All-New Honda N-Box
Honda ประเทศญี่ปุ่น เผยโฉม All-New Honda N-Box K-Car 4 ที่นั่งโฉมใหม่ ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อมอบความสุขสำหรับครอบครัวให้มากยิ่งขึ้น ทั้งความสะดวกสบาย ความทันสมัย และความปลอดภัย โดยมาพร้อมกับ 2 บุคลิกเฉพาะตัว ที่มอบสไตล์ที่ใช่สำหรับคุณ ทั้ง Honda N-Box และ Honda N-Box Custom
บุคลิกหลักๆ ของ Honda N-Box รุ่นธรรมดา
โดยบุคลิกของ Honda N-Box จะแสดงถึงความเรียบง่าย สง่างาม ด้วยกระจังหน้า 3 ชั้นทึบ วางแถวแนวนอน พร้อมโคมไฟหน้าดวงกลม ล้อมรอบด้วยไฟ LED Daylight, ช่องดักลมแนวนอน, มือจับเปิดประตูสีเดียวกับตัวถัง, โคมไฟท้าย LED สีแดง, คิ้วโครเมียมบริเวณฝากระโปรงท้ายแบบสั้น, ไฟทับทิมกันชนหลังแนวนอน, ล้อกระทะพร้อมฝาครอบ รวมไปถึงสีภายในจะให้ความเรียบง่าย กว้างขวาง ดูสะอาดตาด้วยโทนสีเบจ ตัดกับชิ้นส่วนตกแต่งสีน้ำตาลเข้ม และเบาะสีเบจ-เทา
ห้องโดยสารของ Honda N-Box
ส่วนสีตัวถังในรุ่น Honda N-Box ประกอบไปด้วยโทนสีเดียว ได้แก่ สีขาว Premium White Pearl II, สีเงิน Luna Silver Metallic, สีดำ Crystal Black Pearl, สีชมพู Premium Pink Pearl, สีทอง Premium Ivory Pearl, สีน้ำตาล Premium Agate Brown Pearl, สีเหลือง Premium Yellow Pearl II, สีน้ำเงิน Brilliant Sporty Blue Metallic, สีน้ำเงิน Morning Mist Blue Metallic, สีเขียว British Green Pearl ส่วนโทนสีทูโทนประกอบไปด้วย, สีชมพู - สีขาว Premium Pink Pearl - White, สีน้ำตาล - สีขาว Premium Agate Brown Pearl - White, สีเหลือง - สีขาว Premium Yellow Pearl II & White และสีทอง - สีน้ำตาล Premium Ivory Pearl - Brown
บุคลิกหลักๆ ของ Honda N-Box Custom ที่มอบความสวยงาม สปอร์ตยิ่งขึ้น
สำหรับบุคลิกของ Honda N-Box Custom มอบความสปอร์ตเข้ม โดดเด่น โดนใจ ด้วยการเสริมชุดแต่งทั้งสเกิร์ตข้าง, สปอยเลอร์หลัง, ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ต เป็นต้น รวมไปถึงได้รับการปรับบุคลิกเฉพาะตัว ได้แก่การออกแบบแถบกระจังหน้าโครเมียมด้านบน ส่วนด้านล่างจะเป็นแบบโปร่ง ร่วมกับการดัดลอนรับกับโคมไฟหน้า LED และไฟเลี้ยวที่มีลูกเล่นวิ่งได้ ส่วนกันชนหน้าก็มีรูปแบบการดีไซน์ที่ใกล้เคียงกับกระจังหน้าด้านบน ทั้งการออกแบบช่องดักลมเป็นตัว U รับกับไฟตัดหมอก LED แนวนอน, โคมไฟท้ายแบบใสรมดำ, คิ้วโครเมียมบริเวณฝากระโปรงท้ายแบบยาวจรดไฟท้าย, ไฟทับทิมกันชนหลังแนวตั้ง ส่วนภายในมอบความสปอร์ตหรูด้วยโทนสีดำ ซึ่งมีให้เลือกทั้งผ้าและหนัง
ห้องโดยสารของ Honda N-Box Custom
ส่วนสีตัวถังในรุ่น Honda N-Box Custom ประกอบไปด้วยโทนสีเดียว ได้แก่ สีขาว Premium White Pearl II, สีเงิน Luna Silver Metallic, สีเทา Shining Gray Metallic, สีดำ Crystal Black Pearl, สีน้ำตาล Premium Glamorous Bronze Pearl, สีน้ำเงิน Brilliant Sporty Blue Metallic, สีม่วง Premium Velvet Purple Pearl ส่วนโทนสีทูโทนประกอบไปด้วย, สีขาว - สีดำ Premium White Pearl II - Black, สีแดง - สีดำ Milano Red - Black, สีน้ำเงิน - สีดำ Brilliant Sporty Blue Metallic - Black, สีน้ำตาล - สีเงิน Premium Glamorous Bronze Pearl - Silver, สีดำ - สีแดง Crystal Black Pearl - Red
Honda N-Box โฉมใหม่ มีทั้งสีโทนเดียว และสีทูโทน
ทางด้านการออกแบบภายนอกของทั้ง 2 รุ่นที่เหมือนกันอย่างหนึ่งก็คือ การออกแบบทรงกล่อง พร้อมหลังคาที่บากร่องแนวยาวทั้ง 2 ข้าง, ประตูสไลด์เปิดได้ 2 ด้าน รวมไปถึงการออกแบบเสา A แบบ Ultrathin เพื่อเพิ่มทัศนวิสัยในการมองเห็นได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ ภายในยังได้ติดตั้งกระจกช่วยมองจุดบอดด้านซ้ายมือเพื่อเพิ่มทัศนวิสัยในการมองบริเวณจุดบอดได้ดีขึ้น
แผงคอนโซลกลาง
กระจกช่วยมองจุดบอด
