สิ้นสุดการรอคอย Lamborghini ประกาศเปิดตัว All-New Lamborghini Urus ซูเปอร์เอสยูวีรุ่นใหม่ล่าสุดอย่างเป็นทางการ ผสมผสานทั้งความสปอร์ตสไตล์ซูเปอร์คาร์ และประสิทธิภาพในการขับขี่ในภูมิประเทศรูปแบบต่างๆ ที่ควบคุมได้อย่างง่ายดาย และเมื่อผสานกันขุมพลังใหม่ที่ให้สมรรถนะมากกว่า 600 แรงม้า ก็ไม่มีอะไรที่สามารถหยุดยั้งการผจญภัยได้
Lamborghini Urus รถซูเปอร์เอสยูวีที่สืบทอดตำนานรถอเนกประสงค์ของ LM002 โดยได้ใส่ DNA ความเป็นเอกลักษณ์ของซูเปอร์คาร์แบรนด์กระทิงดุสมัยใหม่เอาไว้เต็มเปี่ยม เริ่มจากการออกแบบไฟหน้าทรงเรียวยาวพร้อมไฟ LED Daylight รูปทรง Y วางนอน กระจังหน้าพร้อมช่องดักลมทรงรังผึ้งขนาดใหญ่, เส้นสายฝากระโปรงและตัวถังที่ดุดัน ชัดเจน, แนวหลังคาลาดท้าย, หน้าต่าง frameless, ไฟท้าย LED รูปทรง Y วางนอน, ท่อไอเสียคู่, ล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้ว มาตรฐาน แต่สามารถเลือกขนาด 22 และ 23 นิ้วได้ เป็นต้น
รายละเอียดมิติตัวถังของ Lamborghini Urus ประกอบไปด้วย มีความยาว 5,112 มม., ความกว้าง 2,016 มม., ความสูง 1,638 มม. ในขณะเดียวกัน Urus ยังมีระยะฐานล้อที่มีขนาดใหญ่กว่าคู่แข่งด้วยขนาด 3,003 มม. และมีน้ำหนักเพียง 2,200 กิโลกรัม ซึ่งมีน้ำหนักน้อยกว่า Porsche Cayenne Turbo ที่ใช้แพลตฟอร์ม MLB เหมือนกัน
ในขณะที่การออกแบบภายนอกแทบจะถ่ายทอดจากซูเปอร์คาร์สมัยใหม่ทั้ง Huracan กับ Aventador ด้านภายในก็ได้ใส่กลิ่นอายของซูเปอร์คาร์รุ่นพี่ๆ จากเอกลักษณ์การออกแบบภายใน เน้นรูปทรงหกเหลี่ยมที่ให้ความสปอร์ตดุดัน พร้อมวัสดุตกแต่งที่มอบความสปอร์ตเต็มเปี่ยม สำหรับออพชั่นภายใน ได้แก่ เรือนไมล์ดิจิตอล TFT จอสี, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นพร้อมระบบลดสั่นสะเทือน, เบาะนั่งปรับไฟฟ้า 12 ตำแหน่งพร้อมระบบอุ่นหลังสำหรับผู้ขับขี่ เบาะหลังสามารถพับเพื่อขยายความจุพื้นที่ห้องสัมภาระท้ายจาก 616 ลิตรเป็น 1,596 ลิตร
สำหรับระบบความบันเทิง มาพร้อมกับระบบอินโฟเทนเมนต์ LIS รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนทั้ง Apple CarPlay หรือ Android Auto พร้อมลำโพง 8 ตัว เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยลูกค้าสามารถเลือกแพ็คเกจลำโพงระดับไฮเอนด์จาก Bang & Olufsen ขนาด 1,700 วัตต์ ได้ ด้านระบบความปลอดภัยที่เผยในเวลานี้ ประกอบไปด้วยปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ (High Beam Assistant), เซ็นเซอร์ช่วยจอด ระบบช่วยป้องกันอุบัติเหตุ PreCognition เป็นต้น
Lamborghini Urus บรรจุเครื่องยนต์เบนซิน V8 ความจุ 4.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ได้รับการพัฒนาให้สามารถรีดกำลังได้สูงในพิกัดเครื่องยนต์ที่เล็กกว่า Huracan กับ Aventador ส่วนชุดทวินเทอร์โบจะวางให้ต่ำ และใกล้ห้องเผาไหม้เพื่อให้ตัวรถมีความสมดุล จุดศูนย์ถ่วงเหมาะสม ซึ่งตัวเลขสมรรถนะได้ระบุอย่างเป็นทางการแล้ว อยู่ที่ 650 แรงม้า แรงบิด 850 นิวตัน-เมตร ให้อัตราเร่งจาก 0 - 100 กม./ชม. ที่ 3.6 วินาที กับ 0 - 200 กม./ชม. ที่ 12.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 305 กม./ชม. ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ที่ควบคุมโดยระบบไฮดรอลิก
ด้านระบบขับเคลื่่อนนั้น แม้จะขับเคลื่อนแบบ AWD แต่ทางผู้ผลิตได้นำระบบขับเคลื่อนล้อหลังจาก Aventador S มาพัฒนาต่อยอด โดยได้รับการพัฒนาให้สามารถกระจายแรงบิดล้อคู่หน้าได้สูงสุดถึง 70% และแรงบิดล้อคู่หลังสูงสุด 87% ร่วมกับพวงมาลัยที่สามารถปรับน้ำหนักตามความเร็วรถได้ สำหรับโฆมดขับขี่มาตรฐาน จะมีด้วยกัน 6 โหมด ได้แก่ Strada, Sport, Corsa โดยทั้ง 3 โหมดนี้ จะรองรับสำหรับถนนทางเรียบ ส่วน Neve (หิมะ), Terra (off-road) และ Sabbia (พื้นทราย) จะเซ็ตช่วงล่างสำหรับรองรับถนนรูปแบบต่างๆ นอกจาก 6 โหมด ที่กล่าวข้างต้นนี้ ยังมีโหมด Ego ซึ่งเป็นแพ็คเกจพิเศษให้ลูกค้าซื้อเพิ่มด้วย
ราคาของ Lamborghini Urus 2018 เริ่มต้นที่ 200,000 เหรียญสหรัฐฯ และจะเริ่มส่งมอบในช่วงครึ่งปีแรก 2018 ส่วนขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด จะตามมาภายหลัง