เขียนโดย: Monster Racing

เมื่อ: 26 ธันวาคม 2561 - 11:44

Porsche ในนาม Porsche GT Team ส่งรถแข่ง 4 คัน ลงสู้ศึก Le Mans

 

          Porsche ร่วมเฉลิมฉลองชัยชนะ และความสำเร็จระดับโลก ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมของทีมแข่งและบรรดานักขับ ของทีมโรงงานตลอดฤดูกาลแข่งขัน 2018 ทั้งนี้ งานดังกล่าวได้รับการจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ บริเวณโรงงาน Weissach ภายใต้ชื่องาน Night of Champions motorsport gala และในโอกาสเดียวกันนี้ คณะกรรมการบริหารได้ประกาศถึง เจตนารมย์ที่ยังคงแน่วแน่สำหรับการเข้าร่วมการแข่งขันกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ตต่อไปในรุ่น GT เช่นเดียวกับความมุ่งมั่น ตั้งใจของปอร์เช่ในการคิดค้นพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ มากมาย

 

 

          ในการแข่งขันรายการ Le Mans 24 ชั่วโมง ครั้งที่ 87 เป็นอีกหนึ่งครั้งที่ปอร์เช่ได้จัดส่งรถแข่งของตนเป็นจำนวนถึง 4 คันเข้าร่วมชิงชัย โดยเป็นการเข้าร่วมในนามของทีมแข่ง Porsche GT ถึง 2 ทีม ประกอบด้วยหนึ่งทีมจากรายการ FIA WEC และอีกหนึ่งทีมจากรายการ IMSA Weathertech Championship ซึ่งแต่ละทีมได้ส่งรถแข่ง 2 คันลงสนามในคลาส GT พร้อมพกพาพละกำลังมหาศาลติดตัวมาจากโรงงาน Weissach กว่า 510 แรงม้า หลังพวงมาลัยของรถแข่งหมายเลข 91 เป็นการปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันระหว่าง Gianmaria Bruni, Richard Lietz และ Frédéric Makowiecki ในส่วนของรถ แข่งหมายเลข 92 ควบคุมพวงมาลัยโดยเหล่านักขับเจ้าของตำแหน่งแชมเปียนส์เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา นั่นคือ Kévin Estre, Michael Christensen และ Laurens Vanthoor สำหรับ Patrick Pilet, Nick Tandy และ Earl Bamber เป็นอีกหนึ่งกลุ่มนักขับมากฝีมือที่ประจำการในรถแข่งหมายเลข 93 ตามมาด้วยรถแข่ง 911 อาร์เอสอาร์ (911 RSR) ที่ออกสตาร์ทด้วยหมายเลข 94 โดยมีบรรดานักแข่งรุ่นใหม่เป็นผู้ขับขี่ ประกอบด้วย Sven Müller, Mathieu Jaminet และ Dennis Olsen เช่นเดียวกับทุกๆ ปีที่ผ่านมา ฤดูกาลแข่งขัน 2018 ยังคงเป็นปีที่เต็มไปด้วยสีสันจากทีมแข่งอิสระ ที่เข้าร่วมการแข่งขันในคลาส GTE-Am ด้วยความแข็งแกร่งที่ไม่เปลี่ยนแปลง นับเป็นครั้งแรกของปอร์เช่ในประวัติศาสตร์ การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ FIA World Endurance Championship รายการ Le Mans 24 ชั่วโมง อันถือเป็นการปิดฉาก ส่งท้ายด้วยชัยชนะที่ควรค่าแก่การจดจำ

 

 

          Porsche ยังคงให้ความสำคัญแก่บรรดานักแข่งสังกัดโรงงานอย่างต่อเนื่อง นักขับทุกคนที่รับหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งของทีมใน ฤดูกาลแข่งขัน 2018 จะยังคงร่วมทีมภายใต้สัญญาเดิมต่อไปในฤดูกาลแข่งขัน 2019 ซึ่งครอบคลุมไปถึงนักแข่งในรุ่น Porsche Young Professionals อีกด้วย ทั้งนี้มีเพียงนักขับหน้าใหม่เข้าร่วมทีมเพิ่มเติมอีกหนึ่งราย ในฐานะ Porsche Junior นั่นคือ Jaxon Evans หนุ่มวัย 22 ปี ชาวนิวซีแลนด์ เจ้าของตำแหน่งแชมป์จากรายการ Porsche Carrera Cup Australia และเป็นนักขับที่ทำผลงานได้โดดเด่น เหนือกว่าคู่แข่งที่มีฝีมือดีรายอื่นอีกกว่าสิบคนจากรายการ international one-make cup series รวมจำนวนนักแข่งที่เข้าร่วมระเบิดศึกความเร็วระดับโลกประจำฤดูกาล 2019 ทั้งสิ้น 24 ชีวิต

