หลังจากที่ Brabus ได้เปิดตัว Ultimate E รุ่นที่เอา Smart EQ Fortwo มาพัฒนาเพิ่มสมรรถนะไปก่อนหน้านี้แล้ว ในงาน Frankfurt Motor Show 2019 มาคร่าวนี้ Brabus ได้ปรับเปลี่ยน Smart EQ Fortwo Cabrio ใหม่เป็น Brabus Ultimate E Facelift ในจำนวนน้อยเพียง 50 คันเท่านั้น พร้อมกับข่าวร้าย เพราะทางบริษัท เยอรมัน ตัดสินใจที่จะปิดตัวเองไปอีกนาน
ในรุ่นอัพเกรดนี้ จะเห็นว่าภายนอกดูดุดันสมชื่อ Brabus แม้จะเป็น Micro Car ก็ตาม ด้านหน้าดุดันด้วยกันชนพร้อมกระจังหน้าขนาดใหญ่รับลมเข้าเต็มที่ ตัวถังได้รับการตกแต่งให้ตัวถังกว้างขึ้นด้วย Widestar widebody kit เช่นเดียวกับด้านหลังที่ดูอวบกว้างเป็นพิเศษ ล้อ Monoblock Y ขนาด 18 กว้าง 7 นิ้วพร้อมยางสมรรถนะสูง ขนาด 205/35 R18 ที่ด้านหน้า และล้อกว้าง 8 นิ้วพร้อมยางขนาด 235/30 R18 ที่ด้านหลัง
การตกแต่งภายในของ Brabus Ultimate E Facelift เป็นหนังสีดำทั้งหมด เบาะนั่งทรงสปอร์ต Brabus Mastik สีดำเดินด้ายสีแดงลวดลายรังผึ้ง เช่นเดียวกับแผงประตู แป้นเหยียบอะลูมิเนียม แบบเดียวกับมือเบรก รวมถึงพรมพื้นที่เป็นหนังแท้ด้วย
ต้นกำเนิดพลังในการขับเคลื่อนยังคงใช้สูตรสำเร็จไม่ต่างจากการพัฒนา Ultimate E ของปีที่แล้ว โดยในรุ่นนี้ ก็ถูกยกระดับพลังงานเช่นกัน ด้วยกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 68 kW (91 แรงม้า) และแรงบิดสูงสุดเพิ่มขึ้นเป็น 180 นิวตัน-เมตร ทำให้ Brabus Ultimate E Facelift วิ่งจากจุดหยุดนิ่งถึง 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลา 10.9 วินาที ด้วย Mode Sport + ความเร็วสูงสุดนั้นไม่น่าประทับใจเท่าไร เนื่องจากถูกจำกัดอยู่ที่ 130 กิโลเมตร/ชั่วโมง และระยะการขับสามารถวิ่งได้ 125 กิโลเมตร ต่อการชาร์จแบตเตอรี่หนึ่งก้อน แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับสไตล์การขับ
Brabus Ultimate E Facelift มีให้เลือกการขับแบบ Eco Mode ที่สามารถเพิ่มอัตราการชาร์จคืนพลังงานได้มาก, Sport Mode ตอบสนองการเร่งความเร็วที่เร็วขึ้น แต่อัตราการชาร์จคืนพลังงานลดลง และ Sport + Mode งานนี้หมดแล้วหมดเลยเพราะไม่รู้ว่าจะเปิด บริษัทกันอีกครั้งตอนไหน
Brabus Ultimate E Facelift ราคา 53,710 เหรียญ (ประมาณ 1,716,000 บาท)
