Ford Motor ได้ประกาศที่จะหยุดในการพัฒนา Focus RS ที่เป็นรุ่นสมรรถนะสูงตัวแรง รวมถึงยืนยีนออกมาว่า Focus RS รุ่นต่อไปที่จะเป็นในเจนเนเรชั่นที่ 4 ที่คาดว่าจะออกมาลุยตลาดในช่วงปี 2022 จะถูกหยุด ไม่มีเปิดตัวแต่อย่างใด ด้วยเหตุผลที่ว่าต้นทุนในการพัฒนาสูงเกินกับสภาวะตลาดรถยนต์ในปัจจุบัน
นอกจากนั้นทาง Ford ยังเผยอีกว่า ปัญหาเรื่องความเข้มงวดรวมถึงมาตรฐานของการปล่อยค่าไอเสียมลพิษที่เข้มงสูดของทางภาคพื้นยุโรป จึงส่งผลให้มีการเก็บในส่วนภาษี และค่าใช้จ่ายที่สูง และเพิ่มมากขึ้น และอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ Focus RS ตัวแรงต้องยุติลง ก็จะเป็นในเรื่องที่ค่าใช้จ่ายที่สูงหริบในการพัฒนา เมื่อเทียบกับรายรับจากตัว Focus RS ที่กลับคืนมานั้นต่ำกว่าเป้าหมายโดยเฉพาะในตลาดยุโรป จึงทำให้เราตัดสินที่จะยุติ และไม่พัฒนา Focus RS ที่เป็นรุ่นตัวแรง อีกต่อไป
แต่ใช่ว่าเมื่อไม่มีรุ่นตัวแรงอย่าง Focus RS แล้วทาง Ford ละทิ้งในรุ่นอื่นๆ Ford ยังคงมุ่งมั่น และยังคงมีรถสมรรถนะสูงรุ่นอื่นๆ ทำการตลาดอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งทาง Ford Motor ยังยืนยัน และให้ความสำคัญกับรถในกลุ่ม Ford Performance โดยเฉพาะในตลาดยุโรป ที่ถือว่าเป็นเป็นหัวใจหลักของทางฟอร์ดยุโรป ไม่ว่าจะเป็นในตัว Focus และ Fiesta ST และในรถสปอร์ตอย่างทาง Mustang รวมไปถึงกระบะสายพันธุ์แรงอย่างในตัว Ranger Raptor
ทั้งนี้ก่อนที่ทาง Ford จะยุติบทบาทของ Ford Focus RS ในอนาคตใกล้ๆนี้ ทาง Ford วางแผลนไว้ว่า Focus RS รุ่นต่อไปที่จะเป็น เจนเนเรชั่นที่ 4 นี้ จะมาในขุมพลังเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร ที่เป็นแบบเดียวกันกับที่วางอยู่ในตัว Escape และ Kuga แบบเป็น Mild Hybrid ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าระบบ Mild Hybrid 48 โวลต์ โดยตั้งเป้าจะให้มีกำลังแรงม้าที่มากถึง 400 แรงม้าเลยทีเดียว นอกจากจะแรงแล้วยังจะช่วยรักษ์โลกอีกด้วย โดยจะมีการปล่อยมลพิษน้อยกว่าน 95 กรัมต่อกิโลเมตร เพื่อให้ผ่านเกณฑ์มาตราฐานใหม่ของยุโรป
Ford Focus ST
ซึ่งหลังจากข่าวที่จะเลิกพัฒนาในรุ่นตัวแรง RS ในตลาดยุโรปแล้วนั้น ทาง Ford ยังมีตัวแรงในรุ่นอื่นๆ เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความจัดจ้าน ไม่ว่าจะเป็น Ford Focus ST ที่เป็นรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า ที่มี 2 ขุมพลังให้เลือกถึง 2 รูปแบบทั้งขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 187 แรงม้า มากับแรงบิด 400 นิวตัน-เมตร และขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ เทอร์โบ 2.3 ลิตร ที่ให้แรงม้ามากถึง 276 ตัว มาำพร้อมกับแรงบิดที่มากถึง 420 นิวตัน-เมตร มาพร้อมอัตราเร่งที่จี๊ดจ๊าด 0-100 กม./ชม.ในเวลา 5.7 วินาที เร่งความเร็วสูงสุดได้ถึง 250 กม./ชม.ซึ่งความเร็ว และแรงระดับนี้ก็พอฟัดกับในรุ่นตัวแรงอย่าง RS ได้อย่างสบายๆ