BMW ค่ายรถหรูที่จริงจังในด้านการใช้ทรัพยากรทดแทนมาใช้ในอุตสาหกรรมในการผลิตรถยนต์ และการให้บริการลูกค้า เพื่อลดปัญหามลพิษ และรักษาสิ่งแวดล้อม โดยล่าสุดทางบริษัท เตรียมนำสิ่งปฎิกูลมาใช้เป็นพลังงานหมุนเวียนในการผลิตรถยนต์หรูรักษ์โลก เพื่อตั้งเป้าหมายสู่แบรนด์สีเขียวอย่างยั่งยืน
เมื่อไม่นานมานี้ทาง Mr. Markus Duesmann หัวหน้าฝ่าจัดซื้อของบริษัท BMW ได้เข้าร่วมการประชุมถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติ ในกรุงบอนน์ ประเทศเยอรมนี ซึ่งทาง BMW ได้เดินหน้าการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียนสำหรับอุตสาหกรรมการผลิตรถ และผลิตพลังงานไฟฟ้าสำหรับลูกค้า อย่างเช่น ในโรงงาน BMW ที่เมือง Leipzig ซึ่งรับหน้าที่ผลิต Series 1, Series 2, X1, i3, และ i8 ใช้กังหันลมมาผลิตไฟฟ้าสำหรับโรงงานและสำนักงาน รวมไปถึงเพิ่งสร้างฟาร์มแบตเตอรี่ และโรงงานใน Spartanburg รัฐเซาท์แคโรไลนา ซึ่งเป็นที่ผลิต X3, X4, X5 และ X6 ได้ใช้พลังงานจากก๊าซมีเทนที่มาจากหลุมฝังกลบในบริเวณใกล้เคียง
นอกจากนี้ ทาง BMW ได้ขยายโครงการพัฒนาโรงงานผลิตก๊าซชีวภาพจากมูลโคและมูลไก่ในโรงงานผลิตรถยนต์ที่โรงงานในเมือง Rosslyn Pretoria ประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นโรงงานประกอบ Series 3 และเป็นโรงงานแห่งแรกของบริษัท ในต่างประเทศที่ใช้พลังงานหมุนเวียนในการผลิตรถยนต์ และหากสำเร็จก็อาจมีโครงการเดินหน้าในการใช้พลังงานหมุนเวียนภายในโรงงานอีกหลายประเทศทั่วโลก
"เมื่อพิจารณาถึงความรับผิดชอบที่ยั่งยืน เราถือว่าได้สร้างห่วงโซ่แห่งคุณค่าที่ครอบคลุมตั้งแต่การจัดซื้อ การผลิต ตัวผลิตภัณฑ์ และบริการด้านการขนส่งของเรา" Duesmann กล่าว "วันนี้เราสามารถได้รับกระแสไฟฟ้าที่ซื้อมาจากพลังงานทดแทนมากถึง 63% ผมภูมิใจที่จะประกาศในวันนี้ว่าเป้าหมายใหม่ของเราสำหรับปี 2020 จะต้องเป็น 100%"
Cr. ข้อมูลจาก bloomberg.com