Alexander Albon นักแข่งสายเลือดไทยหนึ่งเดียวใน Formula 1 ประวัติศาสตร์หน้าใหม่แห่งวงการมอเตอร์สปอร์ต

            หากพูดถึงการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบที่เร็วและแรงที่สุดในโลก แน่นอนว่าหลายๆ คน คงจะนึกถึง Formula 1 การแข่งขันที่อยู่ในเลเวลสูงสุด มีความตื่นเต้น ท้าทายขีดจำกัดต่างๆ ซึ่งเป็นการแข่งขันที่ต้องงัดขีดสุดแห่งศักยภาพในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพละกำลังของเครื่องยนต์ ระบบช่วงล่างที่ยอดเยี่ยม รวมถึงระบบแอโร่ไดนามิคส์ในระดับที่เกินคนทั่วไปจะคาดคิด เอามาใช้อย่างเต็มที่ ไม่เว้นแม้แต่ตัวผู้ขับขี่ ที่ต้องมีความสามารถในระดับที่ “เหนือมนุษย์” จึงจะสามารถควบคุมความเร็ว แรงของโลกแห่งการแข่งขัน Formula 1 ได้แบบอยู่หมัด ซึ่งบอกได้เลยว่า...ในโลกนี้ คงจะมีไม่กี่คนที่สามารถทำได้ !

            Alexander Albon (อเล็กซ์ อัลบอน) นักแข่งสัญชาติไทยวัย 22 ปี เป็นหนึ่งในนักขับที่สร้างตำนานให้กับวงการมอเตอร์สปอร์ตเมืองไทย โดยแสดงศักยภาพก้าวข้ามขีดจำกัดทั้งหมดทั้งมวล จนสามารถเข้าร่วมการแข่งขัน Formula 1 ในฤดูกาล 2019 ภายใต้สังกัด Scuderia Toro Rosso-Honda ได้สำเร็จ โดยจุดกำเนิดของความเป็น Alexander Albon นั้น เริ่มตั้งแต่ในวัย 7 ขวบ ที่พ่อของเขาจัดสรรค์พื้นที่ฟาร์มในบ้าน ทำเป็นสนามซ้อมส่วนตัว เพื่อการพัฒนาทักษะและค้นหาตัวตน ก่อนที่จะเข้าสู่โลกแห่งการแข่งขันด้วยรถโกคาร์ท ตามแบบฉบับมาตรฐานที่นักแข่งระดับโลกส่วนใหญ่ใช้กัน และด้วยความสามารถที่โดดเด่น ทำให้ Alexander Albon สามารถคว้าโพเดี้ยมได้อย่างต่อเนื่อง และขยับสู่การแข่งขันในเวทีที่สูงยิ่งๆ ขึ้นไป ซึ่งในปี 2018 เขาสามารถปิดฤดูกาลแข่งขัน Formula 2 ได้ในลำดับที่ 3 ก่อนที่ทาง Scuderia Toro Rosso-Honda จะดึงตัวสู่การแข่งขันระดับสูงสุดในเวที Formula 1 ฤดูกาล 2019 ที่จะเริ่มเปิดฉากดวลความเร็วในวันที่ 17 มีนาคม 2019 ณ กรุงเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งก่อนที่จะเปิดฤดูกาล ทาง BoxzaRacing ได้รับเกียรติให้ร่วมพูดคุยกับนักแข่ง Formula 1 สายเลือดไทยอย่าง Alexander Albon แบบสุดเอ็กคลูซีฟ ซึ่งเราเจาะลึกทุกเรื่องราวมาให้ทุกได้สัมผัสกัน ณ บัดนี้ครับ

BoxzaRacing : นักแข่งผู้เป็นแรงบันดาลในให้ Alexander Albon ก้าวไกลสู่จุดหมายในการแข่งขัน Formula 1 ?

Alexander Albon : เป็นเรื่องน่าเสียดาย...ที่ผมอาจจะเกิดไม่ทันเขานะ แต่เขาเป็นคนที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผมได้ดีเลยทีเดียว มีครั้งหนึ่งที่ถือว่าเป็นการแข่งขันครั้งประวัติศาสตร์ ในวันนั้นฝนตกหนัก และนักแข่งผู้นี้ออกสตาร์ทท้ายแถว แต่เขาทุ่มเทแรงกายแรงใจจนสามารถชนะการแข่งขันได้ในที่สุด เขาคนนั้นก็คือ Ayrton Senna นั่นเอง

BoxzaRacing : ความรู้สึกแรกของ Alexander Albon หลังจากที่รู้ว่าตัวเองจะได้เป็นนักขับ Formula 1 ?

Alexander Albon : ความรู้สึกแรก แน่นอนว่าผมตื่นเต้นครับ แรกๆ มันเป็นความรู้สึกดีใจมากๆ แต่พอเริ่มคิดได้ว่านี่คือ การแข่งขันในระดับสูงสุดอย่าง Formula 1 ความเครียดก็เริ่มตามมา เพราะถือว่าเป็นการเวทีในระดับสูง การแข่งขันก็ยิ่งต้องสูงขึ้น ซึ่งสิ่งที่ต้องทำในตอนนี้คือ ระงับความตื่นเต้น และทำหน้าที่ของตัวเองให้สมบูรณ์แบบที่สุดครับ อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมภูมิใจมากๆ คือ การได้เป็นคนไทยที่สามารถก้าวสู่การแข่งขันในระดับสูงสุด ซึ่งผมจะพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อแฟนๆ ชาวไทยครับ

BoxzaRacing : ความรู้สึกที่ได้สัมผัสกับรถแข่ง Formula 1 ต่างจาก Formula 2 ที่คุ้นเคยมานาน มากขนาดไหน ?

Alexander Albon : หากมองเผินๆ เกี่ยวกับตัวรถ อาจไม่ได้ต่างอะไรกันมาก แต่พอได้เริ่มขับ สิ่งแรกที่เปลี่ยนไปคือ ความเร็ว แรง G ที่หนักหน่วงทุกครั้งที่กดคันเร่ง เข้าโค้ง ร่างกายถูกกระทำอย่างรุนแรง ซึ่งต้องปรับตัวและสร้างความคุ้นเคยพอสมควร เป็นความรู้สึกที่เรียกว่า “สุดๆ” แต่ไม่สามารถอธิบายได้เป็นคำพูดจริงๆ ครับ อีกสิ่งหนึ่งที่แตกต่างสุดๆ คือ บรรยากาศภายในทีม ตอนแข่งขัน Formula 2 มีทีมงานในทีมแค่ 12 คน แต่พอขยับมาเป็น Formula 1 ทีมงานขยับขึ้นกว่า 500 คน การสื่อสารจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง อีกทั้งการมีทีมเมทที่ดี และมีประสบการณ์สูงอย่าง Daniil Kvyat ช่วยให้ผมสามารถพัฒนาได้เร็วมากยิ่งขึ้นครับ

BoxzaRacing : เตรียมความพร้อมของร่างกายอย่างไร เมื่อต้องรับกับแรงกระทำขนาดนั้น ?

Alexander Albon : แน่นอนครับ ว่าต้องออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของเทรนเนอร์ส่วนตัว โดยทุกวันนี้เล่นเวท เทรนนิ่ง คลาดิโอ สเตรนจ์ วันละ 2 รอบ 5 วัน/สัปดาห์ เพื่อสร้างความแข็งแรงให้กับลำตัว ต้นคอ ที่ต้องรับภาระหนักจากแรงกระทำที่เกิดขึ้นจากการเร่ง เบรก เข้าโค้งอย่างรุนแรง ซึ่งโดยส่วนตัวของ Alexander Albon ที่มีความสูงค่อนข้างมาก รูปแบบของการออกกำลังกายเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ ก็จะต่างกับนักแข่งคนอื่นๆ ที่มีสรีระต่างออกไป โดยนอกจากเตรียมร่างกายแล้ว ผมยังต้องซ้อมกับเครื่องในรูปแบบ Simulation เพื่อเตรียมพร้อมรับกับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นจริงในการแข่งขัน แต่ในท้ายที่สุดแล้ว แม้ว่าเครื่องจำลองจะมีประสิทธิภาพสูงขนาดไหน แต่ก็ยังเทียบไม่ได้กับสถานการณ์จริง โดยเฉพาะเรื่องของช่องว่างในความผิดพลาด หากเป็นเครื่องจำลอง เราสามารถกดปุ่มเพื่อรีสตาร์ทได้ แต่ในการแข่งขันจริง ความผิดพลาดที่เกิดขึ้น นั่นอาจหมายถึงชีวิต

BoxzaRacing : เป้าหมายของการแข่งขันในฤดูกาล 2019 ?

Alexander Albon : ผมพยายามมองแบบช็อตต่อช็อต ค่อยๆ ดูไปทีละสนาม เพื่อไม่ให้เกิดความกดดันกับตัวเองมากเกินไป เพราะแต่ละการแข่งขันนั้น ย่อมมีจุดที่ต้องโฟกัสซึ่งมีความแตกต่างกันออกไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น แน่นอนว่าจะพยายามสร้างผลงานให้ดีที่สุดในทุกๆ วันครับ

BoxzaRacing : กดดันมากแค่ไหน กับโลกของการแข่งขัน Formula 1 ?

Alexander Albon : มากกกครับ...ถ้าเราพลาด ทุกอย่างก็จบ ! แต่โดยส่วนตัว ผมก็เชื่อมั่นในตัวเอง แม้จะอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ค่อนข้างกดดัน แต่ผมจะผ่านมันไปให้ได้

BoxzaRacing : สนามที่คิดว่ายาก หรือท้าทายที่สุดใน Formula 1 ฤดูกาล 2019 ?

Alexander Albon : แน่นอนว่าการเริ่มต้นนั้น เป็นสิ่งที่ยากเสมอ ดังนั้นสนามที่ผมรู้สึกว่ายากที่สุด ณ เวลานี้ คงหนีไม่พ้นสนามแรกที่เมลเบิร์น ซึ่งนอกจากจะเป็นการเริ่มต้นในเวที Formula 1 ของผมอย่างเต็มตัว ที่นี่ยังเป็นสนามในรูปแบบ Street Race แน่นอนว่า สนามรูปแบบนี้ ขับยากกว่าในเซอร์กิตแท้ๆ แต่ผมก็เตรียมพร้อม 100% กับการแข่งขันในสนามนี้แล้วครับ

BoxzaRacing : ในฐานะนักแข่ง มองความเป็นไปได้ สำหรับการจัดแข่งขัน Formula 1 ในประเทศไทยอย่างไร ?

Alexander Albon : ถ้าเป็นไปได้ ก็คงเป็นเรื่องที่ดีมากๆ ครับ ผมอยากให้มีการแข่งขันในประเทศไทย จะเป็นแบบ Street Race ในกรุงเทพฯ ก็ดี หรือจะแข่งในสนามช้างฯ ที่เป็นสนามระดับโลกก็น่าสนใจมากๆ

BoxzaRacing : ฝากถึงแฟนๆ ชาว BoxzaRacing

Alexander Albon : ขอขอบคุณแฟนๆ ทุกท่านที่ติดตาม ให้กำลังใจ และสนับสนุนมาโดยตลอด ซึ่งผมจะพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อให้คนไทยทุกๆ คน ภูมิใจครับ ฝากคนไทยทุกๆ คนช่วยเชียร์ด้วยครับ