MG Motor ประเทศอินเดีย ได้เผยโฉมว่าที่ All-New MG Hector รถอเนกประสงค์สุดล้ำสมัยสำหรับทำตลาดเฉพาะในอินเดีย ที่มาพร้อมกับการดีไซน์ครั้งใหม่ สะท้อนความล้ำสมัยยิ่งขึ้น พร้อมกับเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยที่ล้ำสมัย และใช้งานที่แรกในอินเดีย พร้อมกับประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนพฤษภาคมปีนี้
MG Hector เป็นหนึ่งในสามโมเดลของต่างประเทศที่พัฒนาบนพื้นฐานจาก Baojun 530 จากประเทศจีน (Chevrolet Captiva และ Wuling Almaz) โดย MG Hector มาพร้อมกับการออกแบบไฟหรี่ LED ที่รับกับกระจังหน้าโครเมียม, ไฟหน้ากับไฟตัดหมอกจะอยู่ตรงบริเวณกันชนหน้าพร้อมช่องดักอากาศที่กระจังหน้ากับกันชนหน้าขนาดใหญ่, ไฟท้าย LED พาดกลางตัวถัง, กันชนท้ายขนาดใหญ่ สำหรับออพชั่นเด่นๆ ที่เผยในเวลานี้ก็คือกล้อง 360 องศา พร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับรอบคัน
ไฮไลท์สำคัญที่สุดของ MG Hector นั่นคือระบบเชื่อมต่ออินโฟเทนเมนต์อัจฉริยะ eSIM แบบ Machine to Machine (M2M) ซึ่งเป็นหนึ่งในระบบ iSMART ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ รองรับการเชื่อมต่อ 5G ร่วมกับการอัพเดทระบบแบบ OTA (Over The Air) ซึ่ง eSIM จะช่วยให้คุณสนุกกับความบันเทิงและการติดต่อสื่อสารได้ดียิ่งขึ้น พร้อมกับการวิเคราะห์ข้อมูลของผู้ขับขี่และสภาพการใช้งานรถ เพื่อบันทึกข้อมูลไปยังศูนย์ข้อมูล Microsoft Azure cloud data centre
เมื่อเกิดอุบัติเหตุจนทำให้ถุงลมนิรภัยทำงาน ระบบจะทำการเปิดฟังก์ชั่น "E-Call" โดยอัตโนมัติ จะส่งข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุไปยังศูนย์ดูแลลูกค้าของ MG ที่เรียกว่า Pulse Hub เพื่อประสานงานไปยังทีมกู้ภัยและทีมแพทย์รุดเข้าช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว รวมไปถึงยังรองรับการติดต่อและบริการเจ้าหน้าที่ผ่านช่องทาง I-Call ได้อีกด้วย
MG Hector ได้รับการพัฒนาระบบ AI และระบบันทึกข้อมูลผ่าน cloud ในการบันทึกเสียงของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร โดยได้พัฒนาให้สามารถรับฟังคำสั่งเสียงได้มากกว่า 100 คำ เพื่อออกคำสั่งในการควบคุมระบบภายในรถ ตั้งแต่เปิดหลังคาซันรูฟ, ปรับอุณหภูมิภายในห้องโดยสาร, ควบคุมระบบหน้าต่าง, ควบคุมเครื่องเล่นวิทยุ เป็นต้น โดยเฉพาะการจดจำและประมวลผลสำเนียงทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาฮินดี และภาษาท้องถิ่น ซึ่งทุกครั้งที่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสนทนา ระบบจะเรียนรู้คำศัพท์ การออกเสียง วรรณยุกต์ และจังหวะ เพื่อให้การสื่อสารระหว่างคนกับรถเป็นธรรมชาติมากที่สุด
นอกจากนี้ระบบนำทางของ Tomtom ได้นำเสนอ "IQ Maps" ซึ่งใช้เทคโนโลยี AI ในการอัปเดตส่วนต่าง ๆ ของแผนที่โดยอัตโนมัติ และเกี่ยวข้องกับผู้ขับขี่มากที่สุด แถมยังมีฟังก์ชั่นดาวน์โหลดแผนที่ผ่าน Wi-Fi หรือดาวน์โหลดบนสมาร์ทโฟนผ่าน Wi-Fi และถ่ายโอนไปยังยานพาหนะในภายหลัง และผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบข้อมูล ควบคุมระบบภายในรถโดยไม่ต้องเปิดประตู การบริการขอความช่วยเหลือ และประสานการเชื่อมต่อระหว่างสมาร์ทโฟนและตัวรถผ่านแอปพลิเคชั่น iSMART ได้อีกด้วย แถมยังสามารถรองรับแอฟตรวจสอบสภาพอากาศ AccuWeather weather กับแอปฟังเพลง Gaana ร่วมด้วย
MG Hector มีขุมพลังให้เลือกด้วยกัน 2 แบบ ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร เทอร์โบ สมรรถนะ 143 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตัน-เมตร ระบบส่งกำลังมีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีด หรือเกียร์อัตโนมัติ DCT 6 สปีด แถมมีรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริดที่พ่วงระบบ Mild-Hybrid 48 โวลค์ ที่ช่วยเพิ่มแรงบิดได้อีก 20 นิวตัน-เมตร ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันมากขึ้น
และเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ MultiJet II จาก FCA จาก Jeep Compass และ Tata Harrier ให้สมรรถนะ 173 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตัน-เมตร ส่วนระบบส่งกำลังได้เผยแค่ว่าจะใช้เกียร์ธรรมดา 6 สปีด สำหรับรายละเอียดอื่นๆ คงต้องจับตาชมกันในเดือนพฤษภาคมนี้