เพิ่งจบลงไปหมาดๆ กับเกมการแข่งขันในรายการ Thailand Super Series 2019 Event สุดท้ายประจำฤดูกาลการแข่งขัน 2019 สนามนี้เป็นการแข่งขันในสนามที่ 7-8 ซึ่งไปแข่งกันที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จ. บุรีรัมย์ สนามนี้ “Team Donut Racing” ยังคงระเบิดฟอร์มเก่งทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในทุกรุ่นที่ลงแข่ง โดยผลการแข่งขันมีดังนี้
เริ่มจากรุ่น Thailand Super Eco กันก่อนเลยรุ่นนี้ Team Donut Racing ส่งนักแข่งเข้าร่วมทำการแข่งขัน 2 คัน รถคันแรกเบอร์ 41 ไอซ์ บุญญาฤทธิ์ ศุภาศิริ คลาส C+ ส่วนรถคันที่สองเบอร์ 46 เบียร์ นฤชิต เกียรติมณีศรี คลาส C+ ทั้งสองคันนี้ขับในนาม “Team J-One Donut Racing” โดยเริ่มตั้งแต่ควอลิฟายกันเลย ในวันที่ควอลิฟายจับเวลาเพื่อหาอันดับกริดสตาร์ทในวันแข่งเรซ 7 รถเบอร์ 41 บุญญาฤทธิ์ ศุภาศิริ สามารถทำเวลาควอลิฟายมาเป็นอันดับที่ 1 ด้วยเวลา 2.11.721 นาที ส่วนรถเบอร์ 46 ที่ขับโดย นฤชิต เกียรติมณีศรี ควอลิฟายมาในอันดับที่ 5 ด้วยเวลา 2 .13.449 นาที ในวันแข่งขันจริงในเรซที่ 7 ด้วยเรื่องของการผิดผลาดของเวลาทำให้ ไอซ์ บุญญาฤทธิ์ ที่ต้องออกกริดสตาร์ทในอันดับที่ 1 ต้องมาออกพิทสตาร์ทอย่างน่าเสียดาย และในกลุ่มหัวแถวออกสตาร์ทในพิทสตาร์ทเช่นกัน และเป็นผลดีกับ เบียร์ นฤชิต ที่ออกสตาร์ทในอันดับที่ 5 แต่กลุ่มหัวแถวออกพิทสตาร์ทกันหมดทำให้เขาเป็นรถคันนำในกลุ่ม Super Eco นั่นเอง หลังจากตั้งกริดสตาร์ทเสร็จสัญญาณไฟแดงดับลงเป็นสัญญาณการเริ่มการแข่งขัน เบียร์ นฤชิต เร่งเครื่องออกไปโดยที่ไม่รอใคร ออกนำตั้งแต่ต้นเกมการแข่งขัน จนจบการแข่งขัน 9 รอบ คว้าอันดับที่ 1 ในเรซที่ 7 ไปครอง ส่วน ไอซ์ บุญญาฤทธิ์ ที่ออกพิทสตาร์ท หลังจากที่สัญญาไฟแดงดับลงรถคันสุดท้ายที่ตั้งกริดสตาร์ทผ่านโค้งแรกไป สัญญาณปล่อยตัวรถจากพิทสตาร์ทปล่อยรถออก ซึ่งไอซ์เร่งเครื่องออกไปเต็มที่และค่อยๆ ไล่แซงนักแข่งคันหน้าไปเรื่อยๆ จนจบการแข่งขัน 9 รอบในอันดับที่ 3
ในส่วนของเรซที่ 8 ไอซ์ บุญญาฤิทธิ์ ที่จบการแข่งขันในอันดับที่ 3 ได้ออกสตาร์ทในอันดับที่ 3 ในเรซนี้ ส่วน เบียร์ นฤชิต ที่จบการแข่งขันในอันกับที่ 1 ในเรซที่ 7 มาในเรซที่ 8 นี้จึงต้องไปออกสตาร์ทในอันดับที่ 5 บนกริดสตาร์ทตามกฏกติการีเวิร์สกริดนั้นเองเพื่อเพิ่มความมันในการแข่งขันให้มากขึ้น การปล่อยตัวเป็นแบบ Standing Start ไฟแดงจะติด 5 ดวงและรอสัญญาณไฟแดงดับลง พอไฟแดงดับลงคือสัญญาณการแข่งขันในนี้ได้เริ่มต้นขึ้น ไอซ์ สนามนี้ทำได้ดีมากๆ และออกตัวได้ดีเช่นกัน จึงยังคงตำแหน่งเดิมเอาไว้ได้ตลอดเกมการแข่งขัน 9 รอบ ส่วน