เขียนโดย: Guy Boxza

เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2557 - 12:29

Mitsubishi Evolution มีที่มาเป็นอย่างไรและเป็นที่ถูกใจขาซิ่งได้อย่างไรมาดู

ใครหลายๆคนคงจะรู้จักกันดีกับ "Evo" หรือ "Mitsubishi Lancer Evolution" แล้วรู้หรือไม่ว่ามีต้นกำเนิดมายังไง ? 

เปิดตำนานในปี 1962 โดยทาง Mitsubishi Motor Corporation ได้สนใจอยากนำรถค่ายของตัวเองลงการแข่งขัน Rally ในงาน WRC หรือ World Rally Championship และได้จัดตั้งบริษัทขึ้นมาเพื่อค้นคว้า และ หาเทคนิคต่างๆ เกี่ยวกับ Rally โดยเฉพาะใช้ชื่อว่า RALLIART ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาจนถึงปัจจุบันนี้

Evolution l 

ผลิตขึ้นในปี 1992 ใช้รหัสตัวถังว่า CD 9A ถือว่าเป็น Evolution ตัวแรกในสายการผลิต

Body : ได้รับการพัฒนามาจาก Mitsubishi Lancer ให้มีความแข็งแรงสูงกว่า โดยการเพิ่มจุดเชื่อม Sport ให้มากกว่า เสริมแผ่นเหล็กยึดตัวถังเพิ่มขึ้นหลายจุด เพื่อรองรับแรงกระแทก แรงบิดของเครื่องยนต์ที่แรงขึ้น การบิดตัวของตัวถังรถ และระบบส่งกำลังแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ด้านหน้าเพิ่มกันชนสปอยเลอร์ ที่มีช่องรับลมละบายความร้อนอินเตอร์ และช่องรับลมระบายความร้อนดิสเบรกหน้า ฝากระโปรงหน้าแบบมีช่องระบายอากาศ และสปอยเลอร์หลังทรงสูงแบบชั้นเดียวเพิ่มแรงกดของอากาศ

เครื่องยนต์ : รหัส 4G63T ฝาเทาหรือที่เรียกกันว่าฝากระปิ ได้รับการพัฒนามาจาก Galant VR4 ตัวสุดท้าย ให้มีแรงม้าเพิ่มขี้นจาก 240 แรงม้า โดยมีการปรับปรุงอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ กล่องและแอร์โฟว์ ย้ายคอยล์จุดระเบิดไว้ด้านบนคอไอดี และเทอร์โบมาใช้รหัส TD05H-16G-7 ทำให้มีพลัง 250 แรงม้าที่ 6,000 รอบ / นาที แรงบิดสูงสุด 31.5 kg-m ที่ 3,000 รอบ / นาที

ระบบช่วงล่าง : ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Full Timeได้รับการพัฒนามาจาก VR4 อีกเช่นกันโดยมีอัตราทดเฟืองท้าย 4.376 ระบบรับแรงสั่นสะเทือนแบบแม็คเฟอร์สันสตรัทหน้า และ เทรลลิ่งอาร์ม มัลติลิงค์ กับจานดิสเบรกหน้าขนาดใหญ่ แม่ปั้ม 2 port หน้า และดิสเบรกหลัง

Evolution ll

ผลิตขึ้นในปี 1993 ใช้รหัสตัวถัง CE 9A

Body : พัฒนาต่อเนื่องมาจาก Evolution ฝากระโปรงหน้าแบบมีช่องระบายความร้อนแบบเดียวกับ Evo I กันชนหน้าคล้ายกับ Evo I แต่ช่องระบายความร้อนอินเตอร์คูเลอร์ และช่องลมเป่าดิสเบรกหน้า มีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย และสปอยเลอร์ท้ายแบบทรงสูงเหมือน Evo I แต่ได้เพิ่มชิ้นล่างเป็นสองชั้น เพิ่มแรงกดอากาศเพิ่มขึ้นได้อีกมาก

เครื่องยนต์ : รหัส 4G63T เหมือนกับ Evo I ต่างกันที่เครื่องรุ่นนี้จะใช้น็อตตัวผู้ยึดกับตัวฝาสูป แต่ Evo I และ VR 4 จะมีน็อตตัวผู้โผล่ออกมาแล้วใช้น็อตตัวเมียยึด เปลี่ยนแปลงอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์อีกนิดหน่อย ขยายท่อไอเสียให้ใหญ่ขึ้น และเพิ่มแรงดันเทอร์โบให้สูงขึ้นจนมีพลังอยู่ที่ 260 แรงม้าที่ 6,000 รอบ / นาที และแรงบิด 31.5 kg-m ที่ 3,000 รอบต่อนาที

ช่วงล่าง : ได้รับการปรับปรุงจาก Evo I ให้ฐานล้อมีขนาดกว้างขึ้นอีก 10 มม. เปลี่ยนบูชยาง เหล็กกันโคลง ช็อคอัพและสปริงให้ใหญ่ขึ้น รวมถึงดิสเบรกหน้าหลังที่ขนาดโตขึ้น ล้อ – ยางของ OZ ขนาด 15 นิ้ว และยาง 205 / 60R15 เพิ่มการเกาะถนนได้อีกมาก

Evolution lll

ผลิตขึ้นในปี 1995 ใช้รหัสตัวถังว่า CE 9A ถือเป็น Evo ตัวสุดท้ายในบอดี้นี้

Body : มีการเปลี่ยนแปลงกันชนหน้าให้มีขนาดใหญ่ สวยงามและดุดันขึ้น มีสเกิตบันไดข้างที่มีสัญลักษณ์ว่า Evolution III และสปอยเลอร์หลังทรงสูง และเพิ่มความแข็งแรงโดยมีค้ำกลางช่วยตัดอากาศ และกันชนท้ายที่มีครีบจัดเรียงอากาศ ช่วยให้สวยงามและแกะถนนเพิ่มขึ้นที่ความเร็วสูง

เครื่องยนต์ : รหัส 4G63T ที่พัฒนาเพิ่มม้าขึ้นอีก 10 ตัว โดยการเปลี่ยนเทอร์โบขนาดโตรหัส TD05H-16G-7 เพิ่ม ONE WAY VALE ด้านหลังคอไอดี ทำให้มีแรงม้า 270 ตัวที่ 6,250 รอบ / นาที และแรงบิดสูงสุดที่ 31.5 kg-m ที่ 3,000 รอบ / นาที

ช่วงล่าง : เป็นลักษณะเดียวกันกับ Evo II ด้วยช่วงล่างและระบบเบรกที่เท่ากัน ทำให้ Evo II และ Evo III มีสมรรถนะสูงกว่า Evo I อยู่มาก

 

 
 
 

เราได้ยกตัวอย่างอีโวใน 3 รุ่นแรก มาให้ได้ดูกันและในปัจจุบันเจ้า Mitsubishi Evolution นั้นได้มีทั้งหมดถึง 10 รุ่นกันเลยทีเดียวและในส่วนของตัว Body เครื่องยนต์ ช่วงล่าง จะเป็นยังไงในแต่ละรุ่นนั้นสามารถติดตามข่าวสารได้ที่ Boxzaracing.com

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook