แชมป์โลก MotoGP 4 สมัย Marc Marquez ทดลองขับรถแข่ง F1 เป็นครั้งแรกที่สนาม Red Bull Ring โดยนักแข่งสังกัดทีม Honda รายนี้ทำการวิ่งทั้งหมด 43 รอบ ในรถแข่ง Toro Rosso Red Bull RB8 ซึ่งได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจาก Helmut Marko ที่ปรึกษา Red Bull Motorsport, Dietrich Mateschitz เจ้าของบริษัท Red Bull, Masashi Yamamoto หัวหน้าทีม Motorsport ของทาง Honda, Niki Lauda ผู้บริหารของทาง Mercedes และ Mark Webber อดีตนักแข่งของทีม Red Bull และ แชมป์โลก F1 9 สมัย ซึ่งเวลาที่ทาง Marc Marquez ทำเวลาได้เร็วที่สุดอยู่ที่ 1'14.9 นาที ด้วยรถแข่งปี 2012 กับการใส่ยาง hard ของ Pirelli โดยไม่มีระบบ DRS และ ใช้เครื่องยนต์ V8 ที่ไม่มีระบบ KERS ในการวิ่งรอบที่ 6 จาก 43 รอบ ช้ากว่า Valtteri Bottas ผู้ที่ทำเวลาเร็วที่สุดใน Austrian GP 2017 อยู่ 10 วินาที
"วันนี้นั้นมันเต็มไปด้วยรอยยิ้มและเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อในการขับรถแข่ง F1 เพราะว่านี่นับเป็นครั้งแรกของผม ซึ่งก่อนหน้านี้ผมเคยขับแต่รถแข่ง Formula 3 แค่ 2 รอบที่สนาม Motegi สำหรับเมื่อวานและตลอดช่วงเช้านี้ผมรู้สึกเป็นกังวลมาก ถึงขั้นกับนอนไม่หลับเลยทีเดียว แต่เราก็พยายามไปทีละขั้นเพื่อที่จะหาทางสนุกไปกับมันและมันก็ออกมาได้ดีเลยทีเดียว และมันจะเป็นอีกวันหนึ่งที่จะอยู่ในความทรงจำผมตลอดไป" Marc Marquez ให้สัมภาษณ์
ส่วนทาง Mark Webber ก็ได้เผยว่า "ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากที่เป็นโค้ชให้กับทาง Marc Marquez ผู้ซึ่งสร้างความประทับใจอย่างมากในการเรียนรู้เทคนิคที่จะขับรถแข่ง F1 เพราะจะเห็นได้ชัดว่า การที่เขาเป็นนักแข่งชั้นแนวหน้าในการแข่งขัน 2 ล้อ และเปลี่ยนมาขับรถ F1 นั้น วิถีในการขับขี่นั้นจะแตกต่างกันอย่างมาก เนื่องจากรถแข่ง F1 จะมีแรงกดที่มากกว่า การเกาะถนนที่ดีกว่าในทางโค้ง รวมไปถึงตำแหน่งที่นั่งที่ทำให้จุดรวมสายตานั้นแตกต่างออกไป แต่ทาง Marquez ก็สามารถทำได้ดีไม่ว่าจะเป็นจุดเบรค การเข้าโค้งความเร็วสูง ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลามากกว่านี้เล็กน้อยที่จะทำให้เขาทำเวลาดีมากกว่านี้ อย่างไรก็ดีนับเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้มาอยู่ตรงนี้ และ Marquez ก็ขับได้อย่างสุดยอดจริงๆ"
