บ็อบบี้ กูดิน (Bobby Goodin) นักบิดไต่เขาวัย 54 ปี พลาดทำให้ประสบอุบัติเหตุครั้งใหญ่ในอีเวนต์ล่าสุดของเค้าอย่าง ไปป์ พีค อินเตอร์เนชั่นแนล ฮิล ไคลม์ (Pikes Peak International Hill Climb) ที่ โคโลราโด หลังจาก บ็อบบี้ กูดิน บิดผ่านเส้ยชัยไปแล้ว และได้เกิดเหตุที่ทำให้รถเค้านั้นเกิดการเสียหลักควบคุมไม่ได้ บ็อบบี้ กูดิน ได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนโดยเฮลิค็อปเตอร์ และในเวลาต่อมาจึงได้ทราบข่าวว่า บ็อบบี้ กูดิน เสียชีวิตแล้ว
ก่อนหน้านี้ บ็อบบี้ กูดิน วัย 54 ปี ชื่นชอบกีฬาการแข่งขันด้านรถจักรยานยนต์เป็นชีวิตจิตใจและได้โพสข้อความภาพผ่านโซเชียลมีเดียดังอย่าง Facebook ที่เป็นข้อความของส่วนตัวของ บ๊อบบี้ กูดิน ว่า “Racing is Life. Anything before or after is just waiting” (เรซซิ่ง คือ ชีวิต อย่างอื่นเอาไว้ว่ากันทีหลัง...) รวมกับดาราชื่อดัง สตีฟ แม็คควีน ซึ่งทำให้รู้ว่า บ็อบบี้ กูดิน นั้นรักในกีฬาการแข่งขันด้านรถจักรยานยนต์เป็นชีวิตจิตใจ
ทั้งนี้ ภายหลังจบการแข่งขัน ไปป์ พีค อินเตอร์เนชั่นแนล ฮิล ไคลม์ ที่ โคโลราโด ในปี 2013 ด้วยการคว้าอันดับ 3 บ็อบบี้ กูดิน ก็ได้เฝ้ารอการแข่งขันในปี 2014 อย่างใจจดใจจ่อซึ่ง บ็อบบี้ กูดิน ก็ได้เข้ามารวมการแข่งขันและประสบความสำเร็จในการเข้าเส้นชัย แต่ก็เป็นจุดจบของชีวิตเค้าเช่นเดียวกัน
โฆษกของฝ่ายจัดงานแถลงว่า หลังจากที่จบการแข่งขัน พวกเราทุกคนทั้งนักแข่ง ช่างภาพ อยู่ระหว่างการพูดคุยกันเราได้เห็น บ็อบบี้ กูดิน ขับรถผ่านเส้นชัยและชูแขนทั้งสองข้างเพื่อฉลองความสำเร็จแต่ทว่ารถ ไทรอัมป์ เดย์โทน่า 675 อาร์ เวอร์ชั่นปี 2014 (2014 Triumph Daytona 675R) ของ บ็อบบี้ กูดิน ได้เสียหลักการควบคุมในล้อหน้า และทำให้เกิดอุบัติเหตุในที่สุด โดยได้มีทีมแพทย์รีบเข้าไปย้ายร่างของ บ็อบบี้ กูดิน ส่งตัวเข้าโรงพยาบาลเป็นการเร่งด่วนโดยเฮลิค็อปเตอร์ แต่ก็ไม่สารถจะช่วยชีวิต บ็อบบี้ กูดิน นักบิดวัย 54 ปีไว้ได้
บ็อบบี้ กูดิน นับว่าเป็นนักบิดรายล่าสุดที่เสียชีวิตจากอีเวนต์ ไปป์ พีค อินเตอร์เนชั่นแนล ฮิล ไคลม์ ที่จัดขึ้นเป็นปีที่ 92 หลังจากที่ เฮนรี้ เจ. เบรสเซียนี เสียชีวิตในรายการนี้เมื่อปี 2005 จากการชนกับรถยนต์ในการซ้อม