Aspark Owl ไฮเปอร์คาร์พลังไฟฟ้าจากแดนอาทิตย์อุทัย หลังจากที่ได้เคยเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อในงาน Frankfurt Motor Show 2017 และในงาน Paris Motor Show 2017 ในปีเดียวกัน ซึ่งในครั้งนั้นทาง Aspark Owl ได้ประกาศออกมาว่า Aspark Owl สามารถทำความเร็วจาก 0-96 กม./ชม. ได้ต่ำกว่า 2 วินาที ซึ่งก็สร้างความฮือฮาให้วงการยานยนต์ในขณะนั้น จนมาในปีนี้ทาง Aspark กลับมาอีกครั้งในงาน Dubai Motor Show 2019 พร้อมกับปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ ที่สำคัญในการกลับมาครั้งนี้ทาง Aspark ยังเคลมว่า Aspark Owl เป็นรถพลังงานไฟฟ้าที่เร็ว และแรงที่สุดในโลก โดยสามารถทำความเร่งอัตราความเร็วจาก 0-96 กม./ชม. ในเวลา 1.69 วินาที
Aspark Owl รุ่นที่นำมาโชว์ใน Dubai Motor Show 2019 ได้รับการปรับเปลี่ยนจากรุ่นเดิม โดยปรับรูปลักษณ์ใหม่ให้มีความสง่างามมากยิ่งขึ้น แต่ยังคงไว้ซึ่งความดุดัน และปราดเปรียว ตัวรถยังได้รับการออกแบบตัวถังที่ให้มีอากาศพลศาสตร์ในระดับที่เยี่ยมยอด ประตูปิด-เปิด แบบปีกนก เป็นรถ 2 ที่นั่ง โดย Aspark Owl มีมิติตัวรถความยาวตัวรถอยู่ที่ 4,791 มม. กว้าง 1,935 มม.มีความสูงตัวรถเพียง 993 มม.และมีระยะฐานล้อยาว 2,750 มม. โครงสร้างของ Aspark Owl มาพร้อมกับแชสซีส์ และโครงสร้างแบบ Monocoque ที่ผลิตด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ส่วนตัวบอดี้ตัวถังนั้นใช้วัสดุพลาสติกที่เสริมด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ โดย Aspark Owl จะมีน้ำหนักถึง 1,900 ที่สำคัญเป็นรถพลังงานไฟฟ้ามีขนาดความสูงที่ถึง 1 เมตรที่สามารถรองรับการวิ่งบนถนนได้ถูกกฎหมาย
ขุมพลังของ Aspark Owl จะมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าอันทรงพลังถึง 4 ตัว ที่ให้กำลังแรงม้าลงพื้นที่มากถึง 1,985 ตัว และมีแรงบิดสูงสุด 2,000 นิวตัน-เมตร ซึ่งทาง Aspark เคลมไว้ว่า มอเตอร์ของ Aspark Owl นั้นหมุนเร็วที่สุดในโลกถึง 15,000 รอบต่อนาที เรียกได้ว่าทรงพลังมากกว่ารถแข่ง Formula-E เลยที่เดียว โดย Aspark Owl สามารถทำความเร็วจาก 0-96 กม เพียง 1.69 วินาที และสามารถวิ่งจากจุดหยุดนิ่งถึง 300 กม./ชม. ในเวลาเพียง 10.6 วินาที และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 400 กม./ชม. ส่วนแบตเตอรี่ ที่เป็นหัวใจหลักของเจ้า Aspark Owl เป็นแบตเตอรี่ แบบลิเธี่ยม ไอออน (Lithium-ion) ที่มีความจุ 1,300 kW โดยใช้เวลาการชาร์จเต็ม 1 ครั้งในเวลาเพียง 40 นาที เมื่อชาร์จไฟ กับเครื่องชาร์จขนาด 44 kW โดยในการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ทาง Aspark บอกว่าจะวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 450 กม.
ส่วนระบบช่วงล่างของ Aspark Owl เป็นแบบปีกนกคู่ไฮดรอลิกที่ช่วยให้ผู้ขับขี่ปรับความสูงของการนั่งได้อีก้วย ส่วนระบบเบรคนั้นติดตั้งเบรกที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ทั้ง 4 ล้อ โดยที่ล้อคู้หน้ามากับคาลิเปอร์แบบ 10 พ๊อต ส่วนคาลิเปอร์หลังแบบ 4 พ๊อต
Aspark Owl ไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้าจะถูกผลิตในเมือง ตูริน ประเทศอิตาลี โดยร่วมมือกับ Manifattura Automobili Torino และจะถูกสร้างเพียง 50 คันเท่านั้น โดยทาง Aspark ตั้งราคาค่าตัวของ Aspark Owl ไว้ที่ 2.9 ล้านยูโร หรือประมาณ 9.7 ล้านบาท และผู้ที่สนใจอย่างครอบครองไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้าคันนี้ต้องเงิยจองล่วงหน้าก่อน 50,000 ยูโร หรือประมาณ 1.6 ล้านบาท โดย Aspark Owl พร้อมจะส่งหมอบในชึ่วงเดือนเมษายนปี 2020