เขียนโดย: Monster Racing

เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2559 - 06:39

BMW เปิดตัว M4 GTS ที่สุดแห่งสมรรถนะ ส่งตรงจากสนามแข่ง จำนวนจำกัดเพียง 2 คันในประเทศไทย

 

          บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย พร้อมนำทัพนวัตกรรมยานยนต์ล้ำยุค และข้อเสนอพิเศษสุดจากทั้ง BMW, Mini และ BMW Motorrad มุ่งหน้าสู่งาน Thailand International Motor Expo 2016 มหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 33 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 1-12 ธันวาคม 2559 นี้ นำโดยบีเอ็มดับเบิลยู M4 GTS ที่สุดแห่งสมรรถนะบนท้องถนน ที่เปี่ยมด้วยเทคโนโลยีระดับโลกจากสนามแข่ง และโฉมใหม่ของรถสปอร์ตปลั๊กอินไฮบริดแห่งอนาคต บีเอ็มดับเบิลยู i8 Protonic Red Edition ร่วมด้วยการเปิดตัวยนตรกรรมปลั๊กอินไฮบริดรุ่นประกอบในประเทศไทยอย่าง บีเอ็มดับเบิลยู 330e Luxury และ บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive40e M Sport นอกจากนี้ มินิยังมาพร้อมกับรุ่นพิเศษมินิ คูเปอร์ เอส ‘Seven Edition’ รวมถึงมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR HP Line และ S 1000 XR HP Line ที่ครบเครื่องกว่าเดิมด้วยฟังก์ชันมากมายสำหรับคอบิ๊กไบค์ตัวจริง

 

BMW M4 GTS

 

          BMW M4 GTS เป็นรถยนต์รุ่นพิเศษ ที่ต่อยอดความเป็นที่สุดด้านสมรรถนะของ BMW M4 Coupe ไปอีกขั้น ด้วยเทคโนโลยี และรูปลักษณ์ภายนอกที่ส่งตรงจากสนามแข่ง พร้อมตอบสนองทุกโจทย์การขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นในสนามแข่งหรือบนท้องถนนทั่วไป

 

BMW M4 GTS เป็นยนตกรรมที่เร็ว และแรงที่สุดของ BMW M

 

          นอกจากจะเป็นรถยนต์ BMW ที่เร็ว และแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา BMW M4 GTS ยังเป็นยนตรกรรมรุ่นพิเศษที่ผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดเพียง 700 คันทั่วโลก เนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ปีของรถยนต์สปอร์ตระดับตำนานอย่าง BMW M3 ที่ได้เริ่มผลิตเป็นครั้งแรกในปี 1986

 

BMW M4 GTS ใช้ขุมพลังเทอร์โบ 6 สูบ ขนาด 3.0 ลิตร เทคโนโลยีระบบหัวฉีดน้ำ ให้พละกำลังสูงถึง 500 แรงม้า และแรงบิด 600 นิวตัน-เมตร

 

          BMW M4 GTS ใช้ขุมพลังเทอร์โบ 6 สูบ ขนาด 3.0 ลิตร รุ่นเดียวกับ BMW M3 และ M4 รุ่นเดิม แต่เสริมสมรรถนะอีกขั้นด้วยเทคโนโลยีระบบหัวฉีดน้ำ (water injection) ที่เปิดตัวออกสู่ตลาดเป็นครั้งแรก หลังจากที่ช่วยขับเคลื่อนให้รถแข่ง BMW M4 DTM ของนักขับชาวเยอรมัน มาร์โก วิทแมนน์ สามารถคว้าแชมป์การแข่งขันทัวริ่งคาร์รายการ DTM (Deutsche Tourenwagen Masters) ประจำปี 2014 และ 2016 ไปครองได้สำเร็จ เทคโนโลยีหัวฉีดน้ำนี้ช่วยให้เครื่องยนต์ของ BMW M4 GTS มีพละกำลังสูงสุดถึง 368 กิโลวัตต์ / 500 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 600 นิวตัน-เมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ในเวลาเพียง 3.8 วินาที และมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 305 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยที่ยังมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงในระดับเดียวกับ BMW M4 Coupe รุ่นมาตรฐาน

 

BMW M4 GTS ใช้วัสดุ CFRP (carbon-fibre-reinforced plastic) เพื่อรีดน้ำหนักให้เบาที่สุด แต่ยังคงความแข็งแรง

 

สปลิตเตอร์หน้าคาร์บอนไฟเบอร์ และล้ออัลลอยน้ำหนักเบา สี Acid Orange

 

