Lexus RC F Track Edition มาพร้อมภาพลักษณ์ที่ โดดเด่นในเรื่องของน้ำหนักและ เรื่องของอากาศพลศาสตร์ โดยการเลือกใช้งานคาร์บอนไฟเบอร์แทนวัสดุเดิม ที่ฝากระโปรงหน้า หลังคา และที่สปอยเลอร์หลังรูปแบบ Fast-And-Furious-esque และสีพิเศษตามตัวกับ Matte Nebula Grey ที่ดูจะแลรักษาได้ยากหน่อย และด้วยการเปลี่ยนมาใช้วัสดุอย่างคาร์บอนไฟเบอร์ทำให้น้ำหนักตัวลดลง 55 กิโลกรัม โดยน้ำหนักรวมทั้งหมดอยู่ที่ 1,715 กิโลกรัม ที่เบาสุดในรุ่น RC F ปี 2020 แต่ก็ยังหนักกว่าคู่แข่งเมื่อเทียบกับ BMW M4 CS ที่หนัก 1,642 กิโลกรัม และ Ford Mustang GT350 ที่หนัก 1,664 กิโลกรัม
ความแตกต่างของการตกแต่งภายใน ระหว่าง Lexus RC F กับรุ่น Lexus RC F Track Edition นั้นแทบไม่แตกต่าง นอกจากการใช้เส้นใยคาร์บอน สีแดง ตกแต่งที่แผงประตู ซึ่งบ่งบอกความแตกต่างของสองรุ่น และเบาะหนัง Alcantara สีแดง ซึ่งเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ทาง Lexus ภูมิใจมาก เพราะมีน้ำหนักเบาที่สุดเมื่อเทียบกับรถในคลาสเดียวกัน อีกทั้งยังกันกระแทกได้ดีที่สุดด้วยเช่นกัน และที่โดดเด่นน่าจะอยู่ที่พวงมาลัยกับลูกเล่น ที่ใช้สีแดงตัดที่ด้านล่างสุด แต่สิ่งเหล่านี้แท้จริง Lexus เองก็ไม่ต้องการปรับแต่งอะไรเพิ่ม เพราะเห็นว่าภายในของ Lexus RC F นั้นดูดี ซึ่งดูแล้วเหมาะสมกับรุ่นพิเศษนี้เช่นกัน และงานนี้ก็มีข่าวเล่าอ้างว่า trackpad ที่มีไว้เพื่อควบคุมระบบอินโฟเทนเมนท์ ไม่ค่อยตอบสนองเท่าที่ควร และใช้งานยาก (ดูแล้วก็มีความเป็นได้) ทว่างานนี้มีหน้าจอสัมผัสขนาด 10.3 นิ้ว มาลบปมนี้ได้ แต่งานนี้รองรับการเชื่อมต่อแค่ Apple CarPlay ยังไม่มี Android Auto
เบาะนั่ง เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ทาง Lexus ภูมิใจมาก
trackpad ที่ควบคุมระบบอินโฟเทนเมนท์ ตอบสนองไม่ดีเท่าที่ควร และใช้งานยาก
มีการปรับปรุงเล็กน้อยสำหรับกำลังในการขับเคลื่อน หลายคนคิดว่าเมื่อเป็น Track Edition แล้วต้องแรงแน่นอน ทว่างานนี้อาจผิดหวังเล็กน้อย เพราะงานแรงกว่ารุ่น Lexus RC F ปกติไม่มาก ส่วนหนึ่งมากจากการใช้เครื่องยนต์แบบ V8 ขนาด 5.0 ลิตร แบบเดียวกัน ต่างกันที่เรื่องของกำลังสูงสุดมากกว่าเป็น 472 แรงม้าที่ 2,800 รอบ/นาที จากเดิม 467 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ที่ถูกวิจารย์ว่าช้าไปเมื่อเปลี่ยนเกียร์ลง ซึ่งในรุ่นพิเศษนี้ทำความเร็วจาก 0-60 ได้น้อยกว่ารุ่น Lexus RC F แค่ 0.2 วินาที แต่สิ่งที่ทำให้หลายคนหลงใหล คงเป็นเรื่องของเสียงคำรามที่ดุดันจากเครื่อง V8 และท่อไอเสียแบบไทเทเนียม และแน่นอนกับเสียงสังเคราะห์ผ่านลำโพงที่ยังมีให้อยู่
เครื่องยนต์แบบ V8 ขนาด 5.0 ลิตร 472 แรงม้า แต่คู่แข่งเป็น V6 กันหมด
สำหรับรุ่นพิเศษนี้มีจำกัดเพียง 50 คันเท่านั้น แต่งานนี้มีตัวเลือกมากพอที่ทำให้มองข้าม Lexus RC F Track Edition ไปได้เลย เพราะ Audi RS5 Coupe เองก็มีราคาที่ 74,200 เหรียญ ส่วน Mercedes-AMG C63 S Coupe ทำราคาไว้ 78,495 เหรียญ และตัวกลั่นอย่าง BMW M4 CS มาพร้อมราคา 103,100 เหรียญ แต่หากใครที่เป็นสาวก RC F ตัวจริง และต้องการครอบครอง 1 ใน 50 คันนี้ก็ไม่ห้ามแต่ต้องจ่ายในราคา. 96,650 เหรียญ ซึ่งดูแล้วก็ไม่แปลกกับคำว่า จำนวนจำกัด
Cr.motor1.com