หลังจากที่ทาง Toyota มอเตอร์ประเทศไทย ได้เปิดตัว Toyota Hilux 2020 รวมถึง Toyota Fortuner 2020 โฉมใหม่ล่าสุดออกมาแล้วนั้น ซึ่งเป็นรุ่นที่จะวางจำหน่ายในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และออสเตรเลีย โดยในเวอร์ชั่นประเทศไทยนั้นมาในชื่อว่า Toyota Hilux REVO 2020
ซึ่ง Toyota Hilux โฉมใหม่้ใหม่นี้ในตลาดอื่นอย่างในยุโรปก็ได้รับการเปิดตัวด้วยเช่นกันโดยในเวอร์ชั่นตลาดแถบยุโรปนั้นจะมีหน้าตาเดียวกันกับ Revo Rocco ของบ้านเรา แต่จะเพิ่มเติมเสริมในออฟชั่น และฟีดเจอร์บางอย่างที่แตกต่างกัน โดยรุ่นท๊อปในตลาดยุโรปในเกาะอังกฤษยังคงใช้ชื่อรุ่นว่า Invincible
โดยในสเปคยุโรปนี้ Toyota Hilux 2021 นั้นเหมือนกับสเปคเมืองไทยในตัว Revo Rocco ไม่ว่าจะเป็นด้านหน้าที่ดีไซน์เป็นแบบสามมิติ กระจังหน้าใหม่, ชุดไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Bi-Beam มาพร้อมไฟ LED Daytime Running Light, กันชนทรงใหม่, ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 18 นิ้วสีดำ
ด้านท้ายของ Toyota Hilux 2021 สเปคยุโรปนี้จะมากับไฟท้ายแบบ LED Light Guiding ที่เพิ่มความโดดเด่น ในยามค่ำคืนแบบเดียวกับในตัวของเมืองไทย
โลโก้ ‘Hilux’ ใหม่บนประตูท้าย, กันชนท้ายดีไซน์ใหม่เพิ่มแถบโครเมียมที่สร้างความหรูหรา นอกจากนั้นยังได้ติดตั้งสปอร์ตบาร์ที่มีให้เลือกได้ 2 รูปแบบ ทั้งแบบที่เป็นวัสดุเรซิ่นขึ้นรูปที่หรุหราภูมิฐาน และแบบอลูมิเนียมทรงกลมที่ดูบึกบึนในรูปแบบออฟโรด
นอกจากนั้นยังมากับฝาปิดกระบะแบบ ROLLER UP ที่ควบคุมด้วยไฟฟ้า, ตัวล๊อคกระบะท้าย และปลั๊กไฟ 12V มราติดตั้งอยู่ที่กระบะท้าย
ส่วนสีตัวถังของ Toyota Hilux 2021 เวอร์ชั่นยุโรปนั้นจะมีเฉกสีใหม่เพิ่มขึ้นมาอีก 3 สี เหมือนกับเวอร์ชั่นตัว Revo Rocco ในเมืองไทยได้แก่สีแดง Emotional Red II, สีน้ำเงิน Dark Blue และสีบรอนซ์ Oxide Bronze metallic
สำหรับภายในห้องโดยสารของ Toyota Hilux 2021 ในตลาดยุโรปนั้นรายละเอียดดีเทลจะเป็นแบบเดียวกับในตัวที่ขายอยู่ในบ้านเรา ไม่ว่าจะเป็นมาตรวัดดีไซน์ใหม่, ระบบอินโฟเทนเม้นท์ที่ทาง Toyota ระบุว่าซอฟท์แวร์ใหม่ที่บรรจุลงไปนี้จะช่วยให้การทำงาน แลตอบสนองได้อย่างรวดเร็วขึ้น โดยมากับหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ที่รองรับทั้ง Android Auto และ Apple CarPlay มาพร้อมระบบ GPS, กุญแจรีโทม, ปุ่ม Push Start, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ, ระบบเซ็นเซอร์จอดรถด้านหน้าและด้านหลัง
ระบบเครื่องเสียงชุดใหญ่จาก JBL ที่มากับกับลำโพง 9 จุด พร้อมชุดแอมพลิฟายเออร์ 800 วัตต์ 8 แชนแนล และเทคโนโลยี CLARi-Fi ที่เป็นเทคโนโลยีที่จะฟื้นฟูคุณภาพเสียงดนตรีที่เกิดจากการบีบอัดข้อมูลเสียง, เสริมความหรูหราด้วยไฟส่องสว่างภายในที่แผงประตูทั้ง 4 บาน