 

 

          เป็นอีกหนึ่งฤดูกาลสำหรับทีมแข่ง Porsche ในการเข้าร่วมแข่งขันรถยนต์ทางเรียบรายการ IMSA WeatherTech Championship 2019 ด้วยรถแข่ง 911 อาร์เอสอาร์ (911 RSR) 2 คัน พร้อมความร่วมมือกับ Core Autosport ซึ่งเพิ่งได้รับการต่ออายุสัญญาไปอีก 3 ปี เฉกเช่นในอดีตที่ผ่านมา ห้องบังคับของรถแข่งหมายเลข 911 เป็นสถานที่ปฏิบัติงานร่วมกันของ Nick Tandy และ Patrick Pilet โดยทั้งคู่จะได้ร่วมงานกันในการแข่งขันระยะยาวที่ Daytona, Sebring, Watkins Glen และที่ Petit Le Mans จะมี Frédéric Makowiecki เข้ามาร่วมทำการแข่งขัน ในส่วนของรถแข่งหมายเลข 912 รับผิดชอบหน้าที่หลังพวงมาลัยโดยคู่ของ Earl Bamber และ Laurens Vanthoor ทั้ง 2 รายจะได้รับการเสริมทัพในรายการแข่งขันระยะยาวสุดคลาสสิกจาก Mathieu Jaminet

 

 

          Porsche ยังคงให้การสนับสนุนบรรดาทีมแข่งอิสระ สำหรับการเข้าร่วมแข่งขันในรายการระดับ GT3 racing series ทั่วทุกมุม โลก รถแข่งปอร์เช่ 911 จีที3 อาร์ (Porsche 911 GT3 R) รุ่นใหม่ล่าสุด ได้รับการติดตั้งอุปกรณ์เสริมประสิทธิภาพด้าน อากาศพลศาสตร์ พร้อมทั้งปรับปรุงพัฒนาสมรรถนะการขับขี่ในทุกรายละเอียด แผนก Porsche Motorsport ได้จำหน่าย รถแข่งเป็นจำนวนถึง 45 คันให้แก่ลูกค้าซึ่งเป็นนักแข่งอิสระ ในฤดูกาลแข่งขัน 2019 ทีมงานนักแข่งฝีมือฉกาจจะเข้า ร่วมการประลองความเร็วในทุกสนามของรายการ Intercontinental GT Challenge และ Blancpain GT Series Endurance Cup: ประกอบด้วย Romain Dumas, Sven Müller และ Mathieu Jaminet เช่นเดียวกับ Dirk Werner, Dennis Olsen และ Matt Campbell นอกจากนี้ในรายการ Blancpain GT World Challenge America และ ADAC GT Masters ปอร์เช่ยังได้ให้การสนับสนุนรถแข่งอย่างน้อย 2 คัน ซึ่งจะเป็นการขับขี่โดยนักแข่งอิสระจากระดับ pro-category รวมไปถึง การสนับสนุนนักแข่งและลูกค้า อีกเป็นจำนวนมากในการแข่งขันระดับนานาชาติและกิจกรรมความเร็วอื่นๆ ที่ผ่านการ พิจารณา

 

 

