Nissan GT-R50 by Italdesign เป็นการรวมตัวของซูเปอร์คาร์ในตำนานจากญี่ปุ่น ที่ใช้ชื่อ GT-R ในตัวแรงมาตั้งแต่ปี 1968 มาเจอกับ Italdesign สุดยอดสำนักออกแบบจากอิตาลี ผู้ซึ่งมีดีไซน์อมตะอย่าง Lotus Esprit, DeLorean, Alfa romeo 159, Maserati Spyder ฯลฯ การมาพบกันครั้งนี้เพื่อที่สร้างผลงานพิเศษ เป็นการฉลองครบรอบ 50 ปีของทั้งสองบริษัท อันมีประวัติชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน
ผลงานหนึ่งเดียวในโลกนี้ Nissan GT-R50 by Italdesign เกิดจากการนำรถ GT-R Nismo มาใส่ดีไซน์ใหม่จากสไตล์อิตาลีทั้งคัน ตัวถังสีเทาตัดด้วยสีทองเงาวับในหลายส่วน เด่นสุดที่การเปลี่ยนกระจังให้กว้างใหญ่ในแนวนอน ไฟหน้าหล่อเบ้าใหม่เป็นทรงบูมเมอร์แรงอันเรียวยาว หลังคาถูกกดต่ำลงอีก 2 นิ้วให้เพียวกว่าเดิม ส่วนเปลือกตัวถังทั้งฝากระโปรง ซุ้มล้อ กันชนทั้งคัน ถูกทำใหม่เป็นดีไซน์ล้ำสไตล์ Deconstrction ไม่ยึดติดอยู่กับรากฐานรูปร่างเดิมๆ เน้นพื้นผิวนูนต่ำแบบสามมิติ
แม้ว่าจะออกแบบสไตล์อิตาลี แต่ยังคงเอกลักษณ์เดิมไว้หลายอย่างคือ ช่องระบายลมซุ้มล้อหน้าแบบ Samurai blade กับเอกลักษณ์ไฟโดนัทไว้อย่างเหนียวแน่น โดยดีไซน์เป็นโดนัทเส้นบางๆ ที่ตรงกลางกลวงแบบโดนัทจริงๆ จุดเด่นอีกอย่างที่ล้ำโลกก็คือ สปอยเลอร์แบบ GT-Wing ที่มีปีกโค้งเว้าเข้ากับตัวถังรถ แถมสามารถยกตัวขึ้นได้สูงเมื่อวิ่งความเร็วสูง
Nissan GT-R50 by Italdesign ยังจัดการแต่งภายในให้สมกับเป็นรถอิตาลี ด้วยการแซมหนังกลับ Alcantara แทรกที่คอนโซล แผงประตู ช่วยลดแสงสะท้อนได้ดีสุดๆ แล้วยังใส่ลงในวงพวงมาลัยให้จับกระชับมือ ส่วนเบาะก็บุหนังอัลคันทารานี้ที่ปักลายกราฟฟิคใหม่ด้วย นอกจากนี้ยังใส่แผงและกรอบคอนโซลกลางทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ ตบท้ายที่การเปลี่ยนเส้นขอบแอร์และขอบสันคอนโซลด้วยสีทอง
ส่วนเครื่องยนต์ก็ต้องโมดิฟายไปอีกด้วยสำนัก Nismo จูนเครื่อง V6 3.8 ลิตร ติดเทอร์โบคู่ ให้กำลังขึ้นเป็น 710 แรงม้า โดยการเปลี่ยนเทอร์โบลูกใหญ่ตามสเปคตัวแข่ง GT3 competition กับเปลี่ยน intercoolers ไซส์ใหญ่ขึ้น แคมชาร์ฟสูตรใหม่ หัวฉีดแรงสูงขึ้น ส่วนภายในไส้เครื่องก็เปลี่ยนใหม่หมด ด้วยข้อเหวี่ยงที่ทนทานขึ้น ลูกสูบและก้านสูบแบบฟอร์จที่แกร่งขึ้นอีก ด้านระบบเกียร์ดูอัลคลัตช์แบบซีเควนเชียว 6 สปีด ก็ถูกเสริมความแข็งแรงเพิ่ม เช่นเดียวกับเพลาขับและเฟืองท้าย ที่อัพเกรดให้ทนทานกว่าเดิม
ช่วงล่างของ Nissan GT-R50 by Italdesign บิ้วต์ใหม่ด้วยการใส่โช้คของ Bilstein ปรับความหนืดได้ต่อเนื่อง ส่วนเบรคก็ใช้ของ Brembo ด้วยคาลิปเปอร์หน้า 6 พอต กับหลัง 4 พอต แล้วใส่ยาง Michelin Pilot Super Sport กับล้อแม็กซ์ลายใหม่ที่ออกแบบโดยเฉพาะรุ่นนี้ เตรียมเปิดตัวให้ชมจริงที่ยุโรปในเดือนหน้า ตอนนี้มีแอนิเมชั่นให้ชมความสุดยอดของวิศวกรรมญี่ปุ่น บวกกับสุดยอดดีไซน์จากอิตาลี ได้ในคลิปด้านล่างครับ
CR : motor1