในสเตปถัดไปสำหรับอเล็กซ์คือเขากำลังมองหา ลูกสูบและก้านสูบใหม่ เพื่อต้องการเข้าใกล้ 500 แรงม้า โดยใช้ปั๊มแรงดันเชื่อเพลิงสูงเพิ่มขึ้น รวมไปถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ AEM Infinity จนกว่าจะถึงตอนนั้น เขายังคงสนุกกับ Talon อย่างที่เป็นอยู่ และยังคงความเป็น DSM ที่หายไปนาน