สำหรับภายใน ได้รับการออกแบบให้มีความเรียบง่าย เน้นอรรถประโยชน์ใช้สอยสำหรับครอบครัวให้เต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบแผงคอนโซลที่เรียบง่าย ขนาดกะทัดรัด พร้อมช่องเก็บของอเนกประสงค์หลายตำแหน่ง, เรือนไมล์อนาล็อกเรืองแสงดีไซน์เรียบง่าย พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ดิจิตอล, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ, ระบบอินโฟเทนเมนต์พร้อมจอสัมผัส, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น เป็นต้น
ห้องโดยสารที่สามารถปรับตำแหน่งและรูปแบบได้อย่างหลากหลาย
ด้านพื้นที่โดยสารได้รับการออกแบบเพื่อรรถประโยชน์ใช้สอยสำหรับครอบครัว ได้แก่ รางปรับเบาะผู้โดยสารตอนหน้าหน้าแบบ Super Slide ยาว 570 มม. กับเบาะผู้โดยสารตอนหลังที่สามารถโยกปรับตำแหน่ง เพื่อการปรับพื้นที่ได้อย่างหลากหลาย ทั้งการโดยสาร บรรทุกของ และสันทนาการ, วัสดุหุ้มเบาะแบบ Allerclean ที่ช่วยต้านสารก่อให้เกิดภูมิแพ้และไวรัสที่แฝงอยู่ในเบาะ, กระจก UV/IR รอบห้องโดยสาร
เรือนไมล์หน้าปัด ดีไซน์เรียบง่าย พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่
รายละเอียดโปรแกรมที่ปรากฎในจอแสดงข้อมูลการขับขี่
Honda N-Box มาพร้อมกับเครื่องยนต์ที่ได้รับการพัฒนาใหม่ที่มีให้เลือกถึง 2 แบบ แถมเป็นครั้งแรกในรถยนต์ K-Car จาก Honda ที่ได้ทำการติดตั้ง i-VTEC ในเครื่องยนต์ที่ไม่มีระบบอัดอากาศและ Electric Wastegate ในเครื่องยนต์เทอร์โบโดยรายละเอียดเครื่องยนต์ มีด้วยกันดังนี้
เครื่องยนต์เบนซิน ความจุ 658 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 60.0 x 77.6 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 12.0 : 1 มอบสมรรถนะสูงสุด 58 แรงม้า ที่ 7,300 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 65 นิวตัน-เมตร ที่ 4,800 รอบ/นาที อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงสูงสุด 27.0 กม./ลิตร
เครื่องยนต์เบนซิน ความจุ 658 ซีซี. เทอร์โบ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 60.0 x 77.6 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 9.8 : 1 มอบสมรรถนะสูงสุด 64 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 104 นิวตัน-เมตร ที่ 2,600 รอบ/นาที อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงสูงสุด 25.6 กม./ลิตร
ทั้งคู่ใช้เกียร์อัตโนมัติ CVT ในการส่งกำลัง รวมไปถึงระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า กับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่มีให้เลือกตามรุ่นย่อย ร่วมกับการปรับแต่งช่วงล่างเพื่อมอบการขับขี่ที่นุ่มนวลยิ่งขึ้น รวมไปถึงได้พัฒนาโครงสร้างตัวถังที่แข็งแรงขึ้น แต่น้ำหนักเบาลงกว่ารุ่นเดิมถึง 80 กก.
ระบบต่างๆ ใน Honda Sensing
โครงสร้างนิรภัย G-Con
หมุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก
สำหรับระบบความปลอดภัยมีไฮไลท์ที่น่าสนใจ นั่นคือการบรรจุระบบ Honda Sensing ในรุ่นแรกของกลุ่มรถ K-Car โดยทำงานร่วมกับกล้องด้านหน้า, เรดาร์กันชนหน้า และโซนาร์กันชนหลังที่มีความละเอียดสูง เพื่อรองรับการใช้งานระบบความปลอดภัยอันล้ำสมัยหลายรายการ ทั้งระบบตรวจจับวัตถุตรงหน้าและหยุดรถอัตโนมัติเมื่อพบความเสี่ยงจากการถูกชน, ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ, ระบบตรวจจับเส้นเลนและเตือนเมื่อรถออกนอกเลน, ระบบอ่านป้ายจราจร, ระบบล็อกความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน เป็นต้น รวมไปถึงยังมาพร้อมกับถุงลมนิรภัย 6 จุดรอบห้องโดยสาร, ระบบช่วยควบคุมการทรงตัว , ระบบช่วยออกตัวทางลาดชัน, เข็มขัดนิรภัยแบบดึงรั้งและผ่อนแรงอัตโนมัติ เป็นต้น
Honda N-Box
ราคาจำหน่ายของ Honda N-Box เจเนอเรชั่นใหม่ ประกอบไปด้วย
Honda N-Box Custom