Aston Martin เผยโฉม All-New Aston Martin Vantage 2018 รอบปฐมทัศน์อย่างเป็นทางการ สปอร์ตคาร์รุ่นใหม่ที่ได้รับการอัพเกรดทั้งการดีไซน์ เทคโนโลยี และสมรรถนะให้เหนือชั้นยิ่งขึ้น
โดยขุมพลังของ Aston Martin Vantage 2018 แน่นอนว่าได้ใช้เครื่องยนต์ V8 ความจุ 4.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ จาก AMG ให้สมรรถนะสูงสุด 510 แรงม้า แรงบิด 685 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ ZF 8 สปีด และจะมีเกียร์ธรรมดาให้เลือกในโอกาสต่อไป โดยเครื่องยนต์ดังกล่าวได้รับการวางให้ต่ำลงเล็กน้อย เพื่อให้มีจุดศูนย์ถ่วงที่เหมาะสม การกระจายน้ำหนักหน้าหลังจะอยู่ที่ 50:50 และน้ำหนักตัวรถอยู่ที่ 1,530 กิโลกรัม จึงทำให้รถรุ่นนี้มอบอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ที่ 3.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 313 กม./ชม.
Aston Martin Vantage โฉมใหม่ มาพร้อมกับโครงสร้างอลูมิเนียมที่ถ่ายทอดจาก DB11 แต่ทางบริษัทฯ ได้ระบุว่า Vantage โฉมใหม่ ได้รับการพัฒนาทั้งด้านดีไซน์ วัสดุ และเทคโนโลยีเฉพาะตัวมากถึง 70% โดยมีทั้งการปรับแต่งซับเฟรมที่ด้านหลังให้ติดแน่นยิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้ขับขี่รู้สึกว่าเชื่อมต่อกับตัวรถกันได้มากขึ้น ในขณะที่ระบบกันสะเทือนหลังได้ใช้ multi-link พร้อมระบบปรับโหมดขับขี่ 3 โหมด ได้แก่ Sport, Sport Plus และ Track
ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะ Aston Martin ได้ใช้ระบบเฟืองท้ายใหม่ล่าสุดอย่าง Electronic Rear Differential (E-Diff) เป็นรุ่นแรกของค่าย ซึ่งระบบ E-Diff นี้ จะเชื่อมต่อกับระบบควบคุมเสถียรภาพทางอิเล็กทรอนิกส์ของรถ ที่สามารถปรับให้เหมาะกับลักษณะการขับขี่ของตัวรถ เพื่อการขับขี่ได้นิ่งไม่ว่าจะเป็นทางตรง หรือทางโค้ง
การออกแบบตัวรถนั้น ทางผู้ผลิตให้ความสำคัญกับการออกแบบตัวรถตามหลักอากาศพลศาสตร์ ที่ผสมผสานทั้งเทคโนโลยีการสร้างแรงกดและความสวยงาม เริ่มจากด้านหน้าที่มาพร้อมกับลิ้นสปอยเลอร์หน้าพร้อมช่องพิเศษที่สามารถควบคุมการไหลเวียนของอากาศได้อย่างเหมาะสม และสามารถไหลเวียนอากาศจากใต้ท้องรถสู่แผงดิฟฟิวเซอร์ท้ายได้สะอาด ไหลลื่นอย่างต่อเนื่อง, ครีบหน้ารถและช่องระบายอากาศที่แก้มล้อหน้าที่ช่วยลดความดันอากาศบริเวณซุ้มล้อหน้า ส่วนด้านหลังจะสามารถควบคุมแรงกดอากาศของตัวรถได้ดียิ่งขึ้น
Aston Martin ได้เปิดให้ลูกค้าสามารถสั่งซื้อ All-New Aston Martin Vantage ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ราคาเริ่มต้นที่ 120,900 ปอนด์ ในสหราชอาณาจักร และจะเริ่มส่งมอบตั้งแต่ไตรมาสที่สองของปี 2018 เป็นต้นไป