Fiat 500L 2018 Urban
Fiat เผยโฉม Fiat 500L 2018 โฉมไมเนอร์เชนจ์ ทั้งรุ่น Urban, Cross และ Wagon ยกระดับความสดใหม่ และความโดดเด่นด้วยการปรับเปลี่ยนทั้งรูปลักษณ์และภายใน จนทางค่ายระบุว่ามีการใช้ชิ้นส่วนใหม่ๆ มากถึง 40 รายการ ในรถรุ่นนี้
Fiat 500L 2018 Cross
Fiat 500L 2018 โฉมไมเนอร์เชนจ์ มีการปรับปรุงภายนอกใหม่หลายรายการ เช่น โคมไฟหน้าใหม่, ไฟ LED Daylight ดีไซน์ใหม่, กันชนหน้าดีไซน์ใหม่ ด้วยการขยายช่องดักลม พร้อมใส่แถบโครเมียม และเรียงชิ้นส่วนโครเมียมสะท้อนประกายความหรู ทั้งนี้รุ่น Cross มาพร้อมกับแทรกลายตาข่ายตรงกันชนหน้า พร้อมกันชนดีไซน์สไตล์ขาลุย, เสริมวัสดุโครเมียมมากขึ้น, ล้ออัลลอย 17 นิ้ว สีทูโทน ฯลฯ
Fiat 500L 2018 Wagon
สำหรับภายในก็มีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดในบางส่วน เพิ่มความหรูหราและความทันสมัยยิ่งขึ้น เช่น การใช้วัสดุตกแต่งใหม่, มาตรวัดเรือนไมล์ พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ 3.5 นิ้ว ดีไซน์ใหม่, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นเสริมโครเมียม, คันเกียร์ที่ออกแบบให้ยกสูงขึ้นเล็กน้อย รวมไปถึงอัพเกรดระบบอินโฟเทนเมนต์ Uconnect รองรับระบบ Android Auto และ Apple CarPlay ผ่านจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว, สคับแพลทรองธรณีประตู, เครื่องเสียงจาก Beats 520 วัตต์ ฯลฯ ในส่วนของรุ่น 500L Cross จะได้รับการปรับปรุงระบบ Mode Selector ร่วมด้วย
แผงคอนโซลหน้าของ Fiat 500L 2018 โฉมไมเนอร์เชนจ์
สำหรับขุมพลังของ Fiat 500L 2018 ทุกรุ่น มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 1.4 ลิตร ที่ให้สมรรถนะตั้งแต่ 95 - 120 แรงม้า, เครื่องยนต์ TwinAir ความจุ 0.9 ลิตร สมรรถนะ 85-105 แรงม้า โดยรุ่นสมรรถนะ 85 แรงม้า สามารถรองรับน้ำมันเบนซินและเมทานอล, เครื่องยนต์ TJET ขนาด 1.4 ลิตร ที่สามารถรองรับน้ำมันเบนซินและ LPG สามารถรีดสมรรถนะสูงสุด 120 แรงม้า และเครื่องยนต์ดีเซล MultiJet ที่มีความจุให้เลือกตั้งแต่ 1.3 ลิตร 95 แรงม้า และ 1.6 ลิตร สมรรถนะสูงสุด 120 แรงม้า
พื้นที่โดยสารที่มีทั้ง 5-7 ที่นั่ง ตามรุ่นย่อย
Fiat 500L 2018 มีสีตัวถังให้เลือก 37 แบบ รวมทั้งหลังคา 3 แบบ (สีขาว, สีดำ และสีเดียวกับตัวถัง) และสีพาสเทล หรือสีเมทัลลิกอีก 10 สี รวมถึงสีใหม่อย่าง Bellagio Blue รวมไปถึงชุดแต่งจาก Mopar ให้ลูกค้าได้แต่งเพิ่มอีก 92 รายการ สำหรับรถรุ่นนี้ด้วย