บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย นำโดย มร. สเตฟาน ทอยเชอร์ต (ที่ 4 จากขวา) ประธาน มอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าและรถยนต์รุ่นระบบปลั๊กอิน ไฮบริดให้แก่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) นำโดย รศ. ดร. ศักรินทร์ ภูมิรัตน (ที่ 4 จากซ้าย) อธิการบดี สำหรับนำไปใช้ในโครงการ Charge & Share ภายใต้บันทึกข้อตกลงเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าและระบบการใช้ยานพาหนะร่วมกันในประเทศไทย
BMW Group ประเทศไทย ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) เพื่อผนึกกำลังกันศึกษาความเป็นไปได้ในการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าและระบบการใช้ยานพาหนะร่วมกัน (Car Sharing) ในประเทศไทย ภายใต้โครงการ "Electric Vehicle Charging and Car Sharing Zones" หรือ Charge & Share ที่มหาวิทยาลัยฯ จัดขึ้น โดย BMW Group ประเทศไทย ได้นำรถยนต์ BMW i3 รถยนต์พลังงานไฟฟ้าโดยสมบูรณ์ ปราศจากการปล่อยไอเสีย พร้อมด้วยรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด BMW 330e และ BMW X5 xDrive40e มาให้ทางมหาวิทยาลัยนำไปทดลองใช้ในโครงการดังกล่าว เพื่อศึกษาลักษณะการใช้งานซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าภายในมหาวิทยาลัย และระบบ Car Sharing ของประเทศไทยในอนาคต
มร. สเตฟาน ทอยเชอร์ต ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า "หนึ่งในพันธกิจที่สำคัญของบีเอ็มดับเบิลยูคือ ความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ยนตรกรรมที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ด้วยนวัตกรรมล้ำสมัยและดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ ความสำเร็จของเราจึงสะท้อนอยู่ในนวัตกรรมการขับเคลื่อน ทั้งในระบบไฟฟ้าโดยสมบูรณ์และในระบบปลั๊กอินไฮบริด พร้อมกันนี้ เราได้ร่วมมืออย่างต่อเนื่องกับทั้งภาครัฐและพันธมิตรภาคเอกชน ในการต่อยอดความสำเร็จดังกล่าว ผ่านการสนับสนุนการพัฒนาระบบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับยนตรกรรมไฟฟ้า และการติดตั้งสถานีชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า เรายินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ มจธ. ดำเนินโครงการนำร่อง Charge & Share และเชื่อมั่นว่าโครงการนี้จะเป็นอีกก้าวสำคัญที่จะนำประเทศไทยนำไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน"
BMW X5 xDrive40e
ดร.ยศพงษ์ ลออนวล ประธานคลัสเตอร์วิจัยยานยนต์ มจธ. กล่าวว่า "Charge & Share เป็นโครงการนำร่องที่มีระยะเวลา 2 ปี ภายใต้ศูนย์ Lo-Ve หรือ Center of Low Carbon Vehicle ในคลัสเตอร์วิจัยยานยนต์ของ มจธ. โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในรั้ว มจธ. ให้เป็นรูปธรรม และเปลี่ยนรูปแบบการเดินทางมาเป็น Car Sharing เพื่อศึกษาพฤติกรรมของคนไทยในการใช้งานระบบดังกล่าวด้วย"
ดร.วศิน เกียรติโกมล หัวหน้าโครงการ Charge & Share กล่าวว่า "ในโครงการ Charge & Share นั้น มจธ. ได้เปิดสถานีประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าขึ้น โดยมีรถยนต์ให้บริการในรูปแบบ Car Sharing หนึ่งในนั้นเป็นรถยนต์ไฟฟ้า บีเอ็มดับเบิลยู i3 จากบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ซึ่งบุคลากรของมหาวิทยาลัยจะนำไปใช้ในงานราชการ พร้อมเก็บข้อมูลพฤติกรรมการขับขี่ เพื่อศึกษาลักษณะการใช้งาน รวมถึงข้อจำกัดต่างๆ ของการใช้รถยนต์ไฟฟ้า ควบคู่กับการศึกษาพฤติกรรมของคนไทยในการใช้บริการระบบ Car Sharing และ EV Car Sharing เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย และระบบ Car Sharing ซึ่งได้รับความร่วมมือจากบริษัท ฮ้อปคาร์ จำกัด* ในการช่วยบริหารจัดการระบบ Car Sharing ในการจองและคืนรถอีกด้วย"
BMW i3
BMW i3 รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าโดยสมบูรณ์ และถือเป็นจุดเริ่มต้นของยุคแห่งยนตรกรรมระบบไฟฟ้าในประเทศไทยอย่างแท้จริง ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีระบบส่งกำลัง BMW eDrive พร้อมด้วยการออกแบบภายใต้เทคโนโลยี BMW EfficientDynamics จึงไม่เพียงปราศจากการปล่อยไอเสีย แต่ยังมอบประสบการณ์ความเงียบขณะขับขี่ที่แทบเรียกได้ว่าไร้เสียง ซึ่งทำให้ BMW i3 จึงได้รับรางวัลด้านสิ่งแวดล้อมและด้านการดีไซน์แห่งปี พ.ศ. 2557 หรือ 2014 World Green Car of the Year และ 2014 World Car Design of the Year
BMW 330e
สำหรับรถยนต์ BMW ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดในรุ่น BMW X5 xDrive40e และ BMW 330e นั้น ได้นำพลังของมอเตอร์ไฟฟ้ามาใช้งานได้อย่างคุ้มค่า ช่วยลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง และสามารถเลือกนำมาขับขี่ในตัวเมืองได้โดยไม่ปล่อยมลภาวะออกจากท่อไอเสีย แบตเตอรี่ของรถสามารถชาร์จได้กับปลั๊กไฟบ้านทั่วไป โดย BMW X5 xDrive40e จะใช้เวลาชาร์จด้วยไฟบ้านราว 3 ชั่วโมง 50 นาที มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ 31.3 กิโลเมตรต่อลิตรและลดระดับมลภาวะในการขับขี่กับอัตราการปล่อย CO2 ที่ 76 กรัมต่อกิโลเมตรขณะที่ BMW 330e จะชาร์จไฟได้เต็มในเวลาราว 3 ชั่วโมง มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยที่ 41.7 กิโลเมตรต่อลิตรและลดระดับมลภาวะในการขับขี่กับอัตราการปล่อย CO2 ที่ 57 กรัมต่อกิโลเมตรเท่านั้น