บริษัท ฟอร์ซอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์บำรุงรักษารถยนต์คุณภาพสูง Fortron จากออสเตรเลีย ชูแนวทางบริหารเน้นองค์ความรู้คู่การบำรุงรักษารถยนต์ที่ใช้พลังงานทดแทนเต็มรูปแบบ เผยแผนการตลาดจัดกิจกรรมทั้งออนไลน์ และออฟไลน์สร้างนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์กับลูกค้าเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถยนต์ โดยเฉพาะที่ใช้พลังงานทดแทน ภายใต้วิสัยทัศน์ “ ผู้ส่งมอบความสุขและความปลอดภัยให้แก่สังคมผู้ใช้รถ ”
ดร.ถานันดร์ วัชโรทยางกูร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ฟอร์ซอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ แบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่
กลุ่มแรก คือ ผลิตภัณฑ์บำรุงรักษารถยนต์ตามระยะทาง ซึ่งมีสินค้ามากกว่า 100 SKU ที่ใช้ดูแลรถได้ทั้งคัน และที่สำคัญในกลุ่มนี้ คือ ผลิตภัณฑ์ที่สามารถดูแลรถยนต์ที่ใช้แก๊สโซฮอล์ และไบโอดีเซลได้โดยตรง ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์ ของ Fortron แต่เพียงผู้เดียว อันเป็นการตอบสนองนโยบายพลังงานแห่งชาติที่ชูประเด็นเรื่องการใช้ไบโอดีเซล B10, B20, B7 และแก๊สโซฮอล์ 91, 95, E20, E85 และพร้อมรองรับนโยบาย E20 ที่จะประกาศใช้ในเร็วๆนี้
กลุ่มที่สอง คือ เครื่องมือมาตรฐานประจำศูนย์รถยนต์ โดยมีนวัตกรรมที่โดดเด่น คือ เครื่องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกที่ช่วยให้การทำงานสะดวกสบายโดยไม่ได้เหยียบย้ำ ไม่ต้องใช้ลม อีกต่อไป ช่วยประหยัดคนเพราะทำงานเพียงคนเดียวจากเดิม 2-3 คน ประหยัดเวลาเหลือเพียง 10 นาที จากเดิม 30 นาที แต่ได้ผลลัพธ์ของงานที่มีประสิทธิภาพมากกว่าระบบเดิม เพราะเป็นการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกทั้งระบบ และไม่มีฟองอากาศในระบบเบรก ซึ่งลูกค้าที่มาใช้บริการจะได้รับความปลอดภัยสูงสุด ช่วยลดอุบัติเหตุ และความสูญเสียชีวิต และทรัพย์สิน รวมถึงเครื่องทำความสะอาดระบบเชื้อเพลิง ที่ใช้ได้ 6 ระบบในเครื่องเดียว เครื่องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์อัตโนมัติ ที่ใช้ได้ทั้ง ATF และ CVT ในเครื่องเดียวกัน เครื่องเปลี่ยนถ่ายระบบหล่อเย็น ซึ่งล้วนแล้วเป็นระบบปิดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
กลุ่มที่สาม ได้แก่ น้ำมันเครื่องคุณภาพสูงสำหรับรถยนต์ทั้งเบนซินและดีเซล ซึ่งเหมาะสำหรับรถยนต์ที่ใช้แก๊สโซฮอล์และไบโอดีเซลโดยเฉพาะ ซึ่งบริษัทเริ่มนำเข้า และจัดจำหน่ายมาตั้งแต่เมื่อกลางปีที่แล้ว และได้รับการตอบรับจากลูกค้าผู้บริโภคเป็นอย่างดี