          รถแข่งทายาทสายพันธุ์ความแรง ผู้ชนะในรายการแข่งขัน Porsche Cayman GT4 Clubsport กำลังจะได้รับ การเปิดเผยโฉมอย่างยิ่งใหญ่เป็นครั้งแรกของโลก ในวันที่ 3 มกราคม 2019 ภายในกิจกรรมการ ทดสอบที่มีชื่อว่า “Roar before Daytona” โดยรถแข่ง ปอร์เช่ 718 เคย์แมน จีที4 คลับสปอร์ต (Porsche 718 Cayman GT4 Clubsport) เป็นรถแข่งจากสายการผลิตคันแรกที่มีตัวถังสร้างขึ้นจากชิ้นงานที่ออกแบบมาให้มีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษ: ฝากระโปรง หน้า ประตูรถทั้ง 2 ฝั่ง และสปอยเลอร์หลังทรงสูง ล้วนแล้วแต่ผลิตขึ้นจากวัสดุ natural-fibre composite ทั้งสิ้น หลังจากเสร็จสิ้นการเปิดตัวเป็นระยะเวลา 3 สัปดาห์ รถแข่ง clubsport คันใหม่ล่าสุด จะเข้าร่วมการแข่งขันครั้งแรกใน รายการ  Daytona 24 ชั่วโมง และเข้าร่วมชิงชัยในสนามอื่นของรายการ GT4 clubsport อีกหลายแห่ง ซึ่งแผนก Porsche Motorsport ได้ส่งรถแข่งเข้าร่วมประลองความเร็วอีกหลากหลายรุ่น อาทิ ปอร์เช่ 911 จีที2 อาร์เอส คลับสปอร์ต (Porsche 911 GT2 RS Clubsport) และปอร์เช่ 935 (Porsche 935)

 

 

          ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2019 Fritz Enzinger จะเข้ารับหน้าที่ในการบริหารงานภาพรวมทั้งหมดของแผนก Porsche Motorsport ซึ่งนอกจากการเข้าร่วมทำศึกประลองความเร็วในคลาสของรถแข่ง GT ปอร์เช่จะลงทำการแข่งขันรายการ Formula E ในฤดูกาลที่กำลังจะมาถึงอีกด้วย ในขณะนี้ Enzinger คือผู้รับผิดชอบการบริหารงานโครงการ LMP1 และมีบทบาทเป็นผู้นำทีมในกลุ่มงานมอเตอร์สปอร์ตทั้งหมดของปอร์เช่ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2018 สำหรับ Frank-Steffen Walliser รองประธานกรรมการผู้ควบคุมงานด้านมอเตอร์สปอร์ตคนปัจจุบัน ซึ่งดำรงตำแหน่งดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2014 จะได้รับการโยกย้ายไปยังส่วนงานอื่นในฐานะ CEO โดยเขาจะรับผิดชอบดูแลการผลิตและพัฒนารถสปอร์ตรุ่น 718 และ 911

 

 

          Porsche Cup การแข่งขันแห่งเกียรติยศ บทพิสูจน์ความเป็นนักแข่งอิสระที่ประสบ ความสำเร็จสูงสุดจากการขับขี่รถยนต์ ปอร์เช่ ในปีนี้ตำแหน่งดังกล่าวยังคงตกเป็นของ Christian Ried นักขับรถแข่ง/เจ้าของทีม Dempsey Proton Racing วัย 39 ปี โดยได้รับมอบรางวัลอันทรงเกียรติจาก Dr. Wolfgang Porsche, ประธานบอร์ดบริหารของ Porsche AG นอกจากนั้น Ried ยังได้รับเงินรางวัลจากปอร์เช่มูลค่าสูงถึง 120,000 ยูโร ทั้งหมดเป็นผลลัพธ์จากความสำเร็จ ของเขาในการแข่งขัน รายการ FIA WEC และ European Le Mans Series, โดยเขาสามารถเก็บคะแนนรวมได้ถึง 10,348 คะแนน ตลอดฤดูกาลจากการลงสนามหลังพวงมาลัยของรถแข่งปอร์เช่ 911 อาร์เอสอาร์ (Porsche 911 RSR) ตามมาด้วยอันดับที่2  Robert Renauer, ผู้คว้ารางวัล Porsche Cup เมื่อปี 2016 รับมอบเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 30,000 ยูโร สำหรับอันดับที่ 3 เป็นของ Julien Andlauer นักขับชาวฝรั่งเศส ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 25,000 ยูโร การมอบรางวัล Porsche Cup ได้รับการจัดขึ้นเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1970 จากความคิดริเริ่มของ Ferry Porsche

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook