ค่ายผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากประเทศญี่ปุ่นอย่างทาง Toyota ได้ประกาศฉลองความสำเร็จสามารถทำยอดจำหน่ายรถยนต์พลังไฮบริดได้ทะลุ 15 ล้านคันในทั่วโลก นับตั้งแต่เปิดตัวรถยนต์ไฮบริดรุ่นแรกของทางค่ายออกมาในปี 1997 ซึ่งก็คือเจ้า Toyota Prius ซึ่งผลงานดังกล่าวนี้เสมือนเป็นเครื่องตอกย้ำว่าทาง Toyota ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ยังคงเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ไฮบริดของโลก นอกจากนี้ทาง Toyota ยังคงเดินหน้า และพัฒนาในเครื่องยนต์ประเภทนี้ต่อไปให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น
Toyota นั้นใช้เวลาถึง 16 ปี คือตั้งแต่ปี 1997-2013 เพื่อบรรลุยอดขายรถยนต์ไฮบริด 5 ล้านคันแรก ก่อนทำยอดตัวเลขผ่าน 10 ล้านคันในช่วงปี 2017 และอีกใน 3 ปีต่อมา เพียงในไตรมาสที่ 2 ของปี 2020 นี้ทาง Toyota สามารถทำยอดตัวเลขทะลุถึง 15 ล้่านคัน ทั่วโลก
ซึ่งในประเทศไทยก็จัดอยู่ใน 15 ล้านคันที่ว่าของทาง Toyota ด้วย เพราะเครื่องยนต์ไฮบริดที่วางจำหน่ายในบ้านเรานั้นก้มีทั้ง Toyota Prius, Toyota Camry Hybrid, Toyota Atis Hybrid และ Toyota C-HR Hybrid
ทั้งนี้ในตลาดรถยนต์ไฮบริดทั่วโลกของทาง Toyota และ Lexus นั้นมีไม่น้อยกว่า 44 รุ่นไม่ว่าจะเป็น Prius, Corolla, Camry, Avalon, RAV4, และ Highlander ขณะที่ Lexus มีทั้ง ES, LS, UX, NX, RX และ LC โดยรถยนต์ของทั้ง 2 แบรนด์นี้ ทาง Toyota เคลมว่าสามารถที่จะช่วยลดค่ามลพิษทางอากาศ หรือค่า CO2 ได้มากกว่า 120 ล้านตันเมื่อเทียบกับรถยนต์เบนซินที่สับดาปด้วยเครื่องยนต์เพียวๆอย่างเดียว
นอกจากนี้ทาง Toyota ยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่าทั้งเครื่องยนต์ไฮบริด และปลั๊กไฮบริด รุ่นใหม่ที่จะวางในตลาดยุโรปจะมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมากในอนาคตของทาง Toyota เพราะทาง Toyota จะมุ่งมั่น และพัฒนาเครื่องยนต์ใหม่นี้ให้ผ่านยเกณฑ์มาตรฐานของตลาดยุโรปที่มีข้อกำหนดในการปล่อยค่ามลพิษไม่เกิน 95 กรัม/กม. ซึ่งถูกกำหนดโดยสหภาพยุโรปในปี 2020 และ 2021 ที่จัดว่าเป็นกฎข้อบังคับของในการวัดค่าปล่อยมลพิษ หรือ CO2 ที่มีข้อจำกัดที่ยากที่สุดในโลกในขณะนี้