หลังจากที่เมื่อช่วงเดือนมกราคม 2020 ทาง Lexus ที่ประเทศแม่ในญี่ปุ่นได้เปิดตัว Lexus NX Bronze Edition ที่เป็นสีบรอนซ์พิเศษ และ Lexuz UX Blue Edition เฉดสีน้ำเงิน ซึ่งในครั้งนั้น ถูกเปิดตัวและวางจำหน่ายพร้อมกัน ล่าสุดทาง Lexus ได้เปิดตัว Lexus UX250H Brown Edition ที่มากับเฉดสีพิเศษ สีน้ำตาล ที่ให้อารมณ์สุขุม ขรึม ลึกลับน่าค้นหา อีกทั้งยังมากับหรูหราเช่นเดิม โดยในรุ่นพิเศษจะมีวางจำหน่ายเฉพาะในดินแดนซามูไรเท่านั้น
Lexus UX250H Brown Edition ในรูปลักษณ์ภายนอก ยังคงเดิมในทุกสัดส่วน และอุปกรณ์ มีเพียงเฉกสีภายนอกเท่านั้น ที่เป็นสีน้ำตาลพิเศษที่ทาง Lexus เรียกว่า Amber Crystal Shine ส่วนภายในห้องโดยสารมากับการตกแต่งใน 2 รูปแบบ 2 เฉดสี เริ่มตั้งแต่ก้าวเข้าไปในห้องโดยสารจะถูกต้อนรับโดยแผ่นแพลทอลูมิเนียมตีตรา Lexus ไว้ที่ธรณีประตู
ส่วนสีภายในห้องโดยสารที่มีให้เลือก 2 แบบนั้น ในแบบแรกจะมาในโทนสีน้ำตาล โดยที่แผงแดชบอร์ดจะถูกหุ้มด้วยหนังสีน้ำตาล Noble Brown ส่วนที่เบาะนั่ง และที่แผงประตูจะถูกหุ้มด้วยหนังสีดำทั้งหมด
ส่วนตัวเลือกที่ 2 ในแผงแดชบอร์ดยังคงถูกหุ้มด้วยหนังสีนำตาล Noble Brown แต่ในส่วนเบาะนั่ง กับที่เท้าแขนจะถูกหุ้มด้วยหนังสีน้ำตาลอ่อนแกมเหลือง หรือที่ทาง Lexus เรียกว่าสี Ocher
ส่วนสีภายนอก นั้นนอกจากจะมีเฉดสีน้ำตาล Amber Crystal Shine แล้วยังมีเฉดสีให้เลือกอีกถึง 4 สี ส่วนไฮไลท์อีกอย่างของ Lexus UX250H Brown Edition จะอยู่ที่ล้ออัลลอยสีเทา Dark Gray Metallic ที่มีขนาด 17 นิ้ว
สำหรับอุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ ของ Lexus UX250H Brown Edition จะมากับจอแสดงข้อมูลแบบทรงยาวพาโนรามา ที่ตั้งอยู่ตรงกลางแผงแดชบอร์ด อีกทั้งยังมากับระบบความปลอดภัย เช่น ระบบตรวจจับมุมบอด, ระบบช่วยเบรคอัตโนมัติ และระบบ Hands-free Power Tailgate ที่ช่วยให้ฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติแบบไฟฟ้า
ด้านพละกำลังของ Lexus UX250H Brown Edition นั้น จะเป็นขุมพลังเดียวกันกับ UX250h ในทุกรุ่น โดยจะมากับขุมพลังรักษ์โลก เครื่องยนต์ไฮบริด 4 สูบ 2.0 ลิตร ที่มอบกำลัง 181 แรงม้า มีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหน้า และแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
ส่วนราคาจำหน่ายของ Lexus UX250H Brown Edition ที่จะมีวางจำหน่ายเฉพาะในตลาดแดนซามูไร ประเทศญี่ปุ่นนั้น ในรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าจะมีราคาเริ่มต้นที่ 4,685,000 เยน หรือประมาณ 1.41 ล้านบาท ส่วนในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ จะมีราคาเริ่มที่ 4,685,000 เยน หรือประมาณ 1.48 ล้านบาท