ขุมพลังของ Toyota Hilux 2021 สเปคยุโรปจะมีเพียงขุมพลังเดียวคือเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ เทอร์โบ 2.8 ลิตร ตัวเดียวกับสเปคไทย ให้สมรรถนะสูงสุดถึง 204 แรงม้า (PS) มาพร้อมกับแรงบิด 500 นิวตัน-เมตร ระบบส่งกำลังมีให้เลือกทั้งชุดเกียร์ธรรมดา 6 สปีด หรือเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เช่นเดียวกับระบบขับเคลื่อนที่มีทั้งแบบ 2WD และ 4WD
จากขุมพลังใหม่ 2.8 ลิตรที่เข้ามาแทนที่ ขุมพลัง 2.4 ตัวเดิมในสเปคยุโรปนั้นส่งผลให้มีอัตราเร่ง จาก 0-100 กม /ชม. ในเวลา 10 วินาที พร้อมกับมีอัตราบริโภคน้ำมันเชิ้อเพลิงอยู่ที่ 7.8 ลิต /100 กม. ส่วนอัตราการคายคาร์บอนไดออกไซด์ในไอเสีย 204 กรัม/กม. ตามมาตรฐาน WLTP นอกจากนี้ทาง Toyota ยังได้ปรับเครื่องยนต์เพื่อเอาใจผู้ที่ชื่นชอบในการบุกตะลุยในเส้นทาง Off-Road ด้วยการปรับลดความเร็วรอบเดินเบา (จาก 850 รอบต่อนาที เป็น 680 รอบต่อนาที) ที่สามารถลุยเส้นทาง Off-Road ได้อย่างมั่นคง ไม่สะดุด และราบรื่นตลอดเส้นทาง
ส่วนระบบช่วงล่างนั้นปรับปรุง และพัฒนาใหม่ ทั้งแหนบ และตัวบุชชิ่ง เพื่อให้มีความนุ่มนวลมากกว่าเดิม โดยเฉพาะในส่วนของการดูดซับแรงกระแทกของโช๊คอัพ และเปลี่ยนวัสดุของแหนบ เพื่อยกระดับความนุ่มสบายให้มากยิ่งขึ้น เสมือนนั่งรถ SUV ระดับหรู ส่วนด้านความแกร่ง และอัตราการรับนํ้าหนักก็ยังคงแข็งแกร่ง และรับน้ำหนักได้ดีเช่นเดิม นอกจากนี้ยังได้ติดตั้งระบบบังคับเลี้ยวแบบ VFC (Variable Flow Control) ที่ปรับน้ำหนักพวงมาลัยให้เหมาะสมในทุกช่วงความเร็ว เพื่อช่วยลดความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่
ส่วนสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่แบบ Off Road ในส่วนหน้าจอ TFT จะแสดงข้อมูลตำแหน่งองศาของล้อ และเพิ่มสัญญาณเตือนกะระยะด้านท้าย และมุมกันชนหน้า-หลัง เพื่อช่วยตรวจสอบสิ่งกีดขวางรอบข้างในขณะขับขี่ นอกจากนั้นมนระบบความปลอดภัยนั้นทาง Toyota ยังได้ติดตั้งชุดระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense มาไว้บน Toyota Hilux 2021 คันนี้ด้วย
Toyota Hilux 2021 รุ่นปรับโฉมเวอร์ชั่นจำหน่ายในตลาดยุโรป จะมีในรุ่น Single Cab, Extra Cab และ Double Cab ที่เป็นรุ่นท๊อปคือ Hilux Invincible หรือ Hilux Invincible X ในเกาะอังกฤษ โดยช่วงกำหนดในการวางจำหน่ายในตลาดยุโรปนั้น จะเริ่ม ในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ยุโรปตะวันออก จากนั้นไปในตลาดยุโรปตะวันตกช่วงเดือนตุลาคม และส่งท้ายที่เกาะอังกฤษในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2021 ที่จะถึงนี้