BMW X4 เปิดตัวในไทยแล้วอย่างรวดเร็ว โดยใช้รหัสตัวถัง G02 เป็นเจนเนอร์เรชั่นที่ 2 ของสปอร์ตเอสยูวีท้ายลาดรุ่นนี้ ได้เปิดตัวในตลาดโลกไปแล้วเมื่อเดือนมีนาคม 2018 ที่ผ่านมา โดยนำเข้ามาขายแบบนำเข้าทั้งคันด้วยราคา 3,990,000 บาท กับขุมพลังดีเซลล้วนๆ ไปดูไฮไลท์ที่น่าสนใจว่าน่าเสียเงินให้แค่ไหนกันครับ
BMW X4 โมเดลเชนจ์ ยังใช้สัดส่วนท้ายลาดตามสไตล์คูเป้ และคงเอกลักษณ์ของแบรนด์ไว้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าไตคู่ กระจกตอนหลังปาดเฉียงแบบ Hofmeister Kink และไฟท้าย รูปตัว L เล่นระดับนูนต่ำ 3 มิติ มีความยาวเพิ่มขึ้นจากเดิม 76.2 มม., ฐานล้อยาวขึ้น 53.3 มม., ความกว้างเพิ่มขึ้น 35.6 มม., แต่ความสูงลดลงจากเดิม 2.54 มม. รวมไปถึงตัวรถยังให้ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศที่ 0.30 CD และมีน้ำหนักเบาลง 50 กก.จากรุ่นก่อน ทำให้การกระจายน้ำหนักระหว่างส่วนหน้าและส่วนหลังมีความสมดุลที่ 50:50 อย่างรถสปอร์ตขับสนุกทั้งหลาย
ภายในยังคงกลิ่นอายเอกลักษณ์เฉพาะของ BMW แต่ได้รับการออกแบบเรือนไมล์ออกแบบให้ต่ำลงเล็กน้อย ปรับเบาะนั่งสูงขึ้นเพื่อช่วยให้มีทัศนวิสัยด้านหน้า จอแสดงผล Head-up Display ใหญ่ขึ้น 75% กับจออินโฟเทนเมนต์แบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว พร้อมสั่งการด้วยเสียงและท่าทาง พ่วงกับหลังคาพาโนรามิคมูนรูฟ ส่วนพื้นที่วางขาตำแหน่งผู้โดยสารด้านหลังยาวขึ้น 25.4 มม. มีพื้นที่ความจุห้องสัมภาระท้ายมากถึง 525 ลิตร และเบาะนั่งด้านหลังก็สามารถพับแยกได้แบบ 40:20:40 เพื่อขยายพื้นที่เพิ่มด้วย
BMW X4 มีรุ่นย่อยเดียวให้เลือกตอนนี้กับ xDrive20d M Sport แบบดีเซล 4 สูบ 2,000 ซีซี TwinPower Turbo ให้กำลัง 190 แรงม้า และแรงบิด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,500 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 8 วินาที มีความเร็วสูงสุด 213 กม./ชม. ใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 จังหวะ พร้อมขายในไทยแล้วแบบนำเข้าด้วยราคา 3,990,000 บาท
CR ภาพจาก BMW Thailand
