Honda Odyssey โฉมอเมริกาโมเดลเชนจ์ใหม่
Honda Odyssey เป็นรถมินิแวนที่ประสบความสำเร็จมากในอเมริกาเหนือ จนต้องแยกโฉมหน้าตาต่างจากภูมิภาคอื่นๆ เพื่อให้ตรงใจรสนิยมคนอเมริกัน ล่าสุดได้เปิดตัวโฉมโมเดลเชนจ์เป็นเจเนอร์เรชั่นที่ 5 ชูดจุดเด่นให้ผู้โดยสารตอนหน้าสอดส่องคนนั่งหลังได้ง่าย พร้อมกับระบบความบันเทิงจัดเต็มสุดกระหึ่ม
Honda Odyssey ชุดจุดเด่นที่ระบบกล้องภายในชื่อว่า CabinWatch ติดตั้งกล้องตรงเพดานภายในห้องโดยสาร หันมุมภาพไปทางเบาะตอนหลัง เพื่อให้คนนั่งคู่หน้าสอดส่องคนนั่งหลังผ่านจอขนาด 8" กลางคอนโซลได้อย่างง่ายดายกว่าการหันตัวไปมอง พ่วงด้วยระบบ CabinTalk ให้คนนั่งหน้าพูดผ่านเครื่องขยายเสียงไปสู่ลำโพงและหูฟังของตอนหลัง และระบบ CabinControl สามารถควบคุมอุณหภูมิห้องโดยสาร ระบบความบันเทิงตอนหลัง ได้ผ่านทางแอพบนมือถือ เหมาะกับรถครอบครัวที่ผู้ปกครองพาลูกๆ ไปเดินทางด้วยกันอย่างมาก
ระบบ CabinWatch ช่วยสอดส่องผู้นั่งตอนหลัง
ระบบความบันเทิงจัดเต็มด้วยหน้าจอ 10.2" ที่ใช้เล่นเกมส์ ท่องเว็บไซต์ หรือดูรายการทีวีผ่านอินเตอร์เน็ต มีรายการเพลงแบบ SocialPlaylist สามารถตั้งแยกฟังเฉพาะคนได้ พร้อมแอพ How Much Farther ซึ่งแสดงผลการเดินทางว่าไปถึงไหนแล้ว ระบบนำทางยังสามารถนำเข้าจุดหมายปลายทางได้จากมือถือโดยตรง
Honda Odyssey มีเบาะแถวกลางใช้ระบบราง "Magic Slide" ทำให้เลื่อนไปข้างๆ ได้ เมื่อไม่มีเบาะนั่งกลาง เมื่อพับเบาะกลางออกก็สามารถเลื่อนเบาะคู่ซ้ายขวาได้อิสระ เพื่อเพิ่มพื้นที่เดินทะลุไปยังเบาะแถวสามได้สะดวกกว่าวิธีพับเบาะแบบเดิมๆ พื้นรถที่เรียบและต่ำ ทำให้ผู้ใหญ่นั่งหย่อนขาได้สบายๆโดยยังเหลือพื้นที่ศีรษะ
ดีไซน์สวยงามหรูหราขึ้น
ภายนอกออกแบบแนวสปอร์ตฉีกแนวจากรถครอบครัวค่ายอื่นๆในปัจจุบัน เส้นสายเหลี่ยมแข็งแรง ไฟหน้า-หลังเรียวแหลมกว่าเดิม ขอบกระจกรอบคันประดับด้วยโครเมียม ซ่อนรางประตูเลื่อนรวมกับช่องกระจก คงเอกลักษณ์เส้นข้างรถลายหยักสายฟ้าฟาด โครงสร้างใช้วัสดุปรับปรุงขึ้นโดยใช้เหล็กเนื้อเหนียว, แม็กนีเซียม และอะลูมิเนียม เครื่องยนต์ 3.5 ลิตร V6 กำลัง 280 แรงม้า เพิ่มขึ้น 32 ตัว จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติใหม่ล่าสุด 9 หรือ 10 สปีด
Honda Odyssey มีระบบความปลอดภัยตามสมัยนิยมด้วย Honda Sensing โชว์ภาพเตือนจุดบอด ระบบเตือนการชนด้านหน้าพร้อมเบรคอัตโนมัติ ระบบรักษาเลน ระบบช่วยทรงตัว และช่วยถอยจอด รถมินิแวนเจเนอร์เรชั่นที่ 5 โฉมอเมริกาเหนือนี้ พร้อมทำตลาดแล้วในไตรมาส 2 ปีนี้