เบียร์ที่ออกสตาร์ทในอันดับที่ 5 ยังโชว์ฟอร์มดีออกตัวมาติดท้ายรถคันหน้าได้อย่างไม่ยาก ตลอดระยะทางการแข่งขัน 9 รอบสนามช้าง เบียร์ พยายามหาทุกช่องทางเพื่อที่จะไล่แซงรถคันด้านหน้าเพื่อหาที่ยืนบนโพลเดียมที่ดีที่สุดให้ได้ และเขาก็ทำได้โดยจบการแข่งขันรับธงหมากรุกในอันดับที่ 4 ส่วนไอซ์รับธงหมากรุกในอันดับที่ 3 แต่หลังจากผลการแข่งขันที่เป็น Office ออกรถของไอซ์ โดยบวกเพิ่มเวลาเข้าไป 30 วินาทีทำให้อันดับตกไปอยู่ในอันดับที่ 12 ส่วนเบียร์เขยิบอันดับขึ้นมาอีกหนึ่งอันดับเป็นอันดับที่ 3 บนโพลเดียม ทำให้ 2 เรซนี้ เขาจบการแข่งขันในอันดับที่ 1 ในเรซที่ 7 และจบการแข่งขันอันดับที่ 3 ในเรซที่ 8 ทำให้ เบียร์ นฤชิต เกียรติมณีศรี คว้าตำแหน่งชมป์ประเทศไทยของรุ่น Thailand Super Eco มาครองได้ด้วย ส่วนไอซ์ จบการแข่งขันในอันดับที่ 3 ในเรซที่ 7 และจบการแข่งขันในอันดับที่ 12 ในเรซที่ 8 ด้วยผลงานของทั้งสองคันในรุ่นนี้ทำให้ “Team J-One Donut Racing” คว้าแชมป์ประจำปีประเภททีมในรุ่น Thailand Super Eco มาครองได้ด้วย
รุ่นต่อมาเป็นรุ่น Thailand Super Pick up ในรุ่นนี้ได้ส่ง เต้ย TD Slider Car ศุภกิจ แดงอินทวัฒน์ รถเบอร์ 22 ในนามทีม “Team Donut Exedy Racing” ลงทำการแข่งขันในคลาส ซี ซึ่งก่อนเกมการแข่งขันในเรซที่ 7 และ 8 นี้ เขาได้แชมป์ประจำปีประเภทบุคคลในรุ่น Thailand Super PickUp Class C มาครองไปแล้ว แต่ด้วยเรื่องของศักดิ์ศรีเขาจึงอยากจะคว้าแชมป์ประจำเรซที่ 7 และ 8 มาครองให้ได้ โดยผลการควอลิฟายในรุ่นนี้เขาไม่ได้ทำการควอลิฟายเนื่องจากตอนช่วงซ้อมรถเกิดมีปัญหาทำให้ซ่อมแซมไม่ทัน ทำให้ในเรซที่ 7 นี้เขาต้องออกสตาร์ในกริดสตาร์ทที่ 13 เป็นคันสุดท้ายของรุ่น หลังจากที่รอสัญญาณไฟแดงดับลงเป็นการเริ่มการแข่งขันในรุ่นนี้ เต้ย ที่ออกสตาร์ทคันสุดท้ายในรุ่นนี้เร่งเครื่องเต็มที่เพื่อที่จะให้ตัวเองได้ตำแหน่งที่ดีที่สุด โดยเขามีระยะเวลาในการวิ่งไล่อันดับทั้งหมด 12 รอบสนามช้าง เท่านั้น และเขาก็สามารถไล่ตำแหน่งขึ้นมาได้หลังจากจบการแข่งขันเขารับธงหมากรุกในอัน 4 โอเวอร์ออลและเป็นอันดับที่ 1 ในคลาสซี ส่วนในเรซที่ 8 เต้ย TD Slider Car ออกสตาร์ทในอันที่ 2 เนื่องจากเรซที่ 7 จบการแข่งขันในอันดับที่ 4 ตามกฏรีเวิร์ดกริดสตาร์ทนั้นเอง โดยในเรซนี้ เต้ย TD Slider Car หลังจากที่แข่งจบ 12 รอบสนามช้าง เขาจบการแข่งขันในอันดับที่ 5 โอเวอร์ออลและ ได้อันดับที่ 1 ในคลาสซี มาครองได้ โดยผลการแข่งขันใน Event สุดท้ายนี้ เขารับถ้วยอันดับที่ 1 ของคลาสซี มาครองได้ทั้ง 2 เรซเลย และได้แชมป์ประจำปีประเภทบุคคล และประเภททีม Class C มาครองได้