          นอกจากเครื่องยนต์อันทรงพลังแล้ว BMW M4 GTS ยังตอบสนองฉับไว ด้วยตัวถังน้ำหนักเบาที่มีอัตราน้ำหนักต่อกำลังขับที่ 3.0 กิโลกรัมต่อแรงม้า โดยในส่วนกระโปรงหน้า-หลัง หลังคา สปลิตเตอร์หน้า และสปอยเลอร์ เลือกใช้วัสดุล้ำยุคอย่าง CFRP (carbon-fibre-reinforced plastic) ที่ทั้งแข็งแรง และมีน้ำหนักเบา เข้ากันกับงานออกแบบภายในที่เน้นการใช้วัสดุน้ำหนักเบาเพื่อความหรูในสไตล์สปอร์ตพันธุ์แท้ ส่วนระบบเกียร์ M DCT (M Double Clutch Transmission) 7 สปีด ทำงานผสานกับเครื่องยนต์อย่างลงตัว เพื่อส่งพละกำลังลงสู่ล้ออัลลอยน้ำหนักเบาสีส้ม Acid Orange รุ่น 666 M Styling เสริมความมั่นใจบนทุกเส้นทางด้วยระบบช่วงล่างแบบ M coilover และเบรกคาร์บอนเซรามิก

 

Diffuser ท้ายแบบคาร์บอนไฟเบอร์ ออกแบบให้สามารถรีดอากาศใต้ท้องรถอย่างเต็มประสิทธิภาพ

 

สปอยเลอร์หลังคาร์บอนไฟเบอร์ สามารถปรับระดับความสูง-ต่ำได้

 

          BMW M4 GTS มาพร้อมกับการวิวัฒนาการเทคโนโลยีไฟท้ายแบบ OLED (BMW Organic Light) สำหรับการผลิตซีรี่ส์รถยนต์เป็นครั้งแรกในโลก โดยระบบไฟแบบ OLED นี้ ให้แสงสว่างบนพื้นผิวแบบกระจายตัวทั่วๆ กัน แทนที่จะเป็นแบบจุดเฉพาะเช่นไฟ LED ทั่วไป ผ่านวัสดุเซมิคอนดัคทีฟบางเฉียบ สร้างแสงไฟท้ายที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในรูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

 

ไฟท้ายแบบ OLED (BMW Organic Light) ครั้งแรกของโลกกับนวัตกรรม OLED ในรถยนต์

 

          สำหรับภายในของ BMW M4 GTS จัดแต่งความสปอร์ตจากสนามแข่ง พร้อมทั้งยังคงความสะดวกสบายแบบ BMW M4 Coupe ด้วยการติดตั้งโรลบาร์สี Acid Orange เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง และปลอดภัยภายในห้องโดยสาร นอกจากนี้ยังมีถังดับเพลิงขนาดเล็ก เช่นเดียวกับในรถแข่ง ส่วนคอนโซลหน้าเพิ่มเติมความสปอร์ตด้วยหนัง Alcantara ที่ยังคงความสะดวกสบาย ด้วยอุปกรณ์ และเทคโนโลยีจาก BMW M4 Coupe ปิดท้ายด้วยเบาะนั่งแบบ Bucket Seat พร้อมสายรัดนิรภัยทั้ง 6 จุด ที่ให้อารมณ์การขับขี่ดุจสนามแข่ง

 

ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยหนัง Alcantara เพิ่มความสปอร์ต แต่ยังคงให้ความสะดวกสบายที่ครบครัน

 

ภายในห้องโดยสารเพิ่มความสปอร์ตด้วยโรลบาร์ และถังดับเพลิง พร้อมทั้งเบาะนั่งแบบ Bucket Seat พร้อมสายรัดนิรภัย 6 จุด เฉกเช่นรถแข่ง

 

          สำหรับ BMW M4 GTS เป็นยนตรกรรมรุ่นพิเศษที่ผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดเพียง 700 คันทั่วโลก และสำหรับประเทศไทยมีจำหน่ายเพียงจำนวน 2 คัน ในราคา 13,999,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ซึ่งจะเปิดตัวสู่สาธารณะชนครั้งแรกที่งาน Motor Expo 2016 ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 1-12 ธันวาคมนี้ ณ ชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี พร้อมรับข้อเสนอ และโปรโมชั่นสุดพิเศษภายในงาน และสำหรับลูกค้า BMW M4 Competition Package และ M4 GTS ที่จองรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2559 จะได้รับสิทธิในการเข้าร่วมโปรแกรม BMW M Driver Training ที่ประเทศเยอรมนี ระยะเวลา 5 วัน 4 คืน รวมค่าตั๋วเครื่องบิน โรงแรมที่พัก และโปรแกรมนำเที่ยวในมิวนิคสำหรับ 1 ท่าน

 

BMW M4 GTS มีจำหน่ายในประเทศไทยเพียง 2 คัน ในราคา 13,999,000 บาท

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook