ทีมแข่ง Red Bull Formula 1 ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า พวกเขาไม่สนใจที่จะเข้าร่วมการแข่งขัน ABB FIA Formula E เนื่องจากเห็นว่าพวกเขานั้นเป็นนักแข่งรถที่มีผีมือมากกว่านั้น โดยการแข่งขัน Formula E ถือเป็นอีกหนึ่งรายการแข่งขันที่กำลังได้รับความนิยมขึ้นมาเรื่อยๆนับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2014 ซึ่งทางทีมแข่ง Red Bull ก็เป็นทีมแข่งที่กลับมาลงแข่งขัน Formula 1 มาตั้งแต่ปี 2005 และไม่เคยเข้าไปปรากฎตัวในการแข่งขัน Formula E เลยแม้แต่ครั้งเดียว ถึงแม้ว่าในการแข่งขัน Formula E จะถือเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมนักแข่งในรุ่นจูเนียร์ในระยะต่างๆของหลายๆทีม ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งที่ทาง Red Bull ให้ในการไม่ไปเข้าร่วมการแข่งขัน Formula E ก็เพราะว่า พวกเขานั้นเป็นนักแข่งตัวจริงและรายการนี้ไม่เหมาะสำหรับการโปรโมตของเรา
"สถานะทางการตลาดของเราในตอนนี้ถือว่าอยู่ในจุดที่โอเคแล้ว และการแข่งขัน Formula E สำหรับเราแล้วมันเป็นเหมือนข้อแก้ตัวทางการตลาดของเหล่าบรรดาผู้ผลิตที่จะเบี่ยงเบนความสนใจจากเรื่องที่ไม่ค่อยดีในเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งเราต่างก็รู้ดีว่าเครื่องยนต์ดีเซลนั้นเป็นเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด"
"ในตอนแรก ราคาของมันนั้นอยู่ที่ราวๆ 8 ล้านเหรีญเท่านั้น แต่ตอนนี้ราคาของมันกลับพุ่งสูงเกินว่า 20 ล้านเหรีญไปแล้ว และถ้าค่ายใหญ่อย่าง Porsche หรือ Mercedes กระโดดเข้ามาร่วมด้วย ราคาของมันก็คงสูงมากกว่านี้อย่างแน่นอน รถแข่ง Formula E นั้นคล้ายกับรถแข่ง F3 ที่มีแบตเตอรี่หนัก 400 กก. มันไม่จำเป็นต้องมีนักแข่งที่เร็วที่สุด เพราะมันเป็นเรื่องของการจัดการพลังงานมากกว่าการแข่งขัน F1 หรือรายการแข่งขันอื่นๆ
"รถแข่งนั้นดูช้ามาก แต่มันก็เป็นการตลาดที่ค่อนข้างได้ผล เมื่อนำรถแข่งเหล่านี้ไปวิ่งกลางใจเมือง แต่มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากที่จะเผยแพร่ภาพสาธารณะทางโทรทัศน์ ในอนาคตทีมแข่งที่มีโอกาสคว้าชัยชนะอาจจะต้องทุ่มงบประมาณมากกว่า 50 - 60 ล้านเหรียญ และนั่นจะทำให้เหลือทีมแข่งอยู่เพียง 5 - 6 ทีมเท่านั้น และเมื่อมันเกิดขึ้นจริงๆ ผมเชื่อว่าความรู้สึกสนุกจะหายไปอย่างรวดเร็วในทันที" Helmut Marko กล่าว