ช่างเทคนิคของเชฟโรเลตที่ศูนย์บริการรถยนต์เชฟโรเลต ทั่วประเทศไทยได้นำโปรแกรม “Tech Eyes” มาใช้ในการติดต่อสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์กับวิศวกรของศูนย์ข้อมูลทางเทคนิคของจีเอ็ม (Technical Assistance Center - TAC) เพื่อแก้ไขปัญหาการซ่อมแซมรถยนต์ที่ซับซ้อนให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเครื่องมือ “Tech Eyes” เป็นส่วนหนึ่งของ ความมุ่งมั่นที่จะดูแลลูกค้าตามคำมั่นสัญญาของ “เชฟโรเลต คอมพลีต แคร์” ที่ต้องการมอบประสบการณ์ที่ดี ในการเป็นเจ้าของรถยนต์เชฟโรเลตให้แก่ลูกค้าทั่วประเทศ
เครื่องมือ “Tech Eyes” ช่วยให้ช่างเทคนิคสามารถประชุมทางไกลกับวิศวกรของจีเอ็มได้ ผ่านทางหูฟังและไมโครโฟนแบบไร้สาย เว็บแคมที่มีความละเอียดสูง อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง และแอพพลิเคชั่นการประชุมสไกป์ (Skype)เพื่อวินิจฉัยและแก้ไขปัญหารถยนต์แบบเรียลไทม์ ยกตัวอย่างเช่น การใช้
Tech Eyes สำหรับการหล่อลื่นของเครื่องยนต์ใหม่ ซึ่งเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและมีขั้นตอนการดำเนินการเฉพาะเพื่อสร้างความทนทานให้แก่เครื่องยนต์ นอกจากนี้ “Tech Eyes” ยังถูกนำมาใช้สำหรับการแก้ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการเดินสายไฟรถยนต์ และระบบการควบคุมเครื่องยนต์ต่างๆ ซึ่งเป็นปัญหาที่ยากแก่การตรวจพบ
การใช้ “Tech Eyes” ช่วยให้สามารถซ่อมรถยนต์ได้สำเร็จเกือบ 96 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากการตรวจวิเคราะห์รถยนต์นั้นใช้เวลาเพียงหนึ่งในสามเมื่อเทียบกับตอนที่ยังไม่มีการใช้ “Tech Eyes” ซึ่งหมายความว่า รถยนต์จะใช้เวลาที่ช่องซ่อมน้อยลง และลูกค้ามีความพึงพอใจต่อการบริการหลังการขายโดยรวมของเชฟโรเลตมากขึ้น ซึ่งศูนย์บริการเชฟโรเลตทั่วประเทศไทยได้นำ “Tech Eyes” มาใช้แล้ว
คุณวรพรรณ พันธุ์แมน ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาหลังการขาย บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เครื่องมือ Tech Eyes เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพและให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น เมื่อเทียบกับวิธีการที่เราเคยดำเนินการในอดีตที่ช่างเทคนิคไม่ได้มีการติดต่อและขอคำปรึกษาอย่างใกล้ชิดกับวิศวกรของจีเอ็มเช่นปัจจุบัน โดยในอดีตนั้นช่างเทคนิคต้องติดต่อขอคำปรึกษาผ่านการสื่อสารโดยการพิมพ์ข้อความโต้ตอบในระบบของจีเอ็มหรือการโทรศัพท์คุยกัน เพื่อแก้ไขปัญหาในการซ่อมแซมเท่านั้น ทั้งนี้ Tech Eyes สามารถช่วยให้ช่างเทคนิคของเราซ่อมรถยนต์ได้เร็วขึ้น เพื่อที่ลูกค้าของเราจะได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น”
เชฟโรเลต ประเทศไทยเริ่มนำ “Tech Eyes” มาใช้เมื่อปีที่แล้ว และถือเป็นหนึ่งในไม่กี่แบรนด์รถยนต์ในประเทศไทยที่มีบริการดังกล่าว นอกจากนี้ ประเทศไทยยังเป็นตลาดแรกที่นำ “Tech Eyes” มาใช้งานและได้เริ่มนำไปใช้กับตลาดส่งออกในประเทศอื่นๆ แล้ว
ในปี 2562 เชฟโรเลตวางแผนยกระดับการให้บริการ “Tech Eyes” ด้วยกล้อง “งู” (Snake) ซึ่งมีความยืดหยุ่นทำให้สามารถเข้าถึงส่วนต่างๆ ของเครื่องยนต์ที่เข้าไปตรวจเช็คได้ยาก เช่น ห้องเผาไหม้หรือช่องกักเก็บน้ำมันเครื่อง รวมถึงเครื่องมือล่าสุดที่จะช่วยตรวจวัดเสียงรบกวนและแรงสั่นสะเทือน เครื่องมือดังกล่าวจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งระหว่างการทดสอบรถผ่านระบบไวไฟ 4G ใหม่ ในการช่วยช่างเทคนิควินิจฉัยปัญหาเรื่องเสียงรบกวนและแรงสั่นสะเทือน ซึ่งสามารถตรวจพบได้ง่ายขึ้นขณะขับรถ
เครื่องมือ“Tech Eyes” นั้นเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่เกิดจากความริเริ่มในการพัฒนาการบริการ หลังการขาย ภายใต้โปรแกรมคอมพลีต แคร์ ของเชฟโรเลต ประเทศไทย นอกจาก “Tech Eyes” แล้ว บริษัทฯ ได้จัดการแข่งขันวัดทักษะฝีมือช่างเทคนิค และพนักงานของผู้จัดจำหน่ายทั่วประเทศ (National Skills Contest) ซึ่งเป็นการแข่งขันที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อพัฒนาทักษะและความสามารถของพนักงาน โดยจัดขึ้นที่ศูนย์ฝึกอบรมของเชฟโรเลต (Chevrolet Vehicle Maintenance Center) จังหวัดนนทบุรี
นอกจากนี้ เชฟโรเลต ประเทศไทยยังได้เปิดศูนย์บริการรูปแบบใหม่ “2S” ที่ให้บริการหลังการขาย และงานด้านอะไหล่ เพื่อขยายขอบเขตการบริการหลังการขายให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น ตามคำมั่นสัญญา
“เชฟโรเลต คอมพลีต แคร์” โดยศูนย์บริการรูปแบบใหม่ “2S” เปิดให้บริการแล้วที่จังหวัดภูเก็ตและจังหวัดอำนาจเจริญ ทั้งนี้ บริษัทฯ วางแผนที่จะเปิดศูนย์บริการมาตรฐานรูปแบบใหม่เพิ่มในจังหวัดที่ยังไม่มีศูนย์บริการมาตรฐานเชฟโรเลต
ศูนย์บริการมาตรฐานรูปแบบใหม่ “2S” จะได้รับการติดตั้งเครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อมอบการบริการที่ได้มาตรฐานเดียวกันกับผู้จัดจำหน่ายรถยนต์เชฟโรเลตทั่วไป ในการบำรุงรักษา การซ่อมแซม และ การรับประกันรถยนต์ของเชฟโรเลต ขณะรอรับบริการที่ศูนย์บริการ ลูกค้าสามารถนั่งพักผ่อนได้ที่โซนรับรองลูกค้า ซึ่งได้รับการออกแบบและตกแต่งให้เป็นมุมพักผ่อน เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้า
สำหรับบริการของเชฟโรเลต คอมพลีต แคร์ มีครอบคลุมทุกด้าน ได้แก่