โดยน้ำมันเครื่องดีเซล Strong D ได้ผ่านการทดสอบบนเส้นทางหฤโหดทั้งร้อนจัด หนาวจัดมาแล้ว ถือเป็นน้ำมันเครื่องรายแรกที่พิชิตยอดเขาเอเวอร์เรสต์ ด้วยการเดินทางจากประเทศไทยขึ้นผ่านทางเชียงของ ไปคุนหมิง ขึ้นไปสู่ยอดเขาเอเวอร์เรสต์ และหุบเขาเขาไกรลาส ผ่านทะเลทรายไซบีเรีย กลับถึงประเทศไทยโดยใช้ระยะเวลา 30 วันเต็ม ระยะทาง 17,000 กิโลเมตร โดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง และสำหรับน้ำมันเครื่องเบนซิน Strong ได้ผ่านการทดสอบ โดยส่ง Fortron Racing Team เข้าร่วมการแข่งขัน ในรายการ Super Endurance ณ สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต โดยใช้รถโตโยต้าวีออสเข้าร่วมแข่งขัน ใช้ระยะเวลาวิ่งเป็นเวลา 10 ชั่วโมง หรือ 600 นาที วิ่งได้ 288 รอบสนามช้าง โดยใช้หมวดของเหลวของ Fortron (โฟรตรอน) ทั้งสิ้น ซึ่งประสบความสำเร็จได้ในลำดับที่ 4 จากรถที่เข้าแข่งขัน 79 คัน และมีรถที่วิ่งเข้าเส้นชัยครบรอบเพียงแค่ 20 กว่าคันเท่านั้น นั่นแสดงถึงความทนทาน และขุมพลังอันทรงประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่อง Fortron (โฟรตรอน) ให้เป็นที่ประจักษ์แก่ผู้ใช้รถคนไทยทั้งปวง
นโยบายในปี 2563 ฟอร์ซ ตั้งเป้ารักษาเป็นผู้นำด้านพลังงานทดแทนสำหรับยานยนต์ และร่วมสร้างการเติบโตทางธุรกิจให้แก่พันธมิตร และคู่ค้า โดยสร้างคุณค่า และประโยชน์ที่ดีต่อลูกค้าเจ้าของรถที่ใช้ผลิตภัณฑ์โฟรตรอน บริษัทฯ พร้อมมุ่งมั่นสร้างนวัตกรรมผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับลูกค้า และพลังงานทดแทนด้านต่างๆ ในอนาคต และสร้างโซลูชั่นในการบริการที่ครบครันให้แก่คู่ค้าเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ และตอบโจทย์ด้านพลังงานและความต้องการของลูกค้า มุ่งเน้นการ สื่อสารถึงลูกค้าที่รวดเร็วเพื่อตอบสนองความต้องการ และการเข้าถึงข้อมูลของลูกค้า พร้อมทั้งยกระดับความเป็นตัวแทนจำหน่ายให้เป็นพันธมิตรคู่ค้า และเป็นที่ปรึกษาที่ดีแก่ลูกค้าผู้บริโภค พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีมาสนับสนุนการขายและการตลาด ในการช่วยบริการคู่ค้าด้านการขายสินค้าซึ่งสามารถเช็คสต็อกได้แบบ Real Time
นอกจากนี้ใช้นโยบายคุณภาพในการผลิตและจัดส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้าอย่างถูกต้องตรงเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีการนำฐานข้อมูลลูกค้ามาวิเคราะห์ และร่วมวางแผนการตลาดสินค้าแต่ละประเภทในช่องทางต่างๆ และมีการจัดกิจกรรมด้านการตลาดต่างๆ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ที่สามารถสื่อสารกับร้านค้าตัวแทนจำหน่าย และผู้บริโภคในรูปแบบต่างๆ เช่น งานเทรดโชว์ งานสมนาคุณพันธมิตรตัวแทนจำหน่าย การกระจายสินค้า การจัดอีเวนท์ต่างๆ เพื่อสนับสนุนพันธมิตรคู่ค้า อีกทั้งยังสร้าง Fortron Racing Team เพื่อลงแข่งขันในรายการต่างๆ ตลอดทั้งปี อาทิ สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต, สนามพีระ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต และในสนามอื่นๆ ตลอดจนมีการจัดทำ Digital Marketing ครบวงจร (FLYTING) อี-คอมเมอร์ซ และแพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อขยายตลาดสู่ CLMV โดยการสนับสนุนจากกรมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งในปี 2563 บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของยอดขาย 30%
