เมื่อเร็วๆ นี้ คุณเกษม อิสระพิทักษ์กุล กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วยคุณมีชัย ศรีวิบูลย์ ผู้อำนวยการสายงานด้านเทคนิค และผู้บริหาร บริษัท คอมแพ็ค อินเตอร์เนชั่นแนล (1994) จำกัด ให้การต้อนรับ ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พร้อมคณะ ในโอกาสลงพื้นที่เยี่ยมชมโรงงานคอมแพ็ค เบรก อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี เพื่อชมผลงานการพัฒนาผ้าเบรกไร้ใยหิน ซึ่งได้รับการสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาจากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) มาอย่างต่อเนื่องกว่า 15 ปี พร้อมกันนี้ยังเข้าเยี่ยมชมศูนย์พัฒนาและทดสอบผ้าเบรก ที่มีเครื่องมือการทดสอบที่ทันสมัยระดับโลก และเป็นศูนย์แห่งเดียวในภูมิภาค ASEAN ตามนโยบายการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจร ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร และ จ.เพชรบุรี ระหว่างวันที่ 5 - 6 มีนาคม ที่ผ่านมา
"รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาเยี่ยมชมบริษัท คอมแพ็ค อินเตอร์เนชั่นแนล (1994) จำกัด ซึ่ง สวทช. โดยโปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม หรือ ITAP ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) มาช่วยยกระดับผลิตภัณฑ์ผ้าเบรก ทั้งในส่วนของกระบวนการผลิต คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงโครงการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำจนเป็นที่มาของห้องปฏิบัติการวิจัยที่สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลาย ขณะเดียวกันคอมแพ็ค เบรก ยังบริษัทของไทยรายแรกที่ได้วิจัยพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตผ้าเบรกไร้ใยหิน หรือ NAO (NON Asbestos Organic) ที่ได้มาตรฐานสากล" ดร.สุวิทย์ กล่าว
ด้านคุณเกษม กล่าวเพิ่มเติมว่า "ที่ผ่านมาบริษัทมีความต้องการพัฒนาผ้าเบรกสำหรับรถหลายชนิดและมีคุณสมบัติการใช้งานแตกต่างกัน จึงตัดสินใจใช้บริการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำของ สวทช. เพื่อพัฒนาแนวทางการวิจัยผลิตภัณฑ์และลงทุนซื้อเครื่อง Brake Dynamometer มาทดสอบประสิทธิภาพเบรก รวมถึงก่อตั้งศูนย์พัฒนาและทดสอบเบรก (Brake Development and Testing Center) ในปี 2551 เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการวิจัยและพัฒนาผ้าเบรกที่ทันสมัยที่สุดในภูมิภาค ASEAN ด้วยงบลงทุนสะสม กว่า 200 ล้านบาท ทำให้การวิจัยพัฒนาของบริษัทเป็นไปอย่างรวดเร็วตามมาตรฐานสากล ซึ่งการพัฒนาผ้าเบรกไร้ใยหินสามารถตอบโจทย์การขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ การเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตลอดจนสนองความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ปี 2559 มียอดขายทะลุ 1,000 ล้านบาท และบริษัทตั้งเป้าปีเพิ่มเป็น 2,000 ล้านบาท ภายในปี 2565"