เขียนโดย: Monster Racing

เมื่อ: 13 มีนาคม 2561 - 09:38

Chevrolet ทดสอบความแกร่ง Trailblazer ใหม่ ยกระดับความแข็งแรงของแชสซีส์ รองรับการขับขี่ทุกรูปแบบ

 

          Spirit of Trailblazer Club (เดอะ สปิริต ออฟ เทรลเบลเซอร์ คลับ) กลุ่มลูกค้า Chevrolet Trailblazer ทำการทดสอบสมรรถนะของ Trailblazer รถ SUV พรีเมียมสไตล์อเมริกันทั้งบนถนนทั่วไป และเส้นทางออฟโรดในอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี หนึ่งในพื้นที่ที่มีเส้นทางออฟโรดที่ครบครันทุกรูปแบบ ดึงดูดคนรักรถเอสยูวีให้ได้ฝึกปรือทักษะการขับขี่แบบสมบุกสมบัน อาทิ การไต่ขึ้นทางลาดชัน และการบุกตะลุยแอ่งโคลน เพื่อเข้าไปสัมผัสกับทัศนียภาพที่งดงามของน้ำตก ผืนป่าสีเขียว และพื้นที่ตั้งแคมป์อันสงบร่มรื่น

          Chevrolet Trailblazer รุ่นใหม่ ได้รับการพัฒนาเพื่อรองรับการขับขี่บนเส้นทางที่ท้าทาย และยากลำบาก โดยทีมวิศวกรของเจนเนอรัล มอเตอร์ส ในประเทศไทย บราซิล ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา ได้ร่วมกันปรับปรุงแชสซีส์ใหม่ และทดสอบความแข็งแกร่งทนทานของรถเอสยูวีพรีเมียมสไตล์อเมริกันรุ่นนี้ตลอดระยะเวลาการพัฒนา และการประเมินคุณภาพกว่า 18 เดือนเต็ม และได้ทำการทดสอบแบบเดียวกันนี้กับรถเอสยูวี และรถกระบะของเชฟโรเลตทุกรุ่น เพื่อสร้างความมั่นใจว่ารถยนต์ของเชฟโรเลตมีความสะดวกสบายในการขับขี่ การควบคุมที่ยอดเยี่ยม และเสถียรภาพอันเหนือชั้น เพื่อความปลอดภัย และความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า

 

 

          “การลุยทางออฟโรดที่ยากลำบากที่สุด ทั้งการขับในป่าเขา ข้ามแม่น้ำ และฝ่าลำธารต่างๆ คือเป้าหมายของเราในครั้งนี้” นายนิติพันธุ์ ชื่นชอบ ประธานกลุ่มสปิริต ออฟ เทรลเบลเซอร์ คลับ ซึ่งปัจจุบันทำงานเป็นวิศวกรอุตสาหการ ในอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม กล่าว “ผมได้ทำการสำรวจและกำหนดเส้นทางการขับขี่ในอำเภอทองผาภูมิ เพื่อให้สามารถทดสอบสมรรถนะของรถเทรลเบลเซอร์ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งสมาชิกคลับของเราทุกคนต่างก็ประทับใจในรถรุ่นนี้ที่สามารถรองรับการขับขี่หลากหลายรูปแบบในทุกสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี”

          Trailblazer เป็นรถ SUV รุ่นล่าสุดของ Chevrolet ที่ได้รับการผลิตภายใต้ความเชี่ยวชาญที่มีมาอย่างยาวนานจากการพัฒนารถอเนกประสงค์ ซึ่งสั่งสมมาตั้งแต่การเปิดตัวรถเอสยูวีรุ่นแรกของแบรนด์ หรือ ซับเบอร์แบน แคร์รี่ออล ในปี พ.ศ. 2478 ซึ่งเป็นชื่อรุ่นที่ทำตลาดได้ยาวนานที่สุดในอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศสหรัฐอเมริกา (ปัจจุบันใช้ชื่อซับเบอร์แบน)

          แม้ว่าเจ้าของรถ SUV จะไม่ได้ขับขี่บนเส้นทางออฟโรดเป็นประจำ แต่บ่อยครั้งที่ต้องขับขี่บนถนนที่มีพื้นผิวขรุขระ ไม่ราบเรียบ หรือเป็นหลุมเป็นบ่อ ซึ่งอาจสร้างความเสียหายให้แก่ยาง ล้อ และชิ้นส่วนช่วงล่าง รวมถึงทำให้ตัวรถเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควร เพื่อสร้างความมั่นใจในศักยภาพของเทรลเบลเซอร์ซึ่งรองรับการขับขี่ได้ในทุกสถานการณ์ รถเอสยูวีรุ่นนี้จึงได้รับการทดสอบในสนามทดสอบสมรรถนะของจีเอ็มที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อหลากหลายขนาด ที่สามารถสร้างความรำคาญใจให้แก่ผู้ขับขี่ได้ไปจนถึงขั้นสั่นสะเทือนแชสซีส์ พื้นผิวถนนที่ขรุขระนี้ ช่วยให้วิศวกรพัฒนาการป้องกันแรงสะเทือนที่เกิดกับตัวรถได้ดียิ่งขึ้น และปรับปรุงช่วงล่างเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้โดยสารมากที่สุด

 

 

          “รถยนต์ Chevrolet ทุกรุ่นทั่วโลกได้ผ่านการทดสอบความทนทานดังกล่าว โดยเราออกแบบรถยนต์เชฟโรเลตให้สามารถรองรับแรงกระแทกเมื่อขับขี่ตกหลุมบนท้องถนนได้อย่างไร้กังวล” คุณชัชวาล จันทเขต ผู้อำนวยการทั่วไปฝ่ายวิศวกรรมผลิตภัณฑ์ จีเอ็ม เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าว “ข้อมูลที่รวบรวมได้จากการทดสอบขับขี่บนสนามดังกล่าว ช่วยให้เราสามารถรวบรวมประเภทของแรงกระแทกต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างชิ้นส่วนที่เชื่อมต่อกัน ก่อนนำมาประเมิน และฟป้องกันฟปัญหาที่อาจเกิดขึ้น”

          GM จึงได้พัฒนา Trailblazer ใหม่ ให้มีแชสซีส์ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น พร้อมปรับปรุงช่วงล่างใหม่ เสริมโช้คอัพชุดใหม่ และแท่นรองตัวถังใหม่ รวมถึงเหล็กกันโคลงที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อลดแรงสั่นสะเทือนที่เกิดจากการกระแทกอย่างกะทันหัน และหนักหน่วง โครงสร้างตัวถังที่แข็งแกร่งยังช่วยให้วิศวกรปรับแต่งช่วงล่างได้อย่างถูกต้องแม่นยำมากขึ้น และลดแรงกระแทกจากการตกหลุมตามถนนขนาดเล็กและขนาดกลาง เพื่อสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวลและควบคุมได้ดั่งใจยิ่งกว่าที่เคยเป็น

          วิศวกรของ GM ทดสอบความทนทานของ Trailblazer ด้วยการจำลองการใช้งานตลอดวงจรชีวิตของรถ SUV รุ่นนี้ และสร้างความมั่นใจว่าเทรลเบลเซอร์จะมีมาตรฐานสูงสุด ก่อนที่ฝ่ายวิศวกรจะอนุมัติให้ขึ้นสายการผลิตต่อไป

  • ทดสอบสมรรถนะถึงขีดสุด – ทีมวิศวกรขับขี่รถยนต์อย่างหนักหน่วงกว่าปกติเพื่อจำลองการใช้งานตลอดช่วงอายุของตัวรถ
  • ทดสอบขับบนสภาพพื้นถนนที่หลากหลาย – ด้วยการขับวนบนพื้นหินที่มีรูปร่างเหมือนปีรามิดยอดตัด ขับบนถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อ ผ่านเนินลูกคลื่น ร่องถนน เนินหลังเต่า และพื้นผิวถนนแบบอื่นๆ เป็นเวลาหลายวัน เพื่อทดสอบชิ้นส่วนต่างๆ ของรถ
  • อุโมงค์ปรับความชื้น – ทุกชิ้นส่วนของรถจะถูกทำให้เปียกชุ่มในอุโมงค์ปรับความชื้น ซึ่งมุ่งทดสอบความทนทานต่อการกัดกร่อนเป็นระยะเวลาหลายชั่วโมงท่ามกลางอุณหภูมิและความชื้นสูง
  • อุโมงค์ลมปรับสภาพอากาศ – อุโมงค์ดังกล่าวสามารถจำลองสถานการณ์และสร้างสภาพแวดล้อมได้ตั้งแต่พายุไต้ฝุ่นไปจนถึงพายุหิมะ อุณหภูมิสามารถไต่ระดับสูงขึ้นได้ถึง 60 องศาเซลเซียสอย่างง่ายดาย ด้วยการใช้แสงอาทิตย์จำลองที่มีกำลังไฟฟ้ากว่า 1,155 วัตต์ต่อตารางเมตร และสามารถลดอุณหภูมิลงจนเย็นจัดได้ต่ำกว่า -40 องศาเซลเซียส พร้อมความเร็วลมสูงสุดที่ 241 กม./ชม.
  • การทดสอบบนไดนาโมมิเตอร์ – การทดสอบประเภทนี้สามารถจำลองการขับขี่เมื่อต้องไต่ขึ้นทางลาดชันที่ต้องรับภาระน้ำหนักในสถานการณ์จริง ด้วยการเพิ่มค่าแรงต้านบนแท่นไดนาโนมิเตอร์ เครื่องมือประเภทนี้ยังสามารถจำลองการขับขี่ด้วยความเร็วสูงสุดที่ 250 กม./ชม. อีกด้วย

          “ด้วยการนำรถยนต์ Chevrolet เข้ารับการทดสอบที่หนักหน่วง เพื่อสร้างความมั่นใจในความแข็งแกร่งทนทานของผลิตภัณฑ์ และความไว้วางใจในหมู่ลูกค้าเชฟโรเลตในประเทศไทย และทั่วโลก สิ่งสำคัญที่สุดที่เรายึดมั่น คือความปลอดภัย และความพึงพอใจของลูกค้า เราจึงพร้อมทำการทดสอบที่ท้าทายทุกขีดจำกัดของการขับขี่เพื่อส่งมอบสิ่งเหล่านั้นให้กับลูกค้าของเรา” คุณชัชวาล สรุป

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook