ถ้าจะพูดถึงในบรรดารถสปอร์ต ต้องมีชื่อของ Aston Martin สปอร์ตคาร์ชื่อดังสัญชาติอังกฤษ ติดอยู่ในลิสต์อันดันต้นๆ ของวงการในโลกนี้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะด้วยรูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์และสมรรถนะอันเยี่ยมยอดไม่แพ้ค่ายไหน ล่าสุดทาง Aston Martin ได้ส่งสปอร์ตคาร์ตัวแรงออกมาเขย่าวงการอีกครั้ง ในครั้งนี้จัดเต็มส่ง Aston Martin Vantage AMR รุ่นเกียร์ธรรมดา ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ทาง Aston Martin จับชุดเกียร์ธรรมดามาใส่ในรถตระกูล Vantage อีกทั้งผลิตออกมาแบบ Limited Edition เพียง 200 คันเท่านั้น
โดยขุมพลังของ Aston Martin Vantage AMR รุ่นเกียร์ธรรมดานี้ ยังคงเป็นเครื่องยนต์ตัวเดิม V8 ความจุ 4.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ ให้สมรรถนะสูงสุด 503 แรงม้า แรงบิด 625 นิวตัน-เมตร จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 7 สปีด ของ Graziano สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 313 กม./ชม. พร้อมกับมีอัตราเร่งจาก 0-100 อยู่ที่ 3.9 วินาที ซึ่งเครื่องยนต์ตัวนี้ ติดตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำและชิดกับตัวถัง จึงทำให้รถสปอร์ตจากดินแดนผู้ดีอังกฤษคันนี้สามารถกระจายน้ำหนักแบบ 50:50 ได้อย่างสมบูรณ์
โดยความแตกต่างที่เห็นได้ชัดระหว่าง Vantage AMR และรุ่นปกติคือ ระบบเกียร์ธรรมดา 7 สปีด Graziano โดยเกียร์หนึ่งนั้น จะเป็นแบบ dog-leg ที่ต้องตบออกข้างแล้วโยกลง ขณะที่เกียร์สองถึงเกียร์เจ็ดจะเป็นรูปแบบ H แบบดั้งเดิม นอกจากนี้ Aston Martin ยังได้ติดตั้ง AMSHIFT ไว้ใน Aston Martin Vantage AMR รุ่นเกียร์ธรรมดาตัวนี้ด้วย ซึ่งเป็นระบบที่จะควบคุมการทำงานของคลัตช์ ตำแหน่งเกียร์ และเซ็นเซอร์เพลา ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและราบรื่นมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถสนุกกับการโยนเปลี่ยนเกียร์โดยไม่พะวงกับการที่ต้องค่อยยกคันเร่งแต่อย่างใด
นอกจากนั้น Aston Martin Vantage AMR เวอร์ชั่นเกียร์ธรรมดายังมีน้ำหนักที่เบากว่าในรุ่นมาตรฐาน ด้วยที่ใช้เบรคแบบเซรามิกคาร์บอน จึงทำให้รีดน้ำหนักลงไปได้อีก 95 กก. พร้อมกับสามารถปรับระบบโหมดขับขี่ได้ถึง 3 โหมด ได้แก่ Sport, Sport Plus และ Track เรียกได้ว่าสามารถสนุกได้ทุกรูปแบบในการขับขี่
ส่วนภายในห้องโดยสารถูกตกแต่งในโทนสีดำ โดยมีสีเหลืองมะนาวตัดสลับ ดูโดเด่นขึ้น ส่วนเบาะและวัสดุภายในอย่างแผงประตู ถูกตัดเย็บจากหนัง Alcantara
Aston Martin Vantage AMR จะผลิตออกมาเพียง 200 คันทั่วโลก โดยจะแบ่งแยกออกมา 59 คัน ที่มาพร้อมกับสี Stirling Green และสี Lime เหลืองมะนาว เพื่อที่จะทำออกมาเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปีที่ Aston Martin คว้าแชมป์ในรายการ 24 Hours of Le Mans ในปี 1959 ส่วนที่เหลือ 141 คัน จะมาในสีต่างๆ ให้ลูกค้าได้เลือก ไม่ว่าจะเป็นสี Sabiro Blue, Pnyx Black, China Grey หรือ White Stone ส่วนราคาค่าตัวจะเริ่มต้นที่ 149,995 ปอนด์ หรือประมาณ 6.25 ล้านบาท และทาง Aston Martin พร้อมส่งมอบให้ลูกค้าในช่วงไตรมาสแรกของปี 2020
Cr.motor1.com , carbuzz